โหมดทางดนตรี เจาะลึกโลกแห่งเสียงที่หลากหลาย

Musical Mode For Guitar

     คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมเพลงบางเพลงถึงฟังแล้วรู้สึกเศร้า เมโลดี้บางท่อนถึงให้ความรู้สึกสดใส หรือทำไมฮาร์โมนีบางชุดถึงฟังแล้วรู้สึกขลัง คำตอบส่วนหนึ่งอยู่ที่ โหมดทางดนตรี (Musical Modes) นั่นเอง


โหมดคืออะไร?

     โหมดทางดนตรีก็คือรูปแบบหนึ่งของบันไดเสียง (Scale) ที่เราคุ้นเคยกันดี แต่มีการจัดเรียงโน้ตในลำดับที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เกิดสีสันและอารมณ์ที่หลากหลายขึ้นมา โหมดแต่ละโหมดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถนำมาใช้สร้างสรรค์เพลงได้หลากหลายแนว


ทำไมต้องเรียนรู้โหมด?

  • ขยายขอบเขตทางดนตรี: การเรียนรู้โหมดจะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์เมโลดี้และฮาร์โมนีที่หลากหลายมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงสเกลเมเจอร์และไมเนอร์
  • เข้าใจทฤษฎีดนตรีลึกซึ้งยิ่งขึ้น: การทำความเข้าใจโหมดจะช่วยให้คุณเข้าใจโครงสร้างของเพลงได้ดีขึ้น และสามารถวิเคราะห์เพลงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • พัฒนาฝีมือการแต่งเพลง: การเลือกใช้โหมดที่เหมาะสมจะช่วยให้เพลงของคุณมีความน่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

Telecaster Guitar

โหมดทั้ง 7 ที่สำคัญ

     โดยทั่วไปแล้ว โหมดที่เราพบเจอบ่อยที่สุดจะมีทั้งหมด 7 โหมด ซึ่งได้มาจากการนำสเกลเมเจอร์มาจัดเรียงใหม่ โดยเริ่มต้นที่โน้ตตัวที่ต่างกันออกไป แต่ละโหมดจะมีลักษณะเด่นดังนี้

  1. Ionian (ไอโอเนียน): โหมดนี้ก็คือสเกลเมเจอร์นั่นเอง ให้ความรู้สึกสดใสและมีความสุข
  2. Dorian (ดอเรียน): ให้ความรู้สึกเศร้าแต่มีเสน่ห์ เป็นที่นิยมใช้ในเพลงแจ๊สและบลูส์
  3. Phrygian (ฟริเจียน): ให้ความรู้สึกลึกลับและน่าค้นหา มักใช้ในเพลงแนวโอเรียนทัล
  4. Lydian (ลิเดียน): ให้ความรู้สึกสดใสและแจ่มใส มีความสว่างไสว
  5. Mixolydian (มิกโซไลเดียน): ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง มักใช้ในเพลงร็อกและคันทรี
  6. Aeolian (เอโอเลียน): โหมดนี้ก็คือสเกลไมเนอร์ธรรมดา ให้ความรู้สึกเศร้าและหม่นหมอง
  7. Locrian (โลเครียน): ให้ความรู้สึกมืดมนและน่ากลัว ไม่ค่อยนิยมใช้เป็นสเกลหลักในการแต่งเพลง


โครงสร้างของโหมด

     โครงสร้างของโหมดแต่ละโหมดจะแตกต่างกันออกไป โดยจะขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างโน้ตแต่ละตัวในสเกล เช่น โหมดเมเจอร์จะมีโครงสร้างเป็น W-W-H-W-W-W-H (W = whole step, H = half step) ซึ่งหมายความว่าระยะห่างระหว่างโน้ตตัวแรกกับตัวที่สองจะเป็นหนึ่งขั้น (whole step) และระยะห่างระหว่างโน้ตตัวที่สามกับตัวที่สี่จะเป็นครึ่งขั้น (half step) เป็นต้น


การนำโหมดไปใช้ในการแต่งเพลง

     การนำโหมดไปใช้ในการแต่งเพลงนั้นมีหลายวิธี เช่น

  • สร้างเมโลดี้: เลือกโน้ตจากโหมดที่ต้องการมาสร้างเมโลดี้
  • สร้างฮาร์โมนี: สร้างคอร์ดโดยใช้โน้ตจากโหมดที่เลือก
  • สร้างโปรเกรสชั่น: สร้างลำดับของคอร์ดโดยใช้โหมดต่างๆ ผสมกัน

Musical Mode For Play Guitar

ตัวอย่างการใช้โหมด

  • เพลงแจ๊ส: มักใช้โหมด Dorian และ Phrygian เพื่อสร้างความรู้สึกที่ซับซ้อนและน่าสนใจ
  • เพลงบลูส์: มักใช้โหมด Mixolydian เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง
  • เพลงร็อก: มักใช้โหมด Mixolydian และ Aeolian เพื่อสร้างความรู้สึกหนักแน่นและทรงพลัง


     โหมดทางดนตรีเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างสรรค์เพลงที่หลากหลาย การทำความเข้าใจโหมดจะช่วยให้คุณสามารถขยายขอบเขตทางดนตรีของคุณ และสร้างสรรค์เพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเองได้


คำแนะนำเพิ่มเติม

  • ฝึกเล่นสเกลและโหมด: การฝึกเล่นสเกลและโหมดเป็นประจำจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับเสียงของแต่ละโหมดและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแต่งเพลงได้ง่ายขึ้น
  • ลองสร้างเพลงโดยใช้โหมดต่างๆ: การลองผิดลองถูกเป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาฝีมือ
  • ฟังเพลงจากศิลปินที่คุณชื่นชอบ: พยายามฟังเพลงและวิเคราะห์ว่าศิลปินคนนั้นใช้โหมดอะไรในการแต่งเพลง
Woman Solo Guitar


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น