กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 เสียงหนา เล่นง่าย ดีไซน์เท่เกินราคา

กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 และ EC-256FM หลายสีจาก CT Music พร้อมโลโก้ร้านด้านล่าง

     กีต้าร์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ช่วยบอกตัวตนของนักดนตรีได้ชัดเจน ทั้งเรื่องโทนเสียงและภาพลักษณ์บนเวที รีวิวนี้ชวนมาทำความรู้จักเชิงลึกกับ กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 และรุ่นที่อยู่ในตระกูลเดียวกันอย่าง EC-256FM ว่ามีโครงสร้าง วัสดุ และระบบไฟฟ้าแบบใด เมื่อนำไปใช้งานจริงให้ความรู้สึกแบบใด และเหมาะกับใครบ้าง ตั้งแต่มือใหม่ที่กำลังมองหากีต้าร์ตัวแรก ไปจนถึงผู้เล่นที่ต้องการกีต้าร์ทำงานในราคาจับต้องได้


ภาพรวมของซีรีส์ กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 และ EC-256FM ในโลกกีต้าร์ไฟฟ้า

กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 สีดำด้านเรียงครบทั้งคอและบอดี้เหมาะกับแนวร็อกและเมทัล

    ซีรีส์ EC-256 และ EC-256FM ได้รับการออกแบบให้เป็นกีต้าร์ทรงซิงเกิลคัตระดับกลางที่ให้สเปกจริงจังเกินราคาค่าตัว รูปลักษณ์ภายนอกยังคงให้ความรู้สึกคลาสสิก แต่มีการปรับรายละเอียดหลายส่วนให้เข้ากับสไตล์การเล่นในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคอที่จับถนัดมือ การตั้งสายที่มั่นคง ไปจนถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับแนวดนตรีได้หลากหลาย


     สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นแต่ตั้งใจฝึกอย่างจริงจัง รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะไม่ใช่กีต้าร์ที่ใช้เพียงระยะเริ่มต้นแล้วต้องรีบเปลี่ยน แต่สามารถใช้ต่อเนื่องไปจนถึงขั้นขึ้นเวทีหรืออัดเสียงได้ ส่วนผู้เล่นที่มีประสบการณ์อยู่แล้วก็มักมองรุ่นนี้เป็นกีต้าร์ทำงานหรือกีต้าร์สำรอง ที่สามารถนำไปเล่นแนวร็อก ป๊อปร็อก หรือเมทัลเบา ๆ ได้อย่างมั่นใจ ด้วยโทนเสียงที่หนา ชัดเจน และควบคุมได้ไม่ยาก


โครงสร้างตัวกีต้าร์และวัสดุที่กำหนดบุคลิกเสียง

     สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้แตกต่างจากกีต้าร์ระดับเริ่มต้นทั่วไป คือโครงสร้างคอแบบ Set-Neck ซึ่งเป็นการยึดคอเข้ากับบอดี้อย่างแนบแน่น ไม่ได้ใช้การขันน็อตแบบ bolt-on การส่งแรงสั่นจากสายไปยังตัวไม้จึงต่อเนื่องมากขึ้น ทำให้เสียงยาวหรือ sustain ดี เวลาเล่นโซโล่เป็นโน้ตยาว ๆ จะรู้สึกได้ว่าเสียงยังลากต่อเนื่อง ไม่หายหรือเบาลงเร็วเกินไป

กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 สีขาวทั้งตัว บอดี้ทรงซิงเกิลคัตพร้อมฟิงเกอร์บอร์ดสีเข้มตัดกันชัดเจน

     บอดี้ทำจากไม้ mahogany ซึ่งเป็นไม้ที่ได้รับความนิยมมากในกีต้าร์แนวร็อกและเมทัล เพราะให้โทนเสียงหนา อบอุ่น และเน้นย่านกลางชัดเจน เวลาเล่นริฟฟ์หรือตีคอร์ดแรง ๆ เสียงยังคงแน่น ไม่แตกกระจายจนฟังไม่ชัด แม้ใช้ร่วมกับเสียงแตกที่มี Gain สูง เสียงของแต่ละโน้ตยังแยกแยะได้ชัดเจน ไม่ปะปนกันจนฟังไม่ออกว่าเล่นโน้ตอะไร


     ในรุ่น EC-256FM มีการเพิ่มไม้ท็อปเป็น flamed maple ปิดทับบนบอดี้อีกชั้นหนึ่ง ไม้เมเปิลช่วยให้ย่านปลายเสียงเปิดมากขึ้นเล็กน้อย ทำให้เสียงโซโล่มีประกายและรายละเอียดเพิ่มขึ้น เสียง clean ก็จะฟังใสและชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ลายไม้ flamed เมื่อสะท้อนกับแสงไฟเวทีหรือแสงจากการถ่ายภาพ จะช่วยให้กีต้าร์ดูมีมิติและโดดเด่นกว่ากีต้าร์หน้าทึบทั่วไป เหมาะกับคนที่ใส่ใจกับรูปลักษณ์พอ ๆ กับเรื่องเสียง

กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 รุ่น EC-256FM ลายไม้เฟลมสีม่วงอินเลย์บล็อกเต็มฟิงเกอร์บอร์ดเน้นลุคทันสมัย

โปรไฟล์คอ Thin U สเกล 24.75 นิ้ว และฟิงเกอร์บอร์ด Roasted Jatoba

     โปรไฟล์คอแบบ Thin U เป็นทรงที่บางกำลังดี ไม่หนาเกินไปจนโอบไม่ถนัด และไม่บางเกินไปจนควบคุมยาก มือขนาดเล็กสามารถโอบคอได้สบาย ส่วนผู้ที่มีมือใหญ่ก็ยังรู้สึกมั่นคง เวลาเล่นคอร์ดแบบ barre ที่ใช้นิ้วชี้กดพาดหลายสายในเฟรตเดียว หรือกดโน้ตหลายสายพร้อมกัน มือจึงไม่ล้าหรือเมื่อยเร็วเกินไป


     สเกลความยาวคอ 24.75 นิ้ว เป็นขนาดมาตรฐานที่ทำให้แรงตึงของสายไม่แข็งเกินไป ดันสายหรือ bend ได้ไม่ยาก มือใหม่ที่ยังไม่คุ้นกับการดันสายจะรู้สึกว่าควบคุมระดับเสียงได้ง่ายขึ้น ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้ roasted jatoba ซึ่งผ่านการอบให้เนื้อไม้มีความเสถียร ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ไม่คดงอง่าย และช่วยให้เสียงที่ส่งผ่านฟิงเกอร์บอร์ดชัดเจนขึ้นเล็กน้อย

กีต้าร์ลายไม้เฟลมสีน้ำเงินบอดี้ซิงเกิลคัตคู่ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์และฟิงเกอร์บอร์ดอินเลย์บล็อก

     รัศมีฟิงเกอร์บอร์ดประมาณ 350 มิลลิเมตร ถือเป็นค่ากลางที่ช่วยให้เล่นได้ทั้งคอร์ดและโซโล่ได้สบาย ไม่โค้งมากจนกดคอร์ดยาก และไม่แบนจนรู้สึกแปลกมือเวลาเล่นโน้ตเดี่ยว เฟรตขนาดใหญ่แบบ XJ ช่วยให้กดสายติดเฟรตได้ง่าย ใช้แรงนิ้วน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเล่นลีด เล่นโน้ตต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง หรือใช้เทคนิคอย่าง hammer-on และ pull-off ที่ต้องการให้เฟรตตอบสนองไวและชัดเจน


ฟีเจอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256

     ในส่วนของระบบไฟฟ้า ทั้ง EC-256 และ EC-256FM ใช้ปิ๊กอัพแบบ humbucker รุ่น ESP Designed LH-150 ติดตั้งทั้งตำแหน่งคอและบริดจ์ จุดเด่นคือให้ Gain เพียงพอสำหรับเล่นแนวร็อกและเมทัล แต่ยังคงความชัดของแต่ละโน้ตเวลาเล่นคอร์ดหรือลูกริฟฟ์ เสียงจากปิ๊กอัพตำแหน่งบริดจ์จะคมและได้ยินชัดเจน ไม่ถูกกลบโดยเสียงเครื่องดนตรีอื่นในวง ส่วนปิ๊กอัพตำแหน่งคอจะให้เสียงหนา นุ่ม เหมาะกับเมโลดี้ยาว ๆ หรือโซโล่ที่ต้องการโทนเสียงนุ่ม ลึก และเต็มเนื้อเสียง

กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 รุ่น EC-256FM ลายไม้เฟลมสีน้ำตาลซันเบิร์สต์พร้อมฮาร์ดแวร์โครมเต็มตัว

     ระบบคอนโทรลแยกปุ่ม Volume ให้แต่ละปิ๊กอัพ ทำให้ตั้งระดับเสียงของตำแหน่งคอและบริดจ์ต่างกันได้ เช่น ตั้งให้ตำแหน่งคอเบากว่าสำหรับท่อนร้อง แล้วใช้ตำแหน่งบริดจ์ที่ดังขึ้นสำหรับท่อนโซโล่ นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Tone ที่ดึงขึ้นมาเพื่อแยกคอยล์ให้ได้โทนเสียงใกล้เคียง single coil เหมาะกับเสียง clean ใส ๆ หรือจังหวะฟังก์ที่ต้องการเสียงกระชับ ไม่หนามาก


     วงจรทั้งหมดเป็นแบบ passive คือไม่มีวงจรขยายสัญญาณในตัว เสียงที่ได้จึงค่อนข้างเป็นธรรมชาติ บุคลิกเสียงหลักมาจากการเล่นของผู้เล่นร่วมกับแอมป์และเอฟเฟคภายนอก มือใหม่ที่ยังอยู่ในช่วงทดลองแอมป์และเพดัลหลายรูปแบบจะสนุกกับการปรับโทน โดยไม่รู้สึกว่ากีต้าร์บังคับให้เสียงออกมาเพียงแนวเดียว


ตัวอย่างโทนเสียงและการนำไปใช้ในแนวดนตรีต่าง ๆ

     เมื่อเลือกใช้ปิ๊กอัพตำแหน่งบริดจ์ร่วมกับเสียงแตกที่มี Gain ระดับกลางถึงสูง เสียงริฟฟ์ที่ได้จะมีปลายคม ฟังชัด ไม่ถูกกลบง่าย และยังมีน้ำหนักในย่านกลางล่าง ทำให้โทนโดยรวมรู้สึกแน่น ไม่บาง หากเล่นในวงสามชิ้นที่มีกีต้าร์ เบส และกลอง กีต้าร์จะช่วยเติมเต็มช่องว่างของเสียงในมิกซ์ ทำให้ดนตรีฟังแล้วเต็มและสมดุลมากขึ้น


     ในทางกลับกัน หากเปลี่ยนมาใช้ปิ๊กอัพตำแหน่งคอ ลดโทนลงเล็กน้อย แล้วใช้เสียงแตกเพียงอ่อน ๆ หรือใช้เสียง clean จะได้โซโล่ที่นุ่ม ฟังสบาย เหมาะสำหรับบลูส์ ร็อกคลาสสิก หรือเมโลดี้ช้า ๆ ที่เน้นอารมณ์มากกว่าความเร็ว เมื่อเปิดฟังก์ชันแยกคอยล์ร่วมด้วย เสียงจะใสขึ้น เหมาะกับการเล่นคอร์ดเปิด อาร์เปจิโอ หรือเพลงป๊อปที่ต้องการให้กีต้าร์อยู่เคียงกับเสียงร้องโดยไม่แย่งความเด่นจนเกินไป

คลิป YouTube

เครดิต : CT Music Shop / Chordtabs


เอกลักษณ์ด้านดีไซน์ สีสัน และภาพลักษณ์บนเวที

กีต้าร์ทรงซิงเกิลคัตสีดำเงาพร้อมฮาร์ดแวร์ชุบทองและปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์สองตัวเต็มตัว

     ในด้านรูปลักษณ์ รุ่นนี้มีตัวเลือกสีให้เลือกหลายแบบ สีพื้นสไตล์คลาสสิกอย่าง Black และ Black Satin เหมาะกับสายร็อกที่ชอบลุคเข้ม ส่วน Snow White จะให้ภาพลักษณ์ที่สะอาดตา เข้ากับแนวป๊อปหรือวงที่ต้องการภาพรวมดูสว่างและทันสมัย


     สำหรับรุ่นที่ใช้ท็อป flamed maple อย่าง EC-256FM จะมีสีอย่าง Lemon Drop, Purple Sunburst, Dark Brown Sunburst และโทนไม้ธรรมชาติอย่าง Vintage Natural ซึ่งโชว์ลายไม้ชัดเจน ภายใต้แสงไฟเวทีหรือตอนถ่ายภาพ ลาย flamed จะสะท้อนแสงสวย ทำให้กีต้าร์ดูมีมิติและดูพรีเมียมมากขึ้นกว่ากีต้าร์สีทึบทั่วไป เหมาะกับคนที่อยากให้กีต้าร์เป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์บนเวทีอย่างแท้จริง

กีต้าร์ลายไม้เฟลมสีเหลืองสว่างบอดี้ซิงเกิลคัตคู่ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์และปุ่มควบคุมโทนเสียง

     ทรงซิงเกิลคัตของรุ่นนี้ออกแบบให้โค้งรับกับลำตัว เมื่อนั่งเล่นหรือยืนเล่นก็รู้สึกลงตัว ขอบบอดี้ที่โค้งมนช่วยลดความรู้สึกแข็งเวลาสะพายเล่นนาน ๆ ทั้งในห้องซ้อมและบนเวที รายละเอียดอย่างรูปทรงหัวกีต้าร์และอินเลย์บนฟิงเกอร์บอร์ดก็ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้มองแล้วรู้ได้ทันทีว่าอยู่ในตระกูลเดียวกัน


ความต่างระหว่างฮาร์ดแวร์ชุบทองและโครม

     ฮาร์ดแวร์ของบางสีจะใช้ชุบทอง ขณะที่บางสีใช้โครม ความแตกต่างนี้อาจไม่เห็นผลชัดในด้านเสียงสำหรับมือใหม่ แต่มีผลชัดเจนต่อภาพรวมของตัวกีต้าร์ ฮาร์ดแวร์ชุบทองมักเข้ากับกีต้าร์สีดำหรือสีไม้เข้ม ให้ความรู้สึกหรูและคลาสสิก ส่วนฮาร์ดแวร์โครมจะดูทันสมัย เรียบง่าย และเข้ากับสีสว่างหรือสีที่โชว์ลายไม้ได้ดี


     บริดจ์แบบ TOM คู่กับ tailpiece เป็นรูปแบบที่ปรับตั้งได้ละเอียด สามารถตั้งความสูงของสายและระยะสเกลแต่ละสายได้ตามต้องการ ผู้ที่ชอบตั้งสายเตี้ยเพื่อเล่นเร็ว หรือชอบตั้งให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ตีคอร์ดแรง ๆ โดยไม่เกิดเสียงสายกระทบเฟรต ก็สามารถปรับให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตนเองได้ การจูนสายโดยรวมถือว่าเสถียร ไม่หลุดง่ายเมื่อเล่นนาน ๆ หรือดันสายบ่อย

กีต้าร์บอดี้ลายไม้ธรรมชาติสีน้ำผึ้งซิงเกิลคัตปิ๊กอัพคู่และฟิงเกอร์บอร์ดอินเลย์ลายธง

การใช้งานจริงของ กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 ในห้องซ้อม เวที และงานบันทึกเสียง

     ในห้องซ้อม กีต้าร์รุ่นนี้ให้เสียงที่ได้ยินชัด แม้จะเล่นร่วมกับกลองและเบส เสียงจะไม่จมหายไปง่าย และไม่หนาจนไปทับย่านเสียงของเครื่องดนตรีอื่น เมื่อนำไปใช้กับแอมป์ทรานซิสเตอร์ระดับเริ่มต้นก็ยังให้เสียงที่จัดการได้ง่าย เหมาะกับผู้ที่ยังไม่ชำนาญการปรับแอมป์มากนัก เพราะหมุนเพียงไม่กี่ปุ่มก็ได้เสียงที่ใช้งานได้แล้ว


     บนเวที น้ำหนักตัวกีต้าร์อยู่ในระดับที่สะพายได้นานโดยไม่ล้ามาก ปุ่มเลือกปิ๊กอัพและปุ่ม Volume วางตำแหน่งที่เอื้อมถึงง่าย ทำให้สลับเสียงจาก clean ไปแตก หรือเปลี่ยนตำแหน่งปิ๊กอัพระหว่างท่อนร้องและท่อนโซโล่ได้ทันเวลา โดยไม่ต้องก้มมองตัวกีต้าร์ตลอด ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นชินกับการเล่นสดมากนัก


     สำหรับงานบันทึกเสียง กีต้าร์รุ่นนี้ตอบสนองได้ดีเมื่อต่อเข้ากับ audio interface แล้วใช้ plug-in จำลองแอมป์ในคอมพิวเตอร์ ผู้ทำเพลงในบ้านสามารถอัดเสียงกีต้าร์แบบ direct แล้วเลือกแอมป์และตู้ลำโพงจำลองภายหลังได้ เสียงที่ได้ยังคงความหนาและไดนามิก ไม่แบนจนเกินไป ช่วยให้จัดการเสียงในมิกซ์ได้สะดวก


ความเหมาะสมของผู้เล่นตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงกึ่งมืออาชีพ

     สำหรับผู้ที่กำลังมองหากีต้าร์ตัวแรก รุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งในด้านความทนทาน วัสดุที่ไว้ใจได้ และสเปกที่ไม่ตัดรายละเอียดสำคัญออกไป ทำให้ไม่ต้องรีบเปลี่ยนกีต้าร์ใหม่เมื่อฝีมือเริ่มพัฒนา ส่วนผู้เล่นที่มีประสบการณ์แล้วก็สามารถนำไปใช้ทำงานจริง ทั้งเล่นประจำร้าน คาเฟ่ งานอัดเสียงขนาดเล็ก หรือทำคลิปคัฟเวอร์ลงออนไลน์ได้โดยไม่รู้สึกว่ากีต้าร์จำกัดแนวทางมากเกินไป


     ตัวกีต้าร์ยังรองรับการตั้งค่าได้หลากหลาย เช่น เปลี่ยนขนาดสายให้เล็กลงเพื่อเน้นการเล่นเร็ว หรือใช้สายใหญ่ขึ้นแล้วจูนต่ำสำหรับแนวเมทัลสมัยใหม่ โครงสร้างคอและบอดี้ยังรับมือได้ดี ไม่ทำให้รู้สึกว่ากีต้าร์ตอบสนองไม่ทันความต้องการของผู้เล่น


ความคุ้มค่าของ กีต้าร์ไฟฟ้า LTD EC 256 และสรุปภาพรวม

     เมื่อพิจารณาทั้งเรื่องโครงสร้าง วัสดุ ระบบไฟฟ้า และงานออกแบบโดยรวม จะเห็นว่าซีรีส์นี้ให้สิ่งที่เกินความคาดหวังในช่วงราคาเดียวกัน นักดนตรีได้รับกีต้าร์ที่เสียงดี เล่นง่าย ดูดีบนเวที และสามารถพาไปได้ทั้งการฝึกซ้อมอย่างจริงจังและการทำงานด้านดนตรีที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง


     สำหรับผู้ที่อยากมีกีต้าร์ทรงซิงเกิลคัตหนึ่งตัวที่ใช้ได้ยาว ๆ โดยไม่จำเป็นต้องขยับไปเล่นรุ่นเรือธงราคาแพงในทันที ซีรีส์ EC-256 และ EC-256FM ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งในมุมของคุณภาพเสียง ความสะดวกเวลาเล่น และภาพลักษณ์ที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้เล่นบนเวทีและต่อหน้ากล้อง


สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่


🛒สั่งซื้อได้ที่นี่


รีวิวโดย gooddymusic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น