สำหรับคนที่หลงใหลในเสียงกลอง เสียงที่เราได้ยินไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือของมือกลองเพียงอย่างเดียว วัสดุที่ใช้ทำตัวกลอง รูปแบบการออกแบบ และรายละเอียดการประกอบในแต่ละจุดล้วนส่งผลต่อโทนเสียงและความรู้สึกขณะเล่นทั้งสิ้น โดยเฉพาะกลองไม้เมเปิลที่ขึ้นชื่อว่าให้โทนเสียงอบอุ่น ใส และควบคุมได้ง่าย จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมทั้งในหมู่ผู้เริ่มต้นที่จริงจังกับการฝึกซ้อมและมืออาชีพ หนึ่งในรุ่นที่ถูกพูดถึงบ่อยคือ กลองชุด PDP Concept Maple 7 pcs ซึ่งเป็นชุดกลองไม้เมเปิลจากแบรนด์ PDP ที่ออกแบบโดยทีม DW ให้ได้ทั้งโทนเสียงที่สมดุล เล่นไม่ยาก และรองรับแนวเพลงได้หลากหลาย ตั้งแต่ป๊อป ร็อก ไปจนถึงการใช้งานในสตูดิโอ
โครงสร้างไม้เมเปิ้ลและผลต่อคุณภาพเสียงของ กลองชุด PDP Concept Maple 7 pcs
ไม้เมเปิลเป็นหนึ่งในชนิดไม้ที่นิยมใช้ทำกลองมากที่สุด เพราะให้ย่านเสียงกลางที่สมดุล ระหว่างความทุ้ม นุ่ม และความใสของเสียง เมื่อนำมาใช้เป็นตัวกลองของชุดนี้ ทอมและเบสดรัมใช้โครงสร้างไม้ 7 ชั้น ส่วนสแนร์ใช้ 10 ชั้น ทำให้ได้เสียงที่แน่น ฟังชัด ควบคุมง่าย และตอบสนองต่อแรงตีได้ดี มือกลองจึงเล่นได้ตั้งแต่จังหวะเบา ๆ ไปจนถึงจังหวะแรง ๆ โดยที่เสียงยังไม่แตกหรือฟุ้งจนเกินไป
ขอบกลองของชุดนี้ออกแบบให้เป็นมุม 45 องศา ช่วยให้หนังกลองแนบกับขอบไม้ได้อย่างพอดี ทำให้เสียงเปิด โปร่ง และเก็บรายละเอียดปลายไม้ได้ดี เวลาไล่โทนบนแต่ละใบจะรู้สึกว่าโน้ตชัด นิ่ง และไม่เพี้ยนง่าย
ทอมในชุดนี้ติดตั้งด้วยระบบ STM (Suspension Tom Mounts) จาก DW ซึ่งเป็นขารองรับที่ยึดกับห่วงกลองแทนการเจาะตัวกลอง ช่วยลดแรงกดและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าตัวกลอง ทอมจึงสั่นและมีเสียงลากยาวเป็นธรรมชาติ และยังจัดวางตำแหน่งทอมบนชุดกลองได้ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่กระทบกับโครงสร้างหรือโทนเสียงของกลอง
จุดเด่นด้านฮาร์ดแวร์และความทนทานของ กลองชุด PDP Concept Maple 7 pcs
ฮาร์ดแวร์ที่ให้มาพร้อมชุดกลองเป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับการใช้งานในระยะยาว รุ่นนี้ใช้ฮาร์ดแวร์ชุบโครเมียมที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการขึ้น–ลงเวที และการปรับตำแหน่งอยู่บ่อยครั้งตามการใช้งานจริงของมือกลอง ขากลองแต่ละจุดออกแบบมาให้รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี จึงช่วยลดปัญหาตัวกลองขยับหรือคลายตัวระหว่างเล่น
สแนร์ในชุดนี้ติดตั้งระบบ MAG throw-off จาก DW ซึ่งใช้งานไม่ซับซ้อน เพียงเลื่อนสวิตช์ก็เปิด–ปิดสายสแนร์ได้อย่างลื่น ไม่สะดุด และยังล็อกตำแหน่งได้แน่นหนา ลดโอกาสที่สายสแนร์จะหลุดหรือคลายตัวในระหว่างการแสดง
หนังกลองที่ให้มาพร้อมชุดนี้เป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Remo ผู้ผลิตหนังกลองที่นักดนตรีทั่วโลกไว้วางใจ เสียงที่ได้จึงนิ่ง ควบคุมง่าย และสามารถนำไปใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดกล่อง โดยยังไม่จำเป็นต้องรีบเปลี่ยนหนังกลองใหม่ ฟลอร์ทอมและทอมแต่ละใบใช้ห่วงเหล็ก (Hoop) ที่มีความหนาแตกต่างกันไปตามขนาดของกลอง เพื่อให้ความแข็งแรงและการสั่นของหนังกลองอยู่ในภาวะสมดุล ส่วนเบสดรัมใช้ขอเกี่ยวแบบน้ำหนักเบา ช่วยกระจายแรงดึงให้หนังกลองหน้าเบสดรัมตึงเท่ากันรอบวง ไม่บิดตัว แม้จะตีด้วยน้ำหนักมือมากพอสมควร
การออกแบบเพื่อตอบโจทย์ทุกแนวเพลงและการใช้งานจริง
ชุดกลองขนาด 7 ชิ้นนี้ประกอบด้วยทอมขนาด 8, 10 และ 12 นิ้ว ฟลอร์ทอมขนาด 14 และ 16 นิ้ว เบสดรัมขนาด 22 นิ้ว และสแนร์ขนาด 14 นิ้ว ช่วยให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการจัดวางชุดกลองได้หลากหลายรูปแบบ จะตั้งให้เรียบง่ายโดยใช้ทอมหลักเพียงไม่กี่ใบ หรือจัดครบทุกใบสำหรับการเล่นจังหวะกลองที่ซับซ้อนก็ได้ ช่วงขนาดของกลองแต่ละใบยังครอบคลุมแนวเพลงยอดนิยมส่วนใหญ่ ตั้งแต่ป๊อป ร็อก ไปจนถึงฟิวชันและดนตรีสมัยใหม่
เมื่อลองจูนเสียงในระดับต่าง ๆ จะพบว่าชุดกลองนี้ตอบสนองได้ดีทั้งการจูนเสียงให้สูงขึ้นเพื่อให้โทนคมใสและมีแรงปะทะชัดเจน หรือการจูนเสียงให้ต่ำลงเพื่อให้โทนหนาและลึกมากขึ้น มือกลองที่ชอบเล่นฟิลกลองยาว ๆ หรือโซโลกลองสามารถดึงคาแรกเตอร์ของกลองแต่ละใบออกมาได้เต็มที่ ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องการใช้ในสตูดิโอก็สามารถจูนให้เสียงนิ่งและลดโอเวอร์โทนหรือเสียงก้องส่วนเกินได้ไม่ยาก
วัสดุ ผิวเคลือบ และการประกอบที่ให้ภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม
การเคลือบผิวแบบ Satin Charcoal Burst ทำให้ตัวกลองมีพื้นผิวกึ่งด้านกึ่งเงา มองเห็นลายไม้เมเปิลได้ชัดเจน เมื่ออยู่ใต้แสงไฟเวทีหรือแสงในสตูดิโอจะดูโดดเด่นแต่ไม่ฉูดฉาด ฮาร์ดแวร์ชุบโครเมียมที่ตัดกับสีตัวกลองช่วยให้ภาพรวมของชุดดูเรียบร้อยและเป็นมืออาชีพ เหมาะทั้งสำหรับการเล่นสดและการตั้งไว้ในห้องซ้อมหรือสตูดิโอที่ต้องการภาพลักษณ์สวยงาม
งานประกอบของชุดนี้ได้รับอิทธิพลจากมาตรฐานของ DW ที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ระยะห่างของน็อต ความเรียบของขอบไม้ และการติดตั้งฮาร์ดแวร์ในแต่ละจุด ทำให้กลองแต่ละใบมีความเสถียร ไม่บิดตัวง่าย และรักษาโทนเสียงได้ดีในระยะยาว สำหรับภาพที่แนบมาจะเห็นได้ชัดว่าทั้งอัตราส่วนของทอม ฟลอร์ทอม และเบสดรัมจัดวางอย่างสมดุล เหมาะกับผู้ที่ต้องการอัปเกรดจากชุดเริ่มต้นขึ้นมาสู่ชุดที่คุณภาพสูงขึ้น โดยไม่ต้องไปถึงระดับกลองสั่งทำราคาสูง
แนวทางการจูนเสียงให้เข้ากับสไตล์เพลง
การจูนเสียงกลองให้เหมาะกับแนวเพลงและสถานที่ที่ใช้เล่นมีผลต่อภาพรวมของเสียงเพลงอย่างมาก มือกลองที่เพิ่งเริ่มต้นหลายคนอาจรู้สึกว่าการจูนกลองเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเข้าใจหลักพื้นฐาน ก็สามารถปรับเสียงให้ใกล้เคียงโทนที่ต้องการได้ไม่ยาก
- แนวร็อกและเมทัล: แนะนำให้จูนหนังกลองทอมด้านบนไม่ตึงมาก เพื่อให้ได้โทนหนา มีน้ำหนัก ส่วนหนังกลองด้านล่างให้ตึงขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้โน้ตนิ่งและมีเสียงลากต่อเนื่องพอดี เหมาะกับจังหวะที่ใช้แรงตีค่อนข้างมาก
- แนวป๊อปและเพลงกระแสหลัก: จูนทอมให้มีโทนเสียงกลางค่อนไปทางใส ไม่ทุ้มจนเกินไป เพื่อให้เสียงกลองได้ยินชัดเจน ไม่ถูกเสียงเครื่องดนตรีชิ้นอื่นในวงกลบ ทั้งในการเล่นสดและการอัดเสียง
- แนวแจ๊สและฟิวชัน: จูนทอมและสแนร์ให้ตึงขึ้น เสียงจะเปิด โปร่ง ตอบสนองต่อการตีเบาได้ดี เหมาะกับการเล่นที่ต้องการควบคุมระดับความดังเบา (ไดนามิก) และเก็บรายละเอียดเสียงจากปลายไม้กลอง รวมถึงการใช้แปรงกลองให้ได้เสียงนุ่มนวลและชัดเจน
- งานอัดในสตูดิโอ: เน้นให้แต่ละใบจูนอยู่ในช่วงใกล้เคียงกัน ไม่ต่างกันมากเกินไป และสามารถใช้โฟมหรือเจลช่วยลดเสียงก้องหรือโอเวอร์โทนส่วนเกิน เพื่อช่วยให้งานมิกซ์เสียงทำได้ง่ายขึ้น
- งานเล่นสดในห้องที่มีเสียงก้องมาก: อาจจูนเสียงให้ต่ำลงเล็กน้อย และใช้ตัวช่วยลดโอเวอร์โทน เพื่อลดเสียงแหลมจัดและเสียงสะท้อนที่สะท้อนกลับมาจากผนัง
- งานเล่นกลางแจ้งหรือสถานที่โล่ง: สามารถจูนให้เสียงใสและเปิดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เสียงจมหายไปในอากาศ และอาจจูนสแนร์ให้ใสขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ได้ยินจังหวะชัดเจนผ่านระบบเสียง
ตัวอย่างการตั้งค่าเสียงในสถานการณ์ต่าง ๆ
ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นกับการจูนกลอง สามารถลองนำไปปรับใช้ แล้วค่อย ๆ ปรับรายละเอียดให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตัวเอง
- เซ็ตสำหรับห้องซ้อม: แนะนำให้ใช้หนังกลองที่ช่วยควบคุมเสียงก้อง เช่น หนังกลองเคลือบ หรือหนังกลองที่มีวงควบคุมโอเวอร์โทนในตัว จูนทอมให้อยู่ในช่วงโทนกลาง และอาจติดตัวช่วยลดเสียงก้องบนสแนร์เล็กน้อย เพื่อให้เสียงรวมไม่ฟุ้งเกินไปในห้องขนาดเล็ก
- เซ็ตสำหรับเวทีร้านอาหารและผับ: จูนเบสดรัมให้ได้เสียงต่ำ ชัด และมีน้ำหนัก เพื่อรองรับเสียงเบสของทั้งวง และปรับสแนร์ให้เด่น ฟังชัดในจังหวะตีหลัก ช่วยให้เพลงเดินไปอย่างมีแรงขับ แม้จะมีเครื่องดนตรีหลายชิ้นเล่นพร้อมกัน
- เซ็ตสำหรับงานในโบสถ์หรือหอประชุม: ใช้การจูนที่ไม่สุดโต่งเกินไป เน้นโทนเสียงที่สมดุล และให้ความสำคัญกับการควบคุมน้ำหนักมือตอนเล่น เพื่อลดปัญหาเสียงดังเกินไปในห้องที่มีเสียงสะท้อนสูง
- เซ็ตสำหรับบันทึกเดโมที่บ้าน: จูนกลองให้ได้โทนที่เล่นคนเดียวแล้วรู้สึกว่าลงตัวก่อน จากนั้นลองอัดเสียงและฟังย้อนกลับ หากรู้สึกว่ากลองใบใดมีเสียงก้องหรือโอเวอร์โทนมากเกินไป จึงค่อยลดหรือเพิ่มการแดมป์ทีละจุด
เทคนิคการดูแลรักษาชุดกลองไม้เมเปิ้ลให้ใช้งานได้ยาวนาน
เพื่อให้ชุดกลองไม้เมเปิ้ลใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและอยู่กับเราไปได้นาน การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา
- การควบคุมความชื้น: หลีกเลี่ยงการเก็บกลองในที่อับชื้นหรือร้อนจัด เช่น ใกล้หน้าต่างที่โดนแดดแรง หรือในห้องที่ไม่มีการระบายอากาศ เพราะอาจทำให้เนื้อไม้ขยายหรือหดตัวจนส่งผลต่อโครงสร้างและเสียงกลอง
- การเช็ดทำความสะอาดหลังเล่น: หลังการซ้อมหรือเล่นสดควรใช้ผ้านุ่มเช็ดเหงื่อและคราบมันบนผิวกลองและฮาร์ดแวร์ เพื่อลดโอกาสการเกิดคราบและสนิม โดยเฉพาะบริเวณขอบโลหะและน็อตต่าง ๆ
- การเปลี่ยนหนังกลอง: หนังกลองที่ใช้งานหนัก เช่น สแนร์และเบสดรัม ควรเปลี่ยนเมื่อเริ่มเห็นรอยบุ๋มหรือรู้สึกว่าเสียงทื่อลง การเปลี่ยนหัวใหม่จะช่วยให้ได้โทนเสียงที่ใสและตอบสนองดีเหมือนเดิม
- การตรวจเช็คฮาร์ดแวร์: ควรหมั่นเช็คความแน่นของน็อต ขากลอง และข้อต่อต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อป้องกันเสียงสั่นแทรกและลดโอกาสที่ชิ้นส่วนจะหลุดหรือหักระหว่างการขนย้าย
- การขนย้ายกลอง: เมื่อต้องนำกลองออกไปเล่นนอกสถานที่ ควรใช้ถุงหรือเคสที่มีวัสดุกันกระแทกรองรับอย่างเหมาะสม ไม่วางกลองซ้อนกันโดยไม่มีตัวกั้น เพราะอาจทำให้ขอบไม้หรือฟินิชเสียหายได้ง่าย
- การจัดเก็บระยะยาว: หากไม่ได้ใช้งานชุดกลองเป็นเวลานาน สามารถคลายน็อตหนังกลองลงเล็กน้อยเพื่อลดแรงดึงบนเปลือกไม้ และเก็บไว้ในห้องที่อากาศถ่ายเทดี ไม่ชื้นจนเกินไป
คำแนะนำการเลือกซื้อและความคุ้มค่าสำหรับนักดนตรี
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาชุดกลองไม้เมเปิลคุณภาพดีสักชุดไว้ใช้ซ้อมอย่างจริงจัง เล่นงานแสดง และบันทึกเสียงในสตูดิโอ รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้โทนเสียงที่ฟังแล้วมั่นคง นุ่มนวล แต่ยังคงความชัดเจนของจังหวะ โครงสร้างตัวกลองที่ทำจากไม้หลายชั้นช่วยลดโอกาสการบิดตัว และฮาร์ดแวร์ที่ใช้ก็ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาว
แม้ชุดกลองนี้จะไม่ได้แถมฉาบและขาตั้งมาให้ แต่สำหรับมือกลองจำนวนมากกลับมองว่าเป็นข้อดี เพราะสามารถเลือกฉาบและฮาร์ดแวร์ยี่ห้อที่ชอบ หรือแบบที่เข้ากับแนวเพลงของตัวเองมาจัดเซ็ตเพิ่มภายหลังได้ ช่วยให้ควบคุมงบประมาณได้ยืดหยุ่น และค่อย ๆ อัปเกรดชุดกลองทีละขั้นตามความต้องการ
สำหรับมือใหม่ที่เริ่มจริงจัง หรือมือสมัครเล่นที่เล่นมาสักพักแล้วและอยากขยับจากชุดเริ่มต้นไปสู่ระดับที่ใช้เล่นงานจริงได้ รุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะมีจำนวนกลองเพียงพอให้ฝึกเล่นฟิลกลองและจังหวะกลองได้หลากหลายรูปแบบ ขณะเดียวกัน มือกลองที่ต้องการใช้ในสตูดิโอหรือบันทึกเดโมเพลงของตัวเอง ก็สามารถได้โทนเสียงที่นิ่งและบันทึกออกมาได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งการแต่งเสียงมากนัก
จุดเด่นของ กลองชุด PDP Concept Maple 7 pcs ในการใช้งานจริง
ชุดกลองรุ่นนี้โดดเด่นตรงที่ให้โทนเสียงมั่นคง นุ่มนวล แต่ยังฟังชัดในทุกจังหวะ รองรับทั้งการซ้อม การเล่นสด และการบันทึกเสียง โดยที่ผู้เล่นยังสามารถปรับจูนให้เข้ากับแนวเพลงได้หลากหลาย
ใครเหมาะกับ กลองชุด PDP Concept Maple 7 pcs มากที่สุด
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับจากชุดเริ่มต้นไปสู่ชุดกลองที่ใช้เล่นงานจริงได้ ทั้งมือใหม่ที่จริงจังกับการฝึกฝน และมือสมัครเล่นที่ต้องการชุดกลองที่ไว้ใจได้ในระยะยาว
โดยรวมแล้ว ชุดกลองไม้เมเปิลรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องดนตรีที่ใช้งานได้จริงในหลายสถานการณ์ ตั้งแต่ห้องซ้อมขนาดเล็ก ไปจนถึงเวทีงานแสดงหรือสตูดิโอที่ต้องการเสียงกลองที่ไว้ใจได้ ทั้งในด้านความทนทาน เสถียรภาพของเสียง และภาพลักษณ์ที่ดูเป็นมืออาชีพ
คลิป YouTube
เครดิต :
DW Drums India
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น