กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE ทางเลือกยอดนิยมสำหรับสายอะคูสติกที่ต้องการคุณภาพและความคุ้มค่า

กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE พร้อมซอฟต์เคสจาก Music Arms เหมาะสำหรับสายอะคูสติกที่ต้องการผ่อน 0%

     กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีที่หลายคนเลือกใช้เมื่อต้องการกีต้าร์ตัวเดียวที่เล่นได้ครบทุกสถานการณ์ ทั้งซ้อมในห้อง เล่นโซโล่เดี่ยว หรือขึ้นเวทีต่อเข้าระบบเสียงได้ทันที รุ่นที่ได้รับความสนใจมากอีกรุ่นหนึ่งในกลุ่มนี้คือ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE ซึ่งออกแบบมาสำหรับคนที่อยากได้ทั้งโทนเสียงดี จับเล่นสบาย และงานประกอบเรียบร้อยในงบที่ยังเอื้อมถึงได้ไม่ยาก


ภาพรวมของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE ทรงแกรนด์ออดิทอเรียม

กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE ตั้งบนขาตั้งคู่แอมป์อะคูสติกในห้องนั่งเล่นบรรยากาศอบอุ่น

     Veelah รุ่นนี้ใช้บอดี้ทรงแกรนด์ออดิทอเรียม (Grand Auditorium) ขนาดกลาง ไม่ใหญ่เท่าทรงเดรทนอต แต่ก็ไม่เล็กจนทำให้เสียงบาง จุดเด่นของทรงนี้คือสามารถเล่นได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้ามากนัก คนตัวเล็กหรือผู้เล่นที่ชอบนั่งเล่นบนเก้าอี้จะรู้สึกว่าโอบตัวกีต้าร์ได้ถนัด แขนขวาวางบนบอดี้ได้พอดี ไม่ต้องยกแขนสูงเกินไป


     ทรงแกรนด์ออดิทอเรียมยังให้โทนเสียงที่สมดุลทั้งย่านต่ำ ย่านกลาง และย่านสูง เสียงไม่ทุ้มและหนาจนฟังดูอึดอัดเวลาเล่นในห้อง แต่ก็ไม่แห้งหรือบางจนได้ยินไม่ชัดเมื่อเล่นรวมวง เหมาะทั้งสำหรับการตีคอร์ดร้องเพลงคนเดียว และการเล่นเป็นกีต้าร์ตัวหนึ่งในวง เช่น เล่นคู่กับคีย์บอร์ด หรือเล่นร่วมกับเครื่องดนตรีอะคูสติกอื่น ๆ


     บอดี้รุ่นนี้ออกแบบให้มีคอเว้า (Cutaway) ทำให้เอื้อมไปเล่นเฟรตสูงได้ง่ายกว่าโปร่งทรงปกติ ใครที่ชอบใส่ท่อนเมโลดี้ในโซโล่ หรือชอบเล่นไลน์บนเฟรตที่ 12 ขึ้นไปจะได้เปรียบชัดเจน เพราะไม่ต้องออกแรงบิดข้อมือมากเกินไป


วัสดุและโครงสร้างที่ส่งผลต่อโทนเสียง

     หัวใจสำคัญของโทนเสียงกีต้าร์อะคูสติกอยู่ที่ชนิดของไม้ที่ใช้ทำบอดี้ รุ่นนี้ใช้ไม้หน้าเป็นโซลิดซิทกาสปรูซ (Solid Sitka Spruce) ซึ่งเป็นไม้ที่นิยมใช้ในกีต้าร์ระดับกลางขึ้นไป ให้เสียงโปร่ง ใส และตอบสนองต่อการเล่นทั้งเบาและแรงได้ดี เวลาเล่นเบา ๆ เสียงโน้ตจะออกมาชัด ฟังสบาย ไม่บางเกินไป ส่วนเวลาตีคอร์ดแรง ๆ เสียงก็ยังควบคุมได้ดี ไม่แตก ไม่อู้ และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ไม้หน้าแบบโซลิดมักจะให้เสียงที่นุ่มนวลและกังวานมากขึ้นตามอายุการใช้งาน


     ด้านข้างและด้านหลังใช้ไม้มะฮอกกานี ซึ่งให้โทนเสียงกลางที่อุ่น ฟังแล้วไม่บางและไม่แหลมจนบาดหู เมื่อนำมาจับคู่กับไม้หน้าซิทกาสปรูซจึงได้บุคลิกเสียงที่ฟังง่าย เหมาะกับเพลงป๊อป โฟล์ก อินดี้ และเพลงไทยสบาย ๆ ทั่วไป ไม่ว่าจะเล่นแบบเกาหรือเล่นตีคอร์ด เสียงที่ได้จะมีตัวโน้ตชัดเจน และไม่กลบเสียงร้อง

ด้านหลังไม้มะฮอกกานีของกีต้าร์หกสายลายเสี้ยนไม้เด่นชัดในแสงไฟ

     รอบซาวด์โฮลมีลายตกแต่งและขอบทำจากไม้โรสวูด เพิ่มทั้งความแข็งแรงและความสวยงาม ฟิงเกอร์บอร์ดและบริดจ์ก็ใช้ไม้โรสวูดเช่นกัน ทำให้ผิวสัมผัสนิ้วลื่นกำลังดี ไม่ฝืด และช่วยให้เสียง Sustain ยาวขึ้นเล็กน้อย เวลาจับคอร์ดค้างหรือเล่นเมโลดี้จะรู้สึกว่าโน้ตไม่หายเร็วเกินไป

ซาวด์โฮลและบอดี้ไม้สปรูซของกีต้าร์ในห้องนั่งเล่นแสงส้มอบอุ่น

     ผิวเคลือบของตัวกีต้าร์เป็นแบบด้านโชว์ลายไม้ (Open Pore) ทำให้เห็นลายไม้ชัดเจนและให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ การเคลือบไม่หนาเกินไป จึงไม่ไปรบกวนการสั่นของตัวไม้ เสียงที่ได้จึงโปร่ง เปิด และเป็นธรรมชาติ ใครที่ชอบกีต้าร์หน้าตาเรียบง่าย เห็นลายไม้ชัด ไม่เงาจนดูคล้ายกีต้าร์ตั้งโชว์ น่าจะถูกใจกับลักษณะนี้


คอ ฟิงเกอร์บอร์ด และความรู้สึกเวลาเล่นจริง

     คอกีต้าร์ทำจากไม้มะฮอกกานี ทรงคอค่อนข้างบางกำลังดี จับง่ายโดยเฉพาะคนที่มือไม่ได้ใหญ่ การเปลี่ยนคอร์ดทำได้รวดเร็วโดยไม่รู้สึกเกร็ง ความกว้างคอที่นัท 43 มิลลิเมตรเป็นขนาดมาตรฐานที่หลายแบรนด์ใช้ ทำให้คนที่เคยเล่นกีต้าร์โปร่งรุ่นอื่นมาก่อนมักจะปรับตัวได้ทันที

ฟิงเกอร์บอร์ดไม้โรสวูดและเฟรตของกีต้าร์จัดเรียงเรียบร้อยเหมาะสำหรับฝึกเล่น

     ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูดให้สัมผัสที่ลื่นในระดับพอดี ไม่ลื่นจนควบคุมยาก เวลาสไลด์นิ้วหรือเล่นเทคนิค Hammer-on / Pull-off มือใหม่ก็จะรู้สึกว่ากดไม่ยาก การตั้งความสูงของสายจากโรงงานอยู่ในระดับกลาง ทำให้มือใหม่เล่นได้โดยไม่เจ็บนิ้วเร็วเกินไป และยังเปิดโอกาสให้คนที่จริงจังมากขึ้นสามารถนำไปปรับแต่งเพิ่มกับช่างกีต้าร์ให้ตรงสไตล์ตัวเองได้ในภายหลัง


     นัทและแซดเดิลใช้วัสดุจาก Graph Tech NuBone ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการส่งผ่านแรงสั่นของสายได้ดี เสียงจะกังวาน ชัด และบาลานซ์มากกว่าใช้วัสดุเกรดต่ำ ชิ้นส่วนเหล่านี้ยังทนต่อสภาพอากาศได้ดี ไม่หดหรือขยายตัวง่ายจนนำไปสู่ปัญหาเสียงเพี้ยน


     ลูกบิดเป็นแบบ Die Cast ชุบโครเมียม อัตราทด 14:1 หมุนปรับได้ละเอียด การตั้งสายจึงทำได้ง่ายและนิ่ง เมื่อจูนสายเรียบร้อยแล้วสามารถเล่นต่อเนื่องได้หลายเพลงโดยไม่ต้องคอยปรับจูนบ่อย ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องพกกีต้าร์ไปซ้อมหรือเล่นตามร้านเป็นประจำ

หัวกีต้าร์ไม้เข้มติดลูกบิดชุบโครเมียมเงางาม

กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE กับภาคไฟฟ้า Fishman Presys I

     หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับการเล่นสดคือมีภาคไฟฟ้า Fishman Presys I ติดตั้งมาจากโรงงาน Fishman เป็นแบรนด์ที่คนเล่นกีต้าร์โปร่งคุ้นเคยกันดีเรื่องความทนทานและโทนเสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงกีต้าร์จริง ปิกอัพแบบ Piezo ที่ติดตั้งไว้ใต้แซดเดิลทำหน้าที่รับแรงสั่นจากสายแล้วส่งสัญญาณต่อไปยังพรีแอมป์ เมื่อเสียบกีต้าร์เข้ากับแอมป์หรือระบบเสียงขนาดใหญ่ เสียงที่ได้จึงยังคงคาแรคเตอร์ของกีต้าร์ตัวนี้เอาไว้ได้ดี


     บนตัวพรีแอมป์มีปุ่ม Volume และปุ่มปรับโทนให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน มือใหม่ก็สามารถหมุนหาจุดที่ถูกใจได้ไม่ยาก ในบางสถานที่ที่มีปัญหาเสียงฟีดแบ็กจากเวทีหรือจากลำโพง การใช้ฟังก์ชันช่วยลดเสียงหวีดและการจัดตำแหน่งลำโพงให้เหมาะสมจะช่วยให้เสียงนิ่งขึ้นอย่างชัดเจน

ภาคไฟฟ้า Fishman Presys I บนกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE แสดงปุ่มปรับโทน วอลุ่ม และจูนเนอร์

     อีกฟังก์ชันที่หลายคนชอบคือมีจูนเนอร์ติดมาด้วยในตัวกีต้าร์ เพียงกดปุ่มก็สามารถตั้งสายได้โดยไม่ต้องพกจูนเนอร์แยก เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกหรือชอบพกกีต้าร์ไปเล่นในหลาย ๆ สถานที่ ไม่ต้องกังวลว่าลืมอุปกรณ์ตั้งสาย


     เมื่อเชื่อมต่อกีต้าร์เข้ากับออดิโออินเตอร์เฟซสำหรับอัดเสียงลงคอมพิวเตอร์ ภาคไฟฟ้าของกีต้าร์รุ่นนี้จะให้สัญญาณที่ค่อนข้างแรงและสะอาด สามารถนำเสียงที่ได้ไปปรับแต่งต่อในโปรแกรมทำเพลงได้อย่างสบาย เมื่อใส่เอฟเฟค Reverb หรือ Chorus เพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย ก็จะได้โทนเสียงอะคูสติกที่ฟังสบาย เหมาะกับการทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดีย


การใช้สายและการดูแลเสียงให้คงที่

     โรงงานติดตั้งสาย Elixir Acoustic 80/20 Bronze แบบเคลือบ NANOWEB มาให้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวกว่าและเสียงที่คงความสดใสได้นานกว่าสายทั่วไป การเคลือบช่วยลดคราบเหงื่อและสิ่งสกปรกที่เกาะบนสาย ทำให้มือรู้สึกลื่นเวลาเล่นและลดเสียงเสียดสีตอนเลื่อนนิ้วไปตามคอ


     หลังเล่นเสร็จทุกครั้ง หากเช็ดสายและฟิงเกอร์บอร์ดด้วยผ้านุ่มแห้งสักเล็กน้อย จะช่วยยืดอายุสายไปได้อีกมาก และยังช่วยให้โทนเสียงสม่ำเสมอไม่ลดลงเร็วเกินไป เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนสาย หากชอบเสียงที่อุ่นขึ้นสามารถลองเปลี่ยนเป็นสายฟอสฟอร์บรอนซ์ หรือหากต้องการให้ดันสายง่ายขึ้นก็เลือกขนาดสายที่เล็กลงเล็กน้อยได้เช่นกัน


แนวทางเลือกกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าให้เหมาะกับสไตล์การเล่น

     เวลาจะเลือกกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าสักตัว สิ่งที่ควรถามตัวเองก่อนคือเราจะใช้เล่นแบบไหนเป็นหลัก ถ้าเน้นเล่นในห้องหรือเล่นคนเดียวสบาย ๆ เสียงอะคูสติกของตัวกีต้าร์เองจะสำคัญมาก ควรลองฟังดูว่าเวลาเราตีคอร์ดเต็ม ๆ แล้วชอบลักษณะเสียงที่ออกมาหรือไม่ และรู้สึกว่าเข้ากับสไตล์ที่เราเล่นหรือเปล่า ส่วนคนที่เน้นเล่นผ่านแอมป์ เล่นตามร้านอาหาร หรือต้องอัดเสียงบ่อย ๆ ภาคไฟฟ้าและความนิ่งของการตั้งสายจะกลายเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ๆ


     ขนาดบอดี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรลองด้วยตัวเอง ถ้าบอดี้ใหญ่เกินไป เราอาจรู้สึกเมื่อยไหล่หรือเล่นได้นานไม่มากนัก ทรงแกรนด์ออดิทอเรียมอย่างรุ่นนี้จึงเหมาะกับคนที่อยากได้ทั้งความกังวานของเสียงและความสบายเวลาเล่นในตัวเดียวกัน ส่วนลักษณะคอและฟิงเกอร์บอร์ด ถ้าจับแล้วรู้สึกว่าโอบกีต้าร์ได้ถนัด และเปลี่ยนคอร์ดได้โดยไม่ติดขัด แสดงว่ารูปทรงคอเหมาะกับมือของเรา


     ระบบไฟฟ้าก็ควรลองทดสอบโดยต่อเข้ากับแอมป์หรือมิกเซอร์จริง ฟังดูว่าทันทีที่เสียบสายออกลำโพง เสียงยังคงความเป็นอะคูสติกอยู่มากน้อยแค่ไหน ปรับโทนนิดหน่อยแล้วได้เสียงที่ชอบหรือไม่ ถ้าใช้เวลาไม่นานก็ลงตัว แสดงว่าภาคไฟฟ้าถูกจูนมาให้ใช้งานได้ง่ายจริง


ทริกเล็ก ๆ ในการตั้งแอมป์และอัดเสียง

  • เวลาเสียบกีต้าร์เข้าแอมป์ ไม่ควรปล่อยทุกปุ่มไว้ตรงกลางแล้วเริ่มเล่นทันที ควรค่อย ๆ ปรับปุ่ม Bass, Middle และ Treble ทีละน้อย แล้วลองตีคอร์ดและเกาสลับกันเพื่อฟังความแตกต่างของเสียง
  • ถ้าเล่นในห้องขนาดเล็กที่ผนังค่อนข้างแข็ง มักจะมีเสียงทุ้มสะท้อนมากกว่าปกติ ให้ลองลดย่านเบสลงเล็กน้อย แล้วค่อยเพิ่มย่านกลางและย่านแหลม เพื่อให้เสียงฟังสบาย ไม่ทุ้มอึดอัดจนเกินไป
  • ก่อนจะเปิดเอฟเฟคอื่น ๆ ควรตั้งระดับ Volume ของทั้งกีต้าร์และแอมป์ให้สมดุลก่อน จะช่วยลดโอกาสเกิดเสียงฟีดแบ็ค และทำให้ควบคุมความดังได้ง่ายขึ้น
  • เมื่อต้องการอัดเสียงลงคอมพิวเตอร์ ให้ต่อกีต้าร์ผ่านออดิโออินเตอร์เฟซเข้าโปรแกรมทำเพลง จะได้สัญญาณเสียงที่นิ่งและสะอาด เหมาะสำหรับการปรับแต่งต่อ
  • ในโปรแกรมทำเพลง สามารถใส่เอฟเฟค Reverb หรือ Chorus เพิ่มเพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มมิติและความมีชีวิตชีวาให้เสียง โดยไม่ทำให้เสียงขุ่นหรือฟังดูไกลเกินไป
  • ถ้าอยากได้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น อาจวางไมค์รับเสียงหน้าตัวกีต้าร์เพิ่มอีกหนึ่งตัว แล้วผสมเสียงจากไมค์เข้ากับสัญญาณตรงจากภาคไฟฟ้า จะได้ทั้งความชัดของตัวโน้ตและบรรยากาศของห้องไปพร้อมกัน


เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการอัปเกรด กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE ในงบประหยัด กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE ในงบประหยัด

     เมื่อมองภาพรวมทั้งวัสดุ โครงสร้าง ภาคไฟฟ้า และงานประกอบ กีต้าร์รุ่นนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ใช้กีต้าร์โปร่งตัวแรกมาสักระยะหนึ่งแล้ว และอยากขยับไปใช้กีต้าร์ที่ให้ทั้งเสียงและสัมผัสดีกว่าเดิม โดยไม่ต้องเพิ่มงบประมาณมากเกินไป คุณจะได้ไม้หน้าท็อปโซลิด ไม้มะฮอกกานีทั้งด้านข้างและด้านหลัง ภาคไฟฟ้าจากแบรนด์ที่ไว้ใจได้ และซอฟต์เคสที่พร้อมพากีต้าร์ออกไปซ้อมหรือเล่นงานนอกสถานที่ได้ทันที


     สำหรับมือใหม่ที่ตั้งใจฝึกอย่างจริงจัง กีต้าร์รุ่นนี้สามารถเป็นกีต้าร์หลักที่ใช้ไปได้อีกยาว เพราะโครงสร้างและวัสดุรองรับการพัฒนาทักษะ เมื่อเล่นเก่งขึ้นก็ยังไม่รู้สึกว่ากีต้าร์ตัวนี้เป็นข้อจำกัด ส่วนคนที่เล่นในระดับทำงาน เช่น เล่นตามร้านอาหาร หรือเล่นในงานอีเวนต์ต่าง ๆ ก็สามารถใช้รุ่นนี้เป็น “เครื่องดนตรีประจำตัว” ที่เชื่อถือได้ ทั้งในเรื่องความทนทานและความนิ่งของเสียงเวลาเล่นจริง

กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE ตั้งโชว์บนขาตั้งกลางห้องพื้นลายพรมพร้อมโลโก้ Veelah ด้านข้างม่านยาว

สรุปภาพรวมและความคุ้มค่าของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Veelah V1-GACE

     ถ้าสรุปโดยรวม กีต้าร์รุ่นนี้คือกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าทรงแกรนด์ออดิทอเรียมที่ผสมผสานหลายด้านได้อย่างลงตัว ทั้งเสียงที่ฟังง่าย เล่นได้หลายแนว ความสบายเวลาเล่น วัสดุที่เลือกใช้ และภาคไฟฟ้าที่พร้อมต่อใช้งานบนเวทีหรือในสตูดิโอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมมากนัก


     สำหรับคนที่กำลังมองหากีต้าร์ตัวเดียวที่พกติดตัวไปได้ทุกที่ ใช้ซ้อมก็ได้ เล่นสดก็ดี หรือใช้ถ่ายคลิปลงโซเชียลมีเดียก็สะดวก รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ควรลองจับเล่นด้วยตัวเองสักครั้ง แล้วจะเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงเลือกใช้เป็นกีต้าร์คู่ใจในระยะยาว


คลิป YouTube
เครดิต : Music Arms

สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่


🛒สั่งซื้อได้ที่นี่


รีวิวโดย gooddymusic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น