กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe กับเสน่ห์เสียงบลูส์รุ่นใหม่ในงานออกแบบระดับมืออาชีพ

กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe สีม่วง Mississippi Night พร้อมโลโก้ Fender และ CT MUSIC

     กีต้าร์ที่สะท้อนตัวตนของนักดนตรีได้จริง ๆ มักไม่ใช่แค่เครื่องดนตรีสำหรับเล่นคอร์ดหรือโซโล่ แต่เป็นเหมือนภาษาที่สองของผู้เล่น รุ่นซิกเนเจอร์อย่าง กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe ของ Christone “Kingfish” Ingram จึงไม่ได้มีดีเพียงสีสวยแปลกตา แต่ถูกออกแบบมาให้ถ่ายทอดอารมณ์บลูส์สมัยใหม่ที่ทั้งดิบ หนา และทรงพลัง มือใหม่ก็เริ่มต้นได้ไม่ยาก ส่วนคนเล่นจริงจังจะยิ่งรู้สึกถึงเอกลักษณ์ของเสียงที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลอง


     สำหรับคนที่กำลังมองหากีต้าร์ไฟฟ้าระดับมืออาชีพไว้ใช้งานจริง ไม่ว่าจะเล่นงานแสดง ซ้อมกับวง หรือบันทึกเสียงในสตูดิโอ รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง เพราะรวมจุดเด่นของ Telecaster แบบคลาสสิกเข้ากับงานออกแบบสมัยใหม่ ทั้งปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์ที่ออกแบบพิเศษ คอไม้เมเปิลผ่านการอบ (roasted maple) และสีบอดี Mississippi Night ที่เห็นแล้วจำได้ทันทีว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ Kingfish ทำให้เป็นกีต้าร์ที่มีทั้งมุมใช้งานและมุมสะสมในตัวเดียว


โครงสร้างและงานออกแบบของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe

     บอดีของรุ่นนี้ยังคงใช้ทรง Telecaster® ที่หลายคนคุ้นเคย แต่มีการปรับสัดส่วนให้เข้ากับสรีระมากขึ้น เวลาใช้สายสะพายจะรู้สึกว่ากีต้าร์มีน้ำหนักกระจายตัวสมดุลดี ไม่หนักไปทางคอหรือทางตัวจนเกินไป เนื้อไม้หลักที่ใช้คือ Alder ซึ่งเป็นไม้ที่ Fender เลือกใช้มานาน เพราะให้โทนเสียงย่านกลางชัด เล่นรวมกับวงแล้วไม่ถูกกลบง่าย เหมาะทั้งกับการเล่นคอร์ดและไลน์เดี่ยว


     จุดที่ทำให้รุ่นนี้ดูแตกต่างจาก Telecaster ทั่วไปคือสีม่วง Mississippi Night แบบเมทัลลิก เมื่อโดนแสงบนเวทีหรือในสตูดิโอจะเห็นประกายเล่นแสงสวยงาม ให้บรรยากาศคล้ายท้องฟ้ายามค่ำคืนในเมือง Clarksdale ตามแรงบันดาลใจของศิลปิน สีนี้ช่วยให้กีต้าร์ดูโดดเด่น แต่ยังดูสุภาพ ใช้ได้ทั้งในงานบลูส์ ร็อก หรือโซล

กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe บอดี้สีม่วงเมทัลลิก พร้อมปิกการ์ดสีดำและปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์คู่

     รายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทำให้ภาพรวมดูพรีเมียมขึ้น เช่น การเก็บขอบบอดีให้โค้งรับกับแขน การใช้ปิกการ์ดขนาดใหญ่สไตล์ Telecaster Deluxe และการเก็บงานขอบให้เรียบร้อย ทำให้กีต้าร์ตัวนี้ให้ความรู้สึกทั้งคลาสสิกและดุดันในเวลาเดียวกัน เมื่อจับคู่กับสาย Nickel Plated Steel เบอร์ .010–.046 ที่ติดมาจากโรงงาน ก็ได้สัมผัสที่สมดุลทั้งสำหรับการตีคอร์ดและการดันสาย


รายละเอียดวัสดุและสเปกแบบลงลึกสำหรับคนเล่นกีต้าร์จริงจัง

     เมื่อมองไปที่ส่วนคอ จะเห็นจุดเด่นชัดเจนคือคอไม้เมเปิลผ่านการอบ ซึ่งช่วยให้เนื้อไม้เสถียรกว่าคอเมเปิลทั่วไป ทนต่อความชื้นและอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปมา ลดโอกาสที่คอจะบิดในระยะยาว เวลาจับคอจะรู้สึกว่าพื้นผิวแห้ง ลื่นมือ ไม่เหนียว แม้เล่นในที่อากาศร้อนหรือมีไฟบนเวทีจำนวนมาก


     ทรงคอเป็นรูปตัว “V” แบบที่หลายคนคุ้นจากกีต้าร์วินเทจ เหมาะกับคนที่ชอบให้มือซ้ายดันเต็มไปที่สันคอ เวลาจับคอร์ดบาร์หรือเล่นริฟฟ์ต่อเนื่องยาว ๆ จะรู้สึกมั่นคง ฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้โรสวูด มีเรเดียส (ความโค้งของฟิงเกอร์บอร์ด) 12 นิ้ว ซึ่งโค้งน้อยกว่ากีต้าร์สไตล์วินเทจเล็กน้อย ทำให้ดันสายได้ง่ายขึ้น และรองรับการเล่นโน้ตต่อเนื่องแบบลื่นไหลโดยไม่ติดเฟรต

หัวกีต้าร์สีไม้โทนอ่อน ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด พร้อมลูกบิดวินเทจหกตัวเรียงด้านเดียว

     เฟรตที่ให้มาจำนวน 21 เฟรต ขนาด Medium Jumbo ถือเป็นขนาดที่สมดุลสำหรับการเล่นหลากหลายแนว กดสายไม่ต้องออกแรงมาก แต่ยังควบคุมตำแหน่งเสียงได้ดี ถ้าตั้งความสูงสาย (action) ให้เหมาะ มือใหม่จะรู้สึกว่าเล่นง่าย ส่วนคนที่เล่นมานานจะชอบความคล่องตัวเวลาโซโล่


     ฮาร์ดแวร์ในส่วนของหย่องเป็นแบบ Adjusto-Matic™ พร้อมเทลพีซยึดติดกับตัวบอดี ทำให้ปรับความยาวสายทีละเส้นได้ละเอียด ช่วยให้ตั้งอินโทนเนชันได้แม่นยำ เวลาเล่นคอร์ดในตำแหน่งบน ๆ ของฟิงเกอร์บอร์ด เสียงจะไม่เพี้ยนออกจากโน้ตที่ควรเป็น ลูกบิดตั้งสายสไตล์วินเทจของ Fender ขึ้นสายง่ายและล็อกสายได้ดี เมื่อทำงานร่วมกับคอไม้เมเปิลผ่านการอบ จึงช่วยให้กีต้าร์ตั้งสายอยู่ได้นาน เหมาะกับการเล่นงานยาว ๆ หรือซ้อมหลายชั่วโมงติดกัน

ด้านหลังตัวกีต้าร์สีม่วงเมทัลลิก พร้อมคอไม้เมเปิลและเพลทคอยึดนอตสี่ตัวบนพื้นหลังขาว

ระบบปิ๊กอัพและภาคไฟฟ้าสำหรับโทนบลูส์–ร็อกยุคใหม่

     หัวใจสำคัญของรุ่นนี้อยู่ที่ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์แบบ Custom Kingfish ซึ่งติดตั้งทั้งตำแหน่งหน้าและตำแหน่งหลัง ปิ๊กอัพชุดนี้ออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองแนวบลูส์–ร็อกโดยเฉพาะ เวลาเพิ่ม Gain หรือเปิด Overdrive เสียงที่ได้จะหนา มีความกัดเล็กน้อย แต่ยังได้ยินตัวโน้ตชัดเจน ไม่แตกเละจนฟังยาก และเมื่อปรับเป็นเสียง Clean ก็ยังให้โทนอบอุ่น เหมาะทั้งกับการเล่นเมโลดีช้า ๆ และคอร์ดที่ต้องการเสียงเต็ม ๆ


     วงจรภาคไฟฟ้าของกีต้าร์รุ่นนี้ใช้งานไม่ซับซ้อน มีสวิตช์เลือกปิ๊กอัพแบบ 3 ทาง พร้อมปุ่มวอลุ่มหลัก 1 ปุ่ม และปุ่มโทน 2 ปุ่ม ช่วยให้ปรับลักษณะเสียงได้หลากหลาย ตัวอย่างเช่น หากเลือกปิ๊กอัพหน้าแล้วลดโทนลงเล็กน้อย เสียงที่ได้จะนุ่ม เหมาะกับโซลหรือบลูส์ช้า ๆ แต่ถ้าเลือกปิ๊กอัพหลัง เปิดโทนเต็ม แล้วเพิ่ม Gain จากแอมป์หรือเอฟเฟค จะได้เสียงร็อกที่ชัดเจน และเด่นออกมาจากเสียงเครื่องดนตรีอื่นในวง

กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe มุมใกล้บอดี้สีม่วงเมทัลลิก โชว์หย่อง ปิ๊กอัพ และปุ่มวอลุ่มโทนสี่ตำแหน่ง

แนวทางตั้งเสียง กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe ให้ใกล้คาแรคเตอร์ Kingfish

สำหรับคนที่อยากเริ่มจากโทนใกล้เคียงกับที่ Kingfish ใช้ สามารถลองตั้งค่าแบบง่าย ๆ ได้ดังนี้:

  • เริ่มจากเลือกปิ๊กอัพหลัง เปิดโทนเต็ม ตั้งวอลุ่มประมาณ 7–8 แล้วเพิ่ม Overdrive ระดับ Gain ปานกลาง จะได้โทนบลูส์–ร็อกที่มีความกัดเล็กน้อย แต่ยังได้ยินรายละเอียดของโน้ตชัดเจน
  • ถ้าอยากได้โทนโซโล่นุ่ม ๆ ให้เลื่อนสวิตช์ไปตำแหน่งผสมหน้า–หลัง แล้วเติม Reverb เล็กน้อย เสียงจะฟังหนา เต็ม และเชื่อมต่อกันลื่นขึ้น
  • หากต้องสลับระหว่างเสียง Clean และเสียงแตกภายในเพลงเดียวกัน ให้ตั้งวอลุ่มที่กีต้าร์ไว้สุด แล้วใช้การลดหรือเพิ่มวอลุ่มบนตัวกีต้าร์แทนการเปิด–ปิด Gain จากแอมป์ จะช่วยควบคุมไดนามิกและระดับความแตกได้รวดเร็วขณะเล่น


     แนวทางเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการค้นหาเสียงที่ตรงกับสไตล์ของแต่ละคน จุดเด่นของปิ๊กอัพ Custom Kingfish คือรับแรงดีดของมือขวาได้ละเอียด ยิ่งควบคุมจังหวะและน้ำหนักมือได้ดี เสียงที่ออกมาก็ยิ่งมีมิติและฟังสนุกมากขึ้น


ประสบการณ์ใช้งานจริงทั้งบนเวทีและในสตูดิโอ

     ในมุมของคนเล่นที่ต้องขึ้นเวทีหรือซ้อมกับวงเป็นประจำ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่โทนเสียงดีอย่างเดียว แต่ต้องรวมถึงความทนทานและความมั่นใจเวลาหยิบขึ้นมาใช้ด้วย รุ่น Kingfish Telecaster Deluxe ถูกออกแบบมาให้รับมือกับการใช้งานจริงได้ดี บอดีไม้ Alder และคอไม้เมเปิลผ่านการอบช่วยให้กีต้าร์ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปมา ไม่ต้องกังวลเรื่องคอบิดหรือตัวกีต้าร์เสียสมดุลง่าย ๆ


     เมื่อนำไปใช้เล่นกับวง เสียงจากปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์ช่วยให้กีต้าร์มีพื้นที่ของตัวเองในซาวด์รวม ย่านเสียงกลางที่เด่นทำให้ไม่ถูกกลบง่าย แม้จะเล่นร่วมกับคีย์บอร์ดหรือกีต้าร์อีกตัวหนึ่งก็ตาม ส่วนในงานบันทึกเสียง ปิ๊กอัพทั้งสองตำแหน่งให้โน้ตที่เก็บรายละเอียดได้ดี ทำให้คนมิกซ์เสียงทำงานง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องแก้ไขมากในภายหลัง


     ด้านการพกพา รุ่นนี้มาพร้อมกระเป๋าแข็ง Deluxe Molded Case ที่ออกแบบให้รองรับรูปทรงของตัวกีต้าร์โดยเฉพาะ ภายในบุด้วยวัสดุนุ่ม ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี และยังมีช่องเก็บอุปกรณ์เสริมอย่างสายแจ็ค สายสะพาย หรือเอฟเฟคขนาดเล็ก ช่วยให้พกกีต้าร์ออกไปซ้อมหรือเล่นนอกสถานที่ได้อย่างสบายใจมากขึ้น


การดูแลรักษาและการตั้งค่าพื้นฐานให้ใช้งานได้นาน

     การดูแลกีต้าร์รุ่นนี้ไม่ได้ยุ่งยากไปกว่ากีต้าร์ไฟฟ้าทั่วไป แต่ถ้าอยากให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและอยู่กับเราไปได้นาน แนะนำให้ดูแลตามหลักพื้นฐานดังนี้:

  • เปลี่ยนสายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะถ้าเหงื่อออกมาก หรือรู้ตัวว่าเหงื่อมีกรดสูง จะช่วยให้เสียงสดและยืดอายุเฟรต
  • ตรวจเช็คความโค้งของคอและตั้งค่า truss rod (แกนปรับคอ) เป็นระยะ ควรให้ช่างมืออาชีพเป็นคนจัดการเพื่อป้องกันความเสียหาย
  • ทำความสะอาดฟิงเกอร์บอร์ด Rosewood ด้วยน้ำยาที่ออกแบบมาสำหรับไม้ประเภทนี้โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปที่มีสารกัดกร่อน
  • เมื่อไม่ได้ใช้งาน ควรเก็บกีต้าร์ไว้ในเคสและปิดให้สนิท เพื่อช่วยลดผลกระทบจากความชื้นและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง


     เพียงดูแลตามขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้ กีต้าร์ตัวเดียวก็พร้อมใช้งานได้ยาว ทั้งในด้านโทนเสียงที่คงเสถียร และสภาพภายนอกที่ยังดูดีอยู่เสมอ


ข้อสรุปสำหรับผู้ที่กำลังมองหา กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Kingfish Telecaster Deluxe ระดับโปร

     เมื่อมองภาพรวม รุ่น Kingfish Telecaster Deluxe เป็นกีต้าร์ที่รวมหลายองค์ประกอบสำคัญไว้ด้วยกัน ทั้งดีไซน์ที่จดจำได้ง่าย วัสดุและงานประกอบที่เชื่อถือได้ ระบบปิ๊กอัพที่รองรับทั้งเสียงคลีนและเสียงแตก รวมถึงความเป็นซิกเนเจอร์ของศิลปินบลูส์รุ่นใหม่อย่าง Kingfish ที่ถูกใส่ไว้ในรายละเอียดรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นลายเซ็นบนหัวกีต้าร์ โลโก้บนเพลทคอ หรือโทนเสียงที่ออกมาจากปิ๊กอัพ

ด้านหลังหัวกีต้าร์ไม้เมเปิล โชว์ลูกบิดวินเทจหกตัวและลายเซ็นศิลปินพร้อมสัญลักษณ์มงกุฎ

     หากคุณต้องการกีต้าร์ไฟฟ้าหนึ่งตัวที่ใช้งานได้จริงทั้งบนเวทีและในสตูดิโอ มีคาแรคเตอร์ชัดเจน และให้แรงบันดาลใจในการฝึกเล่นทุกครั้งที่หยิบขึ้นมา รุ่นนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่ควรลองด้วยตัวเองสักครั้งก่อนตัดสินใจ เพราะนอกจากจะตอบโจทย์ในแง่การใช้งานแล้ว ยังเป็นเครื่องดนตรีที่มีเรื่องราวและเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ค้นหาไปพร้อมกับการเล่นในทุกวัน


สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่


🛒สั่งซื้อได้ที่นี่


หมายเหตุ : มีคลิปให้ฟังเสียงจริง ความยาว 10.44 นาที

คลิป YouTube
เครดิต : Fender

รีวิวโดย gooddymusic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น