กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Power Players Les Paul เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาให้รักษาเสียงและบุคลิกของทรง Les Paul แบบดั้งเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ย่อส่วนขนาดให้เหมาะกับผู้เล่นรุ่นใหม่ มือเล็ก หรือคนที่ต้องพกกีต้าร์ไปไหนมาไหนเป็นประจำโดยไม่อยากแบกน้ำหนักมาก รีวิวนี้จะชวนมาดูโครงสร้าง วัสดุ โทนเสียง และการใช้งานจริงแบบเป็นขั้นตอน เพื่อให้มือใหม่ทางดนตรีตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่ารุ่นนี้เหมาะกับสไตล์การเล่นและรูปแบบการใช้ชีวิตของตนเองหรือไม่
คุณสมบัติสำคัญของ กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Power Players Les Paul และจุดเด่นที่ผู้เล่นควรรู้
รุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่มกีต้าร์ขนาด 3/4+ คือมีบอดี้และความยาวสเกลสั้นกว่ากีต้าร์มาตรฐานเล็กน้อย ระยะสเกลอยู่ที่ประมาณ 22.73 นิ้ว ส่งผลให้สายไม่ตึงจนเกินไป การกดคอร์ด ดันสาย และเล่นทำนองใช้แรงน้อยกว่า Les Paul ขนาดเต็ม มือเล็กหรือผู้ที่เริ่มเล่นใหม่จะรู้สึกว่าจับง่ายและควบคุมได้ดีกว่า โดยเฉพาะตอนฝึกเปลี่ยนคอร์ดหรือซ้อมท่อนโซโลในย่านเฟรตบน
ในด้านน้ำหนัก บอดี้ที่เล็กลงและการใช้ไม้ Mahogany ทำให้กีต้าร์ตัวนี้เบากว่า Les Paul รุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน แต่ยังคงให้เนื้อเสียงที่อุ่น หนา และมีมวลตามสไตล์กีต้าร์ทรงนี้อยู่ครบ เสียงคอร์ดฟังเต็ม ไม่บาง ส่วนการเล่นโน้ตเดี่ยวแต่ละตัวจะฟังดูอิ่ม และสามารถลากเสียงให้อยู่ได้นานโดยไม่ขาดหาย เหมาะกับแนวร็อก บลูส์ ป็อปร็อก หรือเพลงที่ต้องการซาวนด์หนา โดยที่เสียงไม่แหลมจนฟังนาน ๆ แล้วล้าหู
คุณภาพงานประกอบอยู่ในระดับที่ไว้วางใจได้สำหรับกีต้าร์ในกลุ่มนี้ ทั้งงานเคลือบที่เรียบเนียน ขอบเฟรตเก็บงานมาดี จับแล้วไม่บาดมือ และฮาร์ดแวร์ที่เมื่อตั้งสายเรียบร้อยแล้วสามารถรักษาเสียงให้ตรงได้นาน ไม่เพี้ยนง่าย ช่วยลดเวลาที่ต้องคอยปรับจูนก่อนซ้อมหรือก่อนขึ้นเล่น ทำให้ผู้เล่นมีสมาธิกับการฝึกและการสร้างสรรค์ดนตรีได้เต็มที่ แทนที่จะต้องเสียเวลาแก้ปัญหาทางเทคนิคของตัวกีต้าร์
ภายในแพ็คเกจมีอุปกรณ์พื้นฐานครบชุด ทั้ง Gig Bag สำหรับพกพา สายสะพาย ปิ๊ก และสายแจ็ค ทำให้ผู้เริ่มต้นสามารถต่อกีต้าร์เข้ากับแอมป์แล้วเริ่มเล่นได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาตามหาอุปกรณ์เสริมทีละชิ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นกีต้าร์ตัวแรก หรือกีต้าร์สำรองที่พร้อมใช้งานทุกสถานการณ์
โครงสร้าง วัสดุ และรายละเอียดทางเทคนิคของ กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Power Players Les Paul
ในมุมมองด้านโครงสร้าง ตัวกีต้าร์ใช้บอดี้ Mahogany แบบตัน ซึ่งเป็นไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องโทนเสียงย่านกลางที่แน่นและอิ่ม จึงให้บุคลิกเสียงแบบ Les Paul ชัดเจน เมื่อจับคู่กับคอ Mahogany โปรไฟล์ทรง Slim Taper D จะได้ทั้งความสบายมือและน้ำเสียงที่ต่อเนื่องไปทั้งตัวกีต้าร์ คอไม่ได้หนาจนจับยาก แต่ก็ไม่บางจนรู้สึกหลวม เหมาะกับผู้เล่นส่วนใหญ่ทั้งมือใหม่และผู้ที่เล่นมานาน
ความกว้างของนัทอยู่ที่ประมาณ 41 มิลลิเมตร จัดว่าอยู่ในช่วงมาตรฐาน นิ้วไม่เบียดกันจนแน่นเกินไปเวลาจับคอร์ด แต่ก็ไม่กว้างจนต้องกางนิ้วมากเกินจำเป็น ฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้ Indian Laurel สีโทนน้ำตาลธรรมชาติ ผิวสัมผัสออกกึ่งด้านกึ่งมัน ทำให้สไลด์นิ้วได้ลื่นและควบคุมได้ง่าย มีอินเลย์ลาย Pearloid Trapezoid ที่ช่วยให้มองตำแหน่งเฟรตได้ชัดเจนแม้อยู่ในห้องที่มีแสงไม่มาก
กีต้าร์รุ่นนี้ให้มาทั้งหมด 22 เฟรต เพียงพอสำหรับการเล่นทั้งริทึมและโซโลจากเพลงยอดนิยมส่วนใหญ่ งานตั้งระดับเฟรตจากโรงงานทำมาได้ดี สามารถตั้งความสูงสายให้ต่ำลงได้โดยที่เสียงไม่ซ่าเฟรตง่าย เหมาะกับผู้ที่ชอบความลื่นมือหรือเล่นท่อนโน้ตวิ่ง ๆ บ่อย
ด้านฮาร์ดแวร์ใช้สะพานสายแบบ Lightning Bar Compensated Wrap Around ซึ่งออกแบบให้ช่วยชดเชยอินโทเนชันในตัว ทำให้เสียงคอร์ดในย่านเฟรตบนตรงคีย์มากขึ้นเมื่อเทียบกับสะพานสายแบบเรียบทั่วไป การเปลี่ยนสายก็ไม่ยุ่งยาก เพียงสอดปลายสายจากด้านหลังแล้วพันกลับด้านหน้า ผู้เล่นมือใหม่จึงไม่ต้องกังวลว่าจะใส่สายผิดจนเสียงเพี้ยน
ลูกบิดเป็นแบบ Die Cast ที่ให้ความหนืดมือพอดี หมุนแล้วไม่ลื่นหรือฝืดจนเกินไป เมื่อตั้งสายได้ตามต้องการแล้วสายจะนิ่งไม่ไหลเพี้ยนง่าย เคลือบฮาร์ดแวร์ด้วยสี Nickel ให้ภาพรวมของกีต้าร์ดูคลาสสิกและช่วยป้องกันสนิมในระยะยาว
ระบบปิกอัปและวงจรไฟฟ้าสำหรับโทนเสียงแบบ Les Paul
หัวใจของเสียงในกีต้าร์ไฟฟ้าคือปิกอัป รุ่นนี้ใช้คู่ปิกอัปฮัมบักเกอร์ Epiphone 650R ที่ตำแหน่งคอ และ 700T ที่ตำแหน่งบริดจ์ ให้สัญญาณที่หนา มีกำลังขับเหมาะทั้งเสียงคลีนและเสียงแตก โดยยังเก็บรายละเอียดของโน้ตได้ดี จุดเด่นของฮัมบักเกอร์คือช่วยลดเสียงฮัมรบกวน ทำให้เล่นในห้องที่มีสัญญาณไฟฟ้ารบกวนได้สบายขึ้น
วงจรควบคุมใช้รูปแบบเดียวกับ Les Paul มาตรฐาน โดยให้ปุ่ม Volume แยกการทำงานสำหรับปิ๊กอัพแต่ละตัว และมีปุ่ม Tone อีกสองปุ่มสำหรับปรับโทนเสียง ผู้เล่นจึงสามารถผสมเสียงระหว่างปิ๊กอัพคอกับบริดจ์ได้อย่างละเอียด เช่น ลด Volume ฝั่งคอให้เสียงใสและนุ่มไว้เล่นคอร์ด แล้วเพิ่ม Volume ฝั่งบริดจ์ให้แรงขึ้นสำหรับท่อนโซโล่ เมื่อต่อร่วมกับสวิตช์เลือกปิ๊กอัพแบบสามทาง ก็จะได้ชุดโทนเสียงหลายลักษณะให้เลือกใช้ตามแนวเพลงที่เล่น
การปรับโทนด้วยปุ่ม Tone ยังช่วยให้เลือกคาแรคเตอร์เสียงได้ตั้งแต่นุ่มหนาแบบบลูส์หรือแจ๊ส ไปจนถึงโทนสว่างสำหรับร็อกสมัยใหม่ เมื่อเล่นด้วยไดนามิกมือขวาที่ต่างกัน เช่น เกาเบาและเกาแรงสลับกัน จะได้ความแตกต่างของเสียงที่ตอบสนองตามน้ำหนักมืออย่างชัดเจน เหมาะกับผู้ที่อยากฝึกควบคุมสัมผัสการเล่นให้มีชีวิตชีวา
เมื่อต่อเข้ากับเอฟเฟคประเภท Overdrive, Distortion หรือ Compressor ฮัมบักเกอร์คู่นี้ก็ยังรับมือได้ดี เสียงไม่อื้ออึงจนฟังจังหวะไม่ออก โน้ตแต่ละตัวได้ความแน่นและความต่อเนื่อง เหมาะกับการเล่นริฟฟ์หนัก ๆ หรือไลน์โซโลที่ต้องการให้โน้ตชัดทุกตัว
จุดเด่นของ กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Power Players Les Paul ที่เหมาะกับเด็ก ผู้เริ่มต้น และนักกีต้าร์สายเดินทาง
สำหรับผู้ปกครองที่กำลังมองหาเครื่องดนตรีชิ้นแรกให้บุตรหลาน สิ่งที่ต้องคิดจริง ๆ คือขนาดกีต้าร์ น้ำหนัก และเสียงที่ได้ รุ่นนี้ตอบโจทย์ครบทั้งสามด้าน ขนาดตัวและความยาวสเกลช่วยให้เด็กหรือลูกศิษย์มือใหม่จับคอร์ดได้ง่าย ไม่ต้องยืดนิ้วมากเกินกำลัง น้ำหนักที่เบากว่ารุ่นมาตรฐานก็ช่วยลดอาการปวดไหล่และหลังเวลาซ้อมนาน ๆ
ในด้านเสียง การที่กีต้าร์ให้โทนหนา ชัด และได้ยินรายละเอียดโน้ตดี ช่วยให้ผู้เริ่มต้นฝึกฟังความแตกต่างของคอร์ดและเมโลดี้ได้ง่ายขึ้น เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการฝึกหูและการเข้าใจโครงสร้างเพลง เมื่อผู้เล่นรู้สึกว่าเสียงที่ตนเองเล่นออกมาฟังดีและมีพลัง ก็จะมีแรงจูงใจหยิบกีต้าร์ขึ้นมาซ้อมบ่อยขึ้นตามไปด้วย
สำหรับครูสอนดนตรีหรือสถาบันดนตรี รุ่นนี้ยังเหมาะจะใช้เป็นกีต้าร์ประจำห้องเรียน เพราะสามารถตั้งค่าระบบสายและฮาร์ดแวร์ให้เสถียรได้ไม่ยาก เด็กหลายคนสามารถใช้กีต้าร์ตัวเดียวกันผลัดกันเรียนได้ทั้งวันโดยไม่ต้องตั้งสายใหม่ทุกครั้ง ช่วยประหยัดเวลาในคาบเรียนและทำให้ผู้สอนโฟกัสกับเนื้อหาการสอนได้เต็มที่
ส่วนผู้เล่นที่ต้องเดินทางบ่อย ไม่ว่าจะเป็นงานทัวร์ดนตรี งานเล่นตามร้าน หรือนักทำคอนเทนต์ที่อยากมีกีต้าร์ดี ๆ ติดตัวไปทุกที่ รุ่นนี้มีขนาดที่ใส่ใน Gig Bag แล้วสะพายขึ้นรถไฟ รถทัวร์ หรือเดินในเมืองได้สะดวก ไม่เทอะทะเท่ากีต้าร์ตัวใหญ่ หากมีแอมป์ขนาดเล็กหรือมัลติเอฟเฟคพกไปด้วยอีกหนึ่งชิ้น ก็แทบจะพร้อมขึ้นเล่นได้ทุกที่ทันที
ประสบการณ์ใช้งานจริงทั้งในห้องซ้อมและบนเวทีขนาดเล็ก
เมื่อลองใช้งานในห้องซ้อมกับแอมป์ทรานซิสเตอร์กำลังปานกลาง จะได้เสียงคลีนที่ใสแต่ยังมีเนื้อ ไม่บางจนหายไปจากเสียงรวมของวง เมื่อเปิดเสียงแตกเล็กน้อยจะได้จังหวะริทึมที่แน่นและชัด คุมจังหวะได้ดี หากเติมเอฟเฟครีเวิร์บหรือดีเลย์เล็กน้อย เสียงจะมีมิติมากขึ้น เหมาะกับแนวป็อป ร็อกเบา ๆ หรืออินดี้ที่ต้องการซาวนด์ฟังง่าย
บนเวทีขนาดเล็ก เช่น คาเฟ่ ผับขนาดย่อม หรืออีเวนต์กลางแจ้งที่ใช้ระบบเสียงไม่ใหญ่มาก หากต่อกีต้าร์ผ่านมัลติเอฟเฟคหรือแอมป์ที่มีฟังก์ชันจำลองเสียงแอมป์หลอด จะได้โทนเสียงที่ใกล้เคียง Les Paul ตัวใหญ่ค่อนข้างมาก เพียงตั้งค่าปิ๊กอัพบริดจ์ให้ Gain แรงขึ้นสำหรับโซโล่ และใช้ปิ๊กอัพคอสำหรับเล่นริทึม ก็จะทำให้ช่วงโซโล่และช่วงเล่นคอร์ดมีความเด่นคนละแบบ ฟังออกชัดเจนว่ามีคาแรคเตอร์ต่างกัน โดยไม่จำเป็นต้องสลับกีต้าร์หลายตัวบนเวที
เปรียบเทียบการใช้งานจริงของรุ่น Power Players กับ Les Paul มาตรฐาน
เมื่อเทียบกับ Les Paul ขนาดเต็ม ความแตกต่างที่รู้สึกได้ทันทีคือความรู้สึกของคอและแรงตึงสาย รุ่น Power Players ให้ความสบายมือมากกว่า โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้ซ้อมทุกวันหรือมีมือเล็ก แต่ยังรักษาบุคลิกเสียงกลางที่แน่นและโทนหนาแบบ Les Paul เอาไว้ เสียงโซโลยังพุ่งออกมาจากเสียงรวมของวงได้ดี ไม่จมหายไปง่าย
ในด้านภาพลักษณ์บนเวที แม้ตัวกีต้าร์จะเล็กกว่า แต่เพราะใช้ทรง Les Paul พร้อมอินเลย์และฮาร์ดแวร์สไตล์คลาสสิก ทำให้ดูเป็นมืออาชีพไม่ต่างจากรุ่นใหญ่ ผู้เล่นที่อยากได้ลุคแบบ Les Paul แต่ไม่อยากรับน้ำหนักและความยาวคอแบบไซซ์เต็ม ก็มักมองรุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่สมดุลระหว่างภาพลักษณ์กับความสบายในการเล่น
คำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังมองหา กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Power Players Les Paul ขนาดเล็กคุณภาพสูง
หากสรุปให้เข้าใจง่าย รุ่นนี้เหมาะทั้งกับผู้เริ่มต้นที่อยากมีกีต้าร์ตัวแรกที่ใช้ได้ยาว ไม่ต้องรีบเปลี่ยนรุ่น และนักดนตรีที่มีประสบการณ์ซึ่งมองหากีต้าร์ตัวเล็กไว้ซ้อมหรือขึ้นเวทีขนาดเล็ก จุดที่ควรคิดคือแนวเพลงที่เล่นเป็นหลัก หากคุณชอบแนวร็อกคลาสสิก ฮาร์ดร็อก บลูส์ หรือป็อปร็อกที่ต้องการเสียงหนา มีซัสเทนดี เมื่อนำไปจับคู่กับแอมป์ที่มีเสียงแตกหรือมัลติเอฟเฟคสักตัว รุ่นนี้สามารถรองรับได้สบาย
ในส่วนของสีที่มีให้เลือก ทั้ง Ice Blue ที่ดูสะอาด ทันสมัย Lava Red ที่ให้ความรู้สึกสดใส ดุดัน และ Dark Matter Ebony ที่ดูเรียบ เท่ และคลาสสิก ทุกสีผ่านการเคลือบที่ทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะสะพายขึ้นรถ ลงเวที หรือเก็บในห้องซ้อม
เมื่อพิจารณางานไม้ ฮาร์ดแวร์ ระบบปิกอัป และอุปกรณ์ที่แถมมาให้ครบชุด จะเห็นว่าเป็นกีต้าร์ขนาดเล็กที่ให้ความคุ้มค่าต่อราคาสูง เหมาะกับทั้งคนที่เพิ่งเริ่มต้นบนเส้นทางดนตรี และคนที่เล่นมานานแล้วแต่อยากมีกีต้าร์ตัวเบาไว้เป็นเพื่อนเดินทางอีกหนึ่งตัว หากมีโอกาส แนะนำให้ลองจับและลองฟังด้วยตนเองสักครั้ง เชื่อว่าหลายคนจะประหลาดใจกับเสียงและความรู้สึกที่ได้จากกีต้าร์ตัวเล็กแบบนี้
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
หมายเหตุ : มีคลิปให้ฟังเสียงจริง ความยาว 3.42 นาที
รีวิวโดย gooddymusic








ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น