กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jimi Hendrix Stratocaster เป็นกีต้าร์ที่พาคุณไปสัมผัสโทน Stratocaster แบบวินเทจได้จริง จุดเด่นคือเสียงใส โปร่ง และมีมิติ หมายความว่า เวลาเราดีดเบา ๆ เสียงจะนุ่มและใส แต่พอดีดแรงขึ้น เสียงจะดังและคมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มือใหม่สังเกตความต่างของโทนเสียงได้ง่าย เริ่มจากเสียงคลีนที่ใสสะอาด แล้วค่อยต่อยอดไปสู่เสียงแตกที่นุ่มและฟังสบายในแนวร็อกคลาสสิกได้โดยไม่ยาก แม้ไม่ใช่แฟนศิลปินก็สนุกกับคาแรคเตอร์ของรุ่นนี้ได้
แนวคิดการออกแบบของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jimi Hendrix Stratocaster
แนวคิดของรุ่นนี้คือทำให้ “โทน Strat ยุคคลาสสิก” อยู่ในมือผู้เล่นได้แบบไม่ซับซ้อน เสียงมีความโปร่งและชัด จึงเล่นคอร์ดแล้วไม่ทึบ และเวลาโซโล่ก็ยังได้ยินรายละเอียดของโน้ตครบขึ้น โดยเฉพาะย่านกลางที่ชัด ทำให้กีต้าร์ไม่จมหายเมื่อเล่นร่วมกับเครื่องดนตรีอื่น
รูปทรงเป็น Stratocaster ที่ออกแบบให้แนบลำตัว จับแล้วสมดุล เล่นนาน ๆ แล้วไม่เมื่อยง่าย รุ่นนี้มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละคน
- Olympic White: โทนคลาสสิก สว่าง ถ่ายรูปขึ้นกล้อง
- Black: เรียบ เท่ ดูดุดันแบบสุภาพ
- 3-Color Sunburst: ลายไล่สีวินเทจ ให้ความรู้สึกแบบกีต้าร์ยุคเก่า
- Ultra Violet: โทนสีจัดขึ้นอีกนิด เหมาะกับคนที่อยากให้กีต้าร์เด่นบนเวที
สีทั้ง 4 โทนนี้ให้คาแรคเตอร์ต่างกัน แต่โครงสร้างและแนวเสียงหลักของรุ่นยังคงเป็น Stratocaster แบบวินเทจที่เล่นได้จริงเหมือนกัน คุณเลือกสีที่ถูกใจได้ตามสไตล์และการใช้งานของตัวเอง
- บอดี้ใช้ไม้ Alder ซึ่งให้เสียงบาลานซ์และเป็นสเปกที่พบได้บ่อยใน Stratocaster
- ย่านกลางชัด ทำให้เวลามีเครื่องดนตรีหลายชิ้นเล่นพร้อมกัน เสียงกีต้าร์ยังเด่นและได้ยินชัด ไม่ถูกเสียงอื่นกลบ
- แหลมใส แต่ไม่แสบหูง่าย
- เบสกระชับ ไม่บวมจนกลบเครื่องดนตรีอื่น
งานเคลือบแบบ Gloss Polyester ให้ผิวเงา ดูแลง่าย เหมาะกับคนที่เล่นบ่อยและต้องเช็ดคราบเหงื่อเป็นประจำ
โครงสร้างคอและฟิงเกอร์บอร์ดที่เอื้อต่อการเล่นจริง
Neck ใช้ไม้ Maple ทรง “C” Shape ซึ่งเป็นทรงที่คนส่วนใหญ่จับถนัด โดยเฉพาะมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นคอทรงหนาหรือทรงบางมาก ๆ ส่วน Scale length 25.5 นิ้วเป็นมาตรฐานของ Fender ทำให้ความตึงสายกำลังดี เล่นคอร์ดแล้วแน่น และเวลาโซโล่ก็ยังคุมโน้ตได้ง่าย
Fingerboard เป็น Maple เช่นกัน และใช้ Radius 9.5 นิ้ว ถือว่าเป็นค่ากลาง ๆ ที่เล่นได้ทั้งคอร์ดและโซโล่แบบสมดุล ไม่โค้งมากจนดันสายยาก และไม่แบนจนบางคอร์ดจับลำบาก
จุดที่ช่วยให้เล่นสบายมือและคุมเสียงได้ง่าย
- 21 Frets: เพียงพอสำหรับเพลงส่วนใหญ่
- Fret size แบบ Medium Jumbo: กดและดันสายง่าย เหมาะกับการฝึก bending
- Nut แบบ Synthetic Bone: ช่วยให้เสียงเปิด และมักช่วยให้จูนไหลลื่นขึ้น
- Position inlays เป็น Black Dot: มองตำแหน่งง่าย ไม่รบกวนสายตา
Neck Finish แบบ Gloss Polyester ให้ผิวลื่น หากมือมีเหงื่อแล้วรู้สึกหนืด ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง จะช่วยให้จับถนัดขึ้น
ระบบปิกอัพของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jimi Hendrix Stratocaster กับคาแรคเตอร์เสียงแบบวินเทจ
หัวใจของรุ่นนี้คือชุด Pickups American Vintage ’65 Gray-Bottom Single-Coil Strat ทั้ง 3 ตำแหน่ง (Neck / Middle / Bridge) และใช้โครงแบบ SSS ซึ่งเป็นสูตรคลาสสิกของ Stratocaster ที่ให้เสียงใส ชัด และมีเอกลักษณ์เวลาสลับตำแหน่ง
เพื่อให้มือใหม่เข้าใจง่าย ลองจำ “บุคลิกเสียง” แบบนี้
- Neck Pickup: เสียงอุ่น นุ่ม เหมาะกับเมโลดี้ คลีน และบลูส์
- Middle Pickup: ย่านกลางชัด ใช้งานอเนกประสงค์ เหมาะกับการตีคอร์ดให้ชัดทุกเส้น
- Bridge Pickup: เสียงพุ่ง คม เหมาะกับริฟฟ์และโซโล่ที่ต้องการความชัด
สวิตช์แบบ 5-position ช่วยให้เลือกเสียงได้หลายแนว
- ตำแหน่ง 2 และ 4 (Bridge+Middle / Middle+Neck): มักได้เสียงใสกังวาน มีความ “Quack” แบบ Strat เหมาะกับฟังก์และคลีนใส
- ปุ่ม Tone แยก (Tone 1/2): ช่วยหรี่ความแหลมให้เสียงนุ่มลงได้ทันที โดยไม่ต้องไปปรับที่แอมป์
ถ้าคุณชอบโทนวินเทจที่ชัดเจนแต่ไม่แข็งกระด้าง ชุด Pickups แนวนี้จะให้เสียงแบบ Strat คุณจะฟังความต่างของเสียงได้ง่ายขึ้น และพอควบคุมน้ำหนักมือดีดได้ดีขึ้น เสียงจะดูมีชั้นเชิงมากขึ้น ไม่แบน และฟังเพราะขึ้น
ฮาร์ดแวร์วินเทจที่ให้ฟีลการเล่นแบบดั้งเดิม
Bridge เป็นแบบ 6-Saddle Vintage-Style Synchronized Tremolo ให้ฟีลคันโยกที่นุ่ม คุมง่าย เหมาะกับการโยกเบา ๆ ให้เสียงสั่น หรือทำลูกเล่นได้ตามสไตล์การเล่น โดยยังคงความเป็น Strat แบบดั้งเดิม
Tuning machines เป็นแบบ Vintage-Style ทำงานร่วมกับ Nut ได้ดี เมื่อจูนและตั้งค่าเหมาะสม จะช่วยลดโอกาสที่สายเพี้ยนระหว่างซ้อมหรือเล่นสด
รายละเอียดเล็ก ๆ ที่ช่วยเรื่อง “ความรู้สึกของเครื่อง”
- Control knobs สี Aged White: จับหมุนง่าย
- Pickguard แบบ 3-Ply White: ให้ภาพรวมดูสะอาดและแข็งแรง
- Neck plate แบบ 4-bolt: โครงสร้างคุ้นมือและให้ความมั่นคง
การใช้งานจริงในบริบทดนตรีหลากหลายแนว
แม้จะอยู่ในซีรีส์ Artist แต่คาแรคเตอร์ Strat ทำให้ใช้งานได้กว้าง ทั้งซ้อมที่บ้าน อัดไลน์กีต้าร์ทำเพลง และเล่นกับวง รุ่นนี้ทำได้ดีในแนวที่ต้องการความชัดของโน้ต และการคุมไดนามิกด้วยมือ
แนวทางใช้งานให้คุ้มสำหรับมือใหม่
- เล่นคลีน: ลองสลับไปที่ตำแหน่ง 2 หรือ 4 ของสวิตช์ 5 ทาง จะได้โทนเสียงใส เบาโปร่ง และมีความใสกังวานเป็นพิเศษ
- เล่นคอร์ดให้หนาแต่ไม่ทึบ: ใช้ Middle หรือ Neck แล้วหรี่ Tone ลงเล็กน้อย
- เล่นโซโล่: ใช้ Bridge เพื่อความพุ่ง หรือใช้ Neck เพื่อความนุ่มและฟังสบาย
ข้อดีของ Strat คือเสียงเข้ากับเพลงได้หลากหลายและปรับใช้ได้ง่าย เริ่มจากเสียงคลีนที่ชัดและฟังสบายก่อน จากนั้นค่อยเติมเอฟเฟคตามแนวที่ชอบได้ โดยไม่ต้องตั้งค่าให้ยุ่งยาก
เหมาะกับใคร และควรพิจารณาอย่างไร
รุ่นนี้เหมาะกับคนที่อยากได้กีต้าร์ไฟฟ้าเสียงคลาสสิก เล่นสนุกตั้งแต่วันแรก และใช้ได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องเป็นแฟนศิลปินก็เห็นคุณค่าของสเปกและโทนเสียงได้
กลุ่มที่มักเข้ากับรุ่นนี้
- มือใหม่ที่อยากเริ่มด้วยกีต้าร์ที่เสียงดีและคุมง่าย
- คนที่เล่นคลีนบ่อย และอยากได้เสียงใสมีมิติ
- คนที่ชอบโทนวินเทจ และอยากได้ SSS แบบแท้ ๆ
- คนที่อยากได้เครื่องเดียวจบสำหรับซ้อม อัดเพลง และขึ้นเวที
ถ้าคุณเน้นเสียงแตกหนักมากเป็นหลัก อาจต้องจับคู่กับแอมป์หรือเอฟเฟคให้เหมาะ แต่ถ้าคุณชอบความชัดของโน้ตและการคุมไดนามิก รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดี
การตั้งค่า กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jimi Hendrix Stratocaster ให้เล่นลื่นและจูนเสถียร
เพื่อให้กีต้าร์พร้อมใช้งานตั้งแต่วันแรก และลดปัญหาจูนหลุดระหว่างซ้อมหรือเล่นสด แนะนำให้ไล่เช็คตามนี้
- ตั้งสายและ “ยืดสาย” หลังเปลี่ยนสายทุกครั้ง ดึงเบา ๆ ตามแนวคอทีละเส้น แล้วจูนซ้ำ 2–3 รอบ
- ตรวจความสูงสาย (Action) ให้เหมาะกับมือ เล่นคอร์ดเยอะอย่าต่ำเกินไป ส่วนสายโซโล่ค่อย ๆ ลดจนไม่ติดเฟรต
- เช็คความตรงของเสียงที่ Fret 12 (Intonation) หากเพี้ยนให้ปรับ Saddle ที่ Bridge ทีละนิด แล้วจูนใหม่ทุกครั้ง
- ตั้งระบบ Tremolo ให้บาลานซ์ ปรับสปริงด้านหลังให้พอดี แล้วลองโยกเบา ๆ ดูว่ากลับตำแหน่งเดิมได้ดีหรือไม่
- ปรับความสูง Pickups ให้สมดุล ถ้าใกล้สายเกินไป เสียงอาจแข็งและเพี้ยนง่าย ให้ค่อย ๆ ลดลงจนได้ความพุ่งที่พอดี
- ดูแลจุดสัมผัสสายที่ Nut หากสายฝืดเวลาจูน ให้ใส่ Graphite หรือสารหล่อลื่นเล็กน้อย จะช่วยให้จูนไหลลื่นขึ้น
แนวทางจับคู่แอมป์และเอฟเฟคกับ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jimi Hendrix Stratocaster เพื่อโทน Strat แบบคลาสสิก
โทน Strat ที่ดีมักเริ่มจากคลีนที่เปิดและคุมได้ จากนั้นค่อย “เติมสี” ด้วยเอฟเฟคเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เสียงไม่รกและเล่นกับวงง่าย
- ตั้งแอมป์ให้คลีนเป็นฐาน ลด Gain ให้ยังไม่แตกก่อน แล้วค่อยเพิ่ม Volume เพื่อให้เสียงอิ่มและมี Headroom
- ปรับ EQ แบบง่าย ๆ ถ้าเสียงแหลมบาดให้ลด Treble เล็กน้อย แต่พยายามคงย่านกลางไว้เพื่อให้กีต้าร์ไม่หายไปในวง
- ใช้ Overdrive ที่ตั้ง Gain ต่ำถึงกลาง เพื่อเพิ่มความหนาและความพุ่งของเสียง และยังควบคุมความแตกได้ด้วยน้ำหนักมือดีด รวมถึงการปรับ Volume ที่กีต้าร์
- ถ้าต้องการคาแรคเตอร์จัดขึ้น ใช้ Fuzz แล้วคุม Volume ที่กีต้าร์เพื่อเกลี่ยความแตกให้พอดี เสียงจะเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- เติมมิติด้วย Reverb แบบสั้นให้เสียงไม่แห้ง และใช้ Delay ที่ตั้งจังหวะพอดีเพื่อช่วยให้โซโล่เด่นขึ้นโดยไม่รก
- ใช้สวิตช์ 5 ทางให้คุ้ม ตำแหน่ง 2/4 เหมาะกับคลีนและฟังก์ ส่วนตำแหน่ง Neck ช่วยให้โซโล่นุ่มและฟังสบาย
เช็คลิสต์ก่อนตัดสินใจซื้อและก่อนรับของ
ถ้าคุณตั้งใจใช้เป็นเครื่องหลักในระยะยาว การเช็คให้ครบก่อนจ่ายเงินและก่อนรับของจะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
- ตรวจรุ่นและรหัสให้ตรง เช่น Model Number 0145802306 และเป็นแบบ Right-Hand
- เช็คสภาพเฟรตและขอบเฟรต ลากนิ้วตามขอบฟิงเกอร์บอร์ดว่ามีคมหรือไม่ และลองดันสายดูว่ามีติดเฟรตหรือเปล่า
- ทดลองสวิตช์ 5 ทางให้ครบทุกตำแหน่ง หมุน Volume/Tone ทุกจุดแล้วฟังว่าไม่มีเสียงซ่าหรือสัญญาณขาดหาย
- เช็คความเสถียรการจูน จูนให้ตรง ลองใช้คันโยกเบา ๆ แล้วดูว่ากลับมาจูนเดิมได้ดีแค่ไหน
- ตรวจงานสีและฮาร์ดแวร์ ดูรอยผิดปกติบริเวณขอบบอดี้ บริเวณ Bridge และลูกบิด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีความเสียหายจากการขนส่ง
บทสรุป
การเลือกกีต้าร์ไฟฟ้าสักตัวไม่ใช่แค่เลือกจากชื่อรุ่น แต่คือการเลือกเครื่องดนตรีที่จับแล้ว “อยากเล่นต่อ” และใช้งานได้ยาว รุ่นนี้เด่นที่โทน Strat แบบวินเทจ สเปกคุ้นมือ และรายละเอียดที่ออกแบบมาให้เล่นได้จริง ถ้าคุณกำลังมองหากีต้าร์ที่ให้ความคลาสสิกพร้อมความพร้อมใช้งาน นี่คือรุ่นที่เหมาะกับการไปลองจับ ลองเล่น และตัดสินใจด้วยหูของตัวเอง
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น