กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Lag T88ACE เด่นทั้งงานไม้และระบบไฟฟ้า เหมาะกับผู้ที่ต้องการกีต้าร์ตัวเดียวแล้วใช้งานได้หลายแบบ ตั้งแต่ซ้อมที่บ้าน เล่นตามร้าน ไปจนถึงต่อเข้าระบบเสียงสำหรับงานแสดงสด บทความนี้อธิบายแบบเป็นขั้นตอนสำหรับมือใหม่ โดยพาไปรู้จักทรงกีต้าร์ วัสดุไม้ โครงสร้างคอ และวิธีใช้ภาคไฟฟ้าให้ได้เสียงเหมาะกับแต่ละสถานการณ์
แนวคิดการออกแบบของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Lag T88ACE
รุ่นนี้ใช้ทรง Auditorium พร้อม Cutaway ซึ่งให้ความสมดุลทั้งด้านการจับถือและโทนเสียง โดยทั่วไปจะไม่ใหญ่เทอะทะเหมือนทรงบอดีขนาดใหญ่บางแบบ จึงถือเล่นได้นานโดยไม่ล้า แต่ยังให้พลังเสียงและความกังวานเพียงพอสำหรับการเล่นเพลงส่วนใหญ่ จุดเด่นอีกอย่างคือเสียงย่านกลางชัด ทำให้เล่นทั้งการตีคอร์ด (Strumming) และการเล่นเก็บรายละเอียดด้วยนิ้ว (Fingerstyle) ได้ดี โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงไปด้วย เสียงกีต้าร์มักไม่จมหายง่าย
Cutaway (ส่วนเว้าบริเวณบอดีด้านบน) ช่วยให้เอื้อมมือไปเล่น fret สูง ๆ ได้สะดวกขึ้น เหมาะกับผู้ที่ชอบเล่นทำนองหรือโซโล่ช่วงท้ายคอ เพราะไม่ต้องบิดข้อมือมาก ทำให้เล่นได้สบายขึ้นและควบคุมท่าทางได้ดีขึ้น
วัสดุไม้และผลต่อโทนเสียงแบบเข้าใจง่าย
ไม้หน้า Solid Engelmann Spruce เป็นส่วนที่มีผลต่อ “ลักษณะเสียง” ของกีต้าร์มาก จุดที่มือใหม่สังเกตได้ง่ายคือเสียงใส ตอบสนองไว และเก็บรายละเอียดได้ดี กล่าวคือ เมื่อดีดเบา ๆ เสียงยังชัด และเมื่อเล่นแรงขึ้นเสียงก็ยังคุมได้ ไม่ฟุ้งจนเกินไป
ไม้ข้างและไม้หลังเป็น Khaya ให้โทนเสียงอบอุ่น และช่วยเสริมเสียงย่านกลางให้ฟังเต็มขึ้น จึงเหมาะกับเพลงร้องเล่นคอร์ด หรือเพลงที่ต้องการเสียงกีต้าร์นุ่มหู ไม่แหลมบาด เมื่อนำมารวมกับไม้หน้า Engelmann Spruce จะได้โทนเสียงที่สมดุล ฟังง่าย และเข้ากับหลายแนวเพลง
การเคลือบผิวแบบ Glossy ช่วยให้กีต้าร์ดูเรียบร้อยและเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญคือยังคงความกังวานและความโปร่งของเสียงไว้ได้ดี ไม่ทำให้เสียงทึบลงอย่างที่หลายคนกังวล
งานคอ ฟิงเกอร์บอร์ด และความรู้สึกตอนเล่น
คอทำจากไม้ Khaya ช่วยให้คอแข็งแรงและคงรูปได้ดีในระยะยาว ฟิงเกอร์บอร์ดเป็น Brown BrankoWood ผิวสัมผัสเรียบ จึงช่วยให้เลื่อนนิ้วได้ลื่นขึ้น มือใหม่มักรู้สึกว่ากดคอร์ดและเปลี่ยนตำแหน่งนิ้วได้คล่องกว่าเมื่อเทียบกับฟิงเกอร์บอร์ดที่ผิวค่อนข้างสาก
ค่ารัศมีความโค้งของฟิงเกอร์บอร์ด 350 มม. อยู่ในช่วงที่เล่นสบาย ไม่โค้งจนรู้สึกว่ากดคอร์ดยาก และไม่แบนจนมือเมื่อยเร็ว รุ่นนี้มี 20 fret และความกว้าง nut 43 มม. ซึ่งเป็นสเปกที่พบได้บ่อยในกีต้าร์ที่เล่นได้กว้าง ทั้งสายคอร์ดและสายเล่นเก็บรายละเอียด
อีกจุดที่ควรรู้คือเหล็กดามคอแบบ Double-action ซึ่งช่วยให้ตั้งคอได้ละเอียดขึ้น เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยน เช่น อากาศร้อนชื้น หรืออยู่ในห้องปรับอากาศนาน ๆ ผู้เล่นจะปรับให้กีต้าร์กลับมาเล่นง่ายได้สะดวกกว่าแบบทั่วไป
การใช้งานจริงของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Lag T88ACE ในเวทีและสตูดิโอ
รุ่นนี้ไม่ได้เด่นเฉพาะเสียงแบบอะคูสติกเท่านั้น แต่ภาคไฟฟ้า StageLâg ก็ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและปรับได้จริง ผู้เล่นสามารถปรับระดับเสียง (Volume) และปรับโทนด้วย EQ แบบ 3 แบนด์ เพื่อให้เข้ากับแอมป์หรือระบบ PA ได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมหลายชิ้น
ฟังก์ชัน Phase และ Notch มีประโยชน์มากสำหรับการเล่นสด เพราะช่วยลดปัญหาเสียงหอนที่มักเกิดเมื่อเปิดเสียงดังหรือยืนใกล้ลำโพง ส่วน Tuner ในตัวช่วยให้ตั้งสายได้เร็ว ไม่ต้องพกอุปกรณ์เพิ่ม ทำให้ขั้นตอนก่อนเริ่มเพลงคล่องตัวขึ้น
ลองฟังเสียงจริง 1:31 นาที เพื่อจับโทนและคาแรคเตอร์เสียง
เหมาะกับใคร และใช้ทำอะไรได้บ้าง
รุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่อยากได้กีต้าร์ตัวเดียวใช้ได้ครบ เช่น
- ซ้อมที่บ้านเป็นหลัก แต่มีแผนออกงานเล่นสดเป็นครั้งคราว
- เล่นร้านกาแฟ งานกิจกรรม หรือเล่นกับวง แล้วต้องการต่อเข้าระบบเสียงให้ชัด
- ทำผลงานเพลงหรือทำวิดีโอเพลง และเริ่มอัดเสียงเองที่บ้าน
- ต้องการทรงที่ถือสบาย และเข้าถึง fret สูงได้ง่าย
เปรียบเทียบกับทรงใกล้เคียงแบบเข้าใจง่าย
หากเทียบกับทรงบอดีขนาดใหญ่ รุ่นนี้มักถือเล่นสบายกว่า และคุมเสียงย่านกลางได้ง่ายกว่า แต่หากเทียบกับทรงเล็กมาก รุ่นนี้จะให้มิติเสียงและพลังเสียงที่เต็มกว่า ทำให้เล่นเดี่ยวก็เพราะ และเล่นประกอบคนร้องก็ไม่กลืนกัน
ตั้งค่า StageLâg ให้เหมาะกับการเล่นสดแบบมืออาชีพ
StageLâg มีฟังก์ชันครบและปรับได้ละเอียด อย่างไรก็ตาม หากตั้งค่าไม่เหมาะ อาจทำให้เสียงบางหรือเกิดเสียงหอนได้ วิธีที่ปลอดภัยคือเริ่มจากค่ากลางก่อน แล้วค่อยปรับทีละนิดตามเสียงที่ได้ยินจริงในสถานที่นั้น ๆ
ค่าตั้งต้น EQ ที่ใช้ได้กับหลายสถานการณ์
- เริ่มจาก EQ ทุกย่านที่ตำแหน่งกึ่งกลางก่อน แล้วค่อยปรับตามเสียงจริง
- หากเสียงบวมในห้องปิด ให้ลด Low เล็กน้อย เพื่อให้เสียงกระชับขึ้น
- หากเล่นกับวงแล้วเสียงกีต้าร์จมหาย ให้เพิ่ม Middle เล็กน้อย เพื่อช่วยให้เสียงเด่นขึ้นโดยไม่ต้องเร่งความดังมาก
- หากเสียงแหลมบาดหูผ่านระบบ PA ให้ลด High เล็กน้อย แล้วฟังว่าความใสยังพอดีหรือไม่
- หากเล่น Fingerstyle ให้ปรับ High ให้อยู่ในระดับพอดี เพื่อให้เสียงโน้ตและรายละเอียดชัดขึ้น แต่ไม่ทำให้มีเสียงซู่มากเกินไป
วิธีลดเสียงหอนแบบเป็นขั้นตอน
- ลดระดับมอนิเตอร์หรือความดังใกล้ตัวก่อน เพราะมักเป็นต้นเหตุหลัก
- กด Phase เพื่อสลับเฟส แล้วฟังว่าเสียงหอนเบาลงหรือหายไปหรือไม่
- ใช้ Notch ไล่หาความถี่ที่ทำให้หอน แล้วตัดทิ้งเฉพาะย่านนั้น
- หันหน้าบอดีไม่ให้รับเสียงจากลำโพงตรง ๆ และหลีกเลี่ยงการยืนชิดตู้
- ตรวจการตั้งสายด้วย Tuner ในตัวก่อนเริ่มเพลง เพื่อลดปัญหาเสียงเพี้ยนสะสม
เลือกสายและดูแลไม้ให้เสียงคงที่ในระยะยาว
สเปกสาย Coated Phosphor Bronze Light 12–52 ให้ความสมดุลที่ดี ตีคอร์ดแล้วเสียงแน่น แต่ยังไม่แข็งเกินไปสำหรับมือใหม่ อย่างไรก็ตาม การดูแลหลังเล่นก็สำคัญ เพราะช่วยให้เสียงคงที่และยืดอายุทั้งสายและตัวกีต้าร์
ทำไมสาย 12–52 แบบเคลือบจึงเหมาะกับการใช้งานจริง
- แรงตึงกำลังดี ตีคอร์ดแล้วเสียงแน่น แต่ยังเล่นเก็บรายละเอียดได้
- Phosphor Bronze ให้เสียงใสและมีประกาย แต่ยังมีเนื้อเสียง ไม่บางเกินไป
- ผิวเคลือบช่วยชะลอสนิมและคราบเหงื่อ เหมาะกับผู้ที่เหงื่อมือเยอะ
- เสียงคงลักษณะเดิมได้นานขึ้น และลดความถี่ในการเปลี่ยนสาย
เช็คลิสต์ดูแลหลังเล่นให้กีต้าร์พร้อมใช้งานเสมอ
- เช็ดสายและฟิงเกอร์บอร์ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ทุกครั้งหลังเล่น
- เก็บในเคสหรือวางในที่อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงแดดตรงและความชื้นสูง
- หากอยู่ห้องปรับอากาศนาน ๆ พยายามรักษาความชื้นให้เหมาะสม เพื่อลดโอกาสไม้หดหรือบิด
- ตรวจแบตเตอรี่ของภาคไฟฟ้าเป็นระยะ เพื่อไม่ให้เจอเหตุการณ์แบตหมดตอนต้องใช้งาน
เช็คลิสต์ก่อนอัดเสียงและก่อนขึ้นเวที
รายการสั้น ๆ เหล่านี้ช่วยลดปัญหาจุกจิกได้มาก เหมาะกับผู้ที่เริ่มเล่นงานจริงหรือเริ่มอัดเสียงเอง
- ตรวจ แอคชั่น (Action): สูงไปจะกดยาก ต่ำไปอาจเกิด fret buzz
- เช็ค intonation แบบเร็ว: เทียบเสียง fret 12 กับ harmonic fret 12 ว่าใกล้กันหรือไม่
- ทำความสะอาดจุดสัมผัส: nut, bridge และหมุดสายที่มีคราบจะทำให้เสียงทึบและตั้งสายไม่นิ่ง
- วางแผนการต่อสัญญาณ: เล่นสดแนะนำ DI คุณภาพดี อัดเสียงอาจผสมไมค์กับสัญญาณไลน์เพื่อได้มิติ
- ตั้งระดับสัญญาณก่อนใช้งานจริง: ไม่ดังจนเสียงแตก และไม่เบาจนต้องเร่งมิกซ์มากเกินไป
สรุปมุมมองเชิงความรู้
การเลือกเครื่องดนตรีที่ดีควรดูมากกว่าหน้าตา ควรพิจารณาวัสดุ โครงสร้างคอ ความสบายในการเล่น และวิธีใช้งานภาคไฟฟ้าในสถานการณ์จริงด้วย รุ่นนี้เป็นตัวอย่างของกีต้าร์ที่ใช้งานได้กว้าง ตั้งแต่มือใหม่ที่อยากได้ตัวจบ ไปจนถึงผู้ที่เล่นจริงและต้องการความเสถียร รวมถึงความยืดหยุ่นในการทำงาน
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น