ยามาฮ่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องดนตรีที่ได้รับการยอมรับจากนักดนตรีทั่วโลก ทั้งในด้านคุณภาพเสียงและความทนทาน และหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มมือเบสก็คือ เบสไฟฟ้า 5 สาย Yamaha TRBX305 รุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับผู้เล่นยุคใหม่ที่ต้องการเบสที่ตอบสนองดี เล่นสบาย น้ำหนักสมดุล และให้เสียงชัดเจนทั้งตอนซ้อมและตอนขึ้นเวที
ด้วยโครงสร้างบอดี้ไม้มะฮอกกานีทั้งชิ้น ผสานกับระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบ Active ทำให้รุ่นนี้ให้โทนเสียงที่แน่น ชัด มีเนื้อเสียง และตอบสนองน้ำหนักมือของผู้เล่นได้ดี จึงมักถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเบสไฟฟ้าระดับกลางที่คุ้มค่า เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่ที่เริ่มจริงจังกับการเล่น และมืออาชีพที่ต้องการเบสสำรองคุณภาพดี
โครงสร้าง วัสดุ และงานประกอบของ เบสไฟฟ้า 5 สาย Yamaha TRBX305
เบสรุ่นนี้ใช้บอดี้เป็นไม้มะฮอกกานีทั้งชิ้น (Solid Mahogany) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องโทนเสียงที่อบอุ่น หนา และมีน้ำหนักเสียงดี เมื่อนำมาจับคู่กับคอไม้เมเปิลและมะฮอกกานีแบบ 5 ชิ้น (5-piece neck) จึงได้คอที่แข็งแรง คงรูปดี ไม่บิดงอง่าย แม้ใช้งานเป็นเวลานาน
เฟรตบอร์ดใช้ไม้โรสวูดที่ให้สัมผัสนุ่มมือ ปลายนิ้วลื่น เล่นเดินเบสหรือสไลด์โน้ตต่อเนื่องได้สบาย เหมาะกับทั้งการเล่นเป็นไลน์รองรับเพลงและการเล่นเมโลดี้ในบางช่วง
ดีไซน์บอดี้โค้งเข้ากับสรีระช่วยให้สะพายเล่นได้นานโดยไม่เมื่อยไหล่หรือล้าหลัง จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ TRBX ที่เน้นบาลานซ์ของตัวเครื่องเป็นพิเศษ มือเบสที่ต้องยืนเล่นบนเวทีนาน ๆ จะรู้สึกได้ชัดว่าตัวเบสไม่ถ่วงไปด้านใดด้านหนึ่งจนเกินไป
ระบบปิ๊กอัพและ Performance EQ ของรุ่นนี้
หัวใจหลักด้านเสียงของ Yamaha TRBX305 คือปิ๊กอัพคู่รุ่น MHB3 ทั้งตำแหน่งคอและบริดจ์ ใช้แม่เหล็กเซรามิกที่ให้โทนเสียงคม เคลียร์ รายละเอียดชัด เหมาะกับเพลงร็อก ป็อป ฟังก์ ไปจนถึงซาวด์สมัยใหม่ที่ต้องการทั้งความแน่นและความนิ่งของเสียง
จุดเด่นอีกอย่างคือวงจร Performance EQ ซึ่งเป็นระบบ Active ที่ช่วยให้ปรับโทนเสียงได้รวดเร็วผ่านสวิตช์เพียงตัวเดียว ภายในมีการตั้งค่าโทนพื้นฐานไว้ให้หลายแบบ ผู้เล่นแค่เลือกโหมดที่ต้องการ ก็จะได้เสียงที่พร้อมใช้งานทั้งบนเวทีและในห้องอัดทันที ไม่ต้องมานั่งหมุนปรับใหม่จากศูนย์ทุกครั้ง
ชุดปุ่มควบคุมประกอบด้วย Master Volume สำหรับระดับเสียงรวม, Pickup Balancer สำหรับเลือกหรือผสมเสียงระหว่างปิ๊กอัพคอกับบริดจ์ รวมถึงปุ่มปรับย่านเสียงทุ้ม (Bass) และเสียงแหลม (Treble) พร้อมสวิตช์ Performance EQ ทำให้สามารถปรับโทนเสียงให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตัวเองได้อย่างละเอียด
ความยาวสเกลและความรู้สึกในการเล่นของ เบสไฟฟ้า 5 สาย Yamaha TRBX305
ความยาวสเกล 34 นิ้ว ซึ่งเป็นมาตรฐานของเบสไฟฟ้า ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่คุ้นมือ ไม่ต้องปรับตัวมาก และยังช่วยให้ควบคุมสายต่ำอย่างสาย B ได้ตึงกำลังดี ไม่ย้วยและให้เสียงโน้ตต่ำที่แน่น ชัด เหมาะกับเพลงที่ต้องการพลังย่านต่ำเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเมทัล โปรเกรสซีฟ หรือฟิวชัน
การที่รุ่นนี้มี 24 เฟรต ช่วยเปิดพื้นที่ให้ไลน์เบสที่เป็นเมโลดี้หรือการโซโล่ในย่านปลายคอทำได้มากขึ้น ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่การเล่นเป็นเสียงรองรับพื้นเพลง แต่สามารถพาเบสออกมาอยู่ด้านหน้าในบางช่วงได้อย่างโดดเด่น
สีสันและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ผู้เล่นยุคใหม่
Yamaha TRBX305 มีสีให้เลือกหลายโทน เช่น Black, Mist Green, Factory Blue, Candy Apple Red และ White ซึ่งล้วนเป็นสีที่ดูทันสมัยและเข้ากับสไตล์การแต่งตัวหลากหลายแบบ ผู้เล่นสามารถเลือกสีที่ตรงกับคาแรคเตอร์ของตัวเองหรือให้เข้ากับภาพลักษณ์ของวงที่เล่นอยู่ได้ไม่ยาก
รูปทรงบอดี้โค้งมนรับกับลำตัว เส้นสายโดยรวมดูเพรียวและทันสมัย ไม่เทอะทะ เวลาอยู่บนเวทีหรือใช้ถ่ายภาพจึงช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น แม้จะเป็นรุ่นในช่วงราคากลาง แต่ภาพรวมของงานออกแบบก็ยังดูเรียบร้อยและใส่ใจรายละเอียดไม่แพ้รุ่นระดับสูง
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Yamaha TRBX305 ได้รับความนิยม
- บอดี้ไม้มะฮอกกานี ให้โทนเสียงอุ่น หนา มีน้ำหนักเสียงดี
- คอแบบ 5 ชิ้น แข็งแรง คงรูป ไม่บิดงอง่าย
- ปิ๊กอัพเซรามิกให้เสียงคม เคลียร์ ใช้งานได้หลายแนวดนตรี
- วงจร Performance EQ ใช้งานง่าย เปลี่ยนบุคลิกเสียงได้รวดเร็ว
- สเกล 34 นิ้ว เล่นแล้วคุ้นมือ ควบคุมสายต่ำได้ดี
- ราคาสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับวัสดุและสเปกในระดับนี้
เหมาะกับผู้เล่นแบบไหน? ทำไมรุ่นนี้ถึงคุ้มค่า
รุ่นนี้เหมาะมากสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเบสหนึ่งตัวที่พาไปได้แทบทุกสถานการณ์ ทั้งซ้อมในห้อง ซ้อมวง บันทึกเสียง และขึ้นเวทีจริง ระบบไฟฟ้าที่ไว้ใจได้และงานประกอบที่แข็งแรงทำให้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องปัญหาจุกจิกระหว่างใช้งาน
สำหรับคนที่เริ่มจากเบสรุ่นเริ่มต้นและอยากอัปเกรดขึ้นมา Yamaha TRBX305 จะให้ความรู้สึกต่างออกไปอย่างชัดเจน ทั้งในแง่โทนเสียงที่อิ่มขึ้น การตอบสนองของคอเบส และความรู้สึกเวลาจับตัวเครื่อง ส่วนมืออาชีพก็สามารถใช้เป็นเบสสำรองที่หยิบขึ้นมาแล้วมั่นใจในคุณภาพเสียงได้ทันที
นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ผู้เล่นที่ต้องเล่นหลายแนวเพลงในคืนเดียว เพราะสามารถปรับซาวด์ได้หลากหลายด้วย Performance EQ ไม่ว่าจะต้องเล่นเพลงจังหวะสบาย ๆ เพลงช้า เพลงร็อก หรือเพลงที่ต้องการให้เสียงเบสเด่นเป็นพิเศษ ก็สามารถตั้งค่าโทนเสียงให้เข้าใกล้สิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
แนวทางการตั้งค่าเสียงให้เหมาะกับแนวเพลงต่าง ๆ
การตั้งค่าเสียงให้เหมาะกับแนวเพลงเป็นอีกส่วนที่ช่วยให้เบสรุ่นนี้แสดงศักยภาพได้เต็มที่ หากเข้าใจลักษณะโทนที่แต่ละแนวต้องการ ก็จะปรับเบสให้เข้ากับเพลงได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องทดลองแบบเดาสุ่มทุกครั้ง
- แนวร็อกและเมทัล: ลองเพิ่มย่านเสียงทุ้มเล็กน้อย และดันย่านเสียงแหลมให้เด่นขึ้น ใช้ปิ๊กอัพบริดจ์เป็นหลัก หรือผสมกับปิ๊กอัพคอเล็กน้อย จะได้เสียงที่คม ชัด และทำให้ไลน์เบสยังได้ยินชัดเจนท่ามกลางเสียงกลองและกีต้าร์ที่หนาแน่น
- แนวป็อปและเพลงสตริงร่วมสมัย: ปรับโทนให้ฟังนุ่มนวล โดยปรับสมดุลเสียงจากปิ๊กอัพคอและบริดจ์ให้ดังใกล้เคียงกัน แล้วลดย่านเสียงแหลมลงเล็กน้อย เพื่อให้เสียงฟังสบาย ไม่บาดหู และไม่แย่งพื้นที่เสียงร้อง
- แนวแจ๊ส ฟิวชัน หรือเพลงที่ใช้ลูกเล่นโน้ตเยอะ ๆ: เพิ่มย่านเสียงกลางให้ชัดขึ้น เพื่อให้รายละเอียดของโน้ตทุกตัวได้ยินครบ ใช้ปิ๊กอัพคอมากหน่อยเพื่อโทนที่อุ่นขึ้น แล้วค่อยเพิ่มย่านเสียงแหลมเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาความใสของเสียง
- สายคัฟเวอร์ที่ต้องเล่นหลายแนวในคืนเดียว: ใช้ Performance EQ เป็นตัวช่วยหลัก เลือกโหมดที่ให้เสียงกลาง ๆ ใช้ได้กับหลายเพลง จากนั้นค่อยปรับย่านเสียงทุ้มและย่านเสียงแหลมอีกเล็กน้อยให้เหมาะกับลักษณะเวทีหรือห้องที่เล่น
คลิป YouTube
เครดิต :
iGuitar Music
เคล็ดลับดูแลและเตรียมเบสไฟฟ้าสำหรับงานแสดงจริง
การดูแลเบสให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอจะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหากลางงาน เช่น เสียงรวน สายขาด หรือมีเสียงจี่เวลาขึ้นเวที มือเบสที่ใส่ใจเรื่องนี้มักจะเล่นได้อย่างมั่นใจมากกว่า เพราะรู้ว่าเครื่องดนตรีของตัวเองพร้อมเต็มที่แล้ว
- ตรวจสภาพสายเบสเป็นประจำ: ถ้าเริ่มเห็นคราบสนิม เสียงฟังดูทึบลง หรือสัมผัสสายแล้วรู้สึกสากผิดปกติ ควรเปลี่ยนสายใหม่ จะช่วยให้โทนเสียงเปิดใส เล่นง่าย และช่วยถนอมเฟรตไปในตัว
- เช็ดทำความสะอาดเฟรตบอร์ดและบอดี้ทุกครั้งหลังเล่น: ใช้ผ้านุ่มแห้งเช็ดเหงื่อและคราบมันออก เพื่อลดการสะสมของคราบสกปรกที่ทำให้เนื้อไม้เสื่อมสภาพเร็ว
- เช็คความแน่นของน็อต บริดจ์ และลูกบิด: ก่อนออกงานลองใช้มือแตะและขยับเบา ๆ หากมีส่วนไหนหลวมควรขันให้แน่น เพื่อป้องกันเสียงสั่นหรือเสียงจี่ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเล่น
- ทดสอบระบบไฟและปุ่มควบคุมต่าง ๆ ล่วงหน้า: เสียบสาย แล้วทดลองหมุนปุ่ม Volume, Balance, Bass, Treble และสวิตช์ Performance EQ ให้ครบทุกตำแหน่ง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างทำงานปกติก่อนขึ้นเล่นจริง
ภาพรวมสเปก เบสไฟฟ้า 5 สาย Yamaha TRBX305 สำหรับผู้ที่อยากศึกษารายละเอียดเชิงลึก
- บอดี้: ไม้มะฮอกกานีทั้งชิ้น (Solid Mahogany)
- คอ: เมเปิลผสมมะฮอกกานี แบบ 5 ชิ้น (5-piece)
- เฟรตบอร์ด: Rosewood
- สเกล: 34 นิ้ว (มาตรฐานเบสไฟฟ้า)
- เฟรต: 24 เฟรต
- ปิ๊กอัพ: MHB3n (ตำแหน่งคอ, Ceramic) และ MHB3b (ตำแหน่งบริดจ์, Ceramic)
- แผงควบคุม: Master Volume, Pickup Balance, ปุ่ม Bass, ปุ่ม Treble และสวิตช์ Performance EQ
- บริดจ์: แบบ Die-cast แข็งแรง ทนทาน รองรับแรงตึงสายได้ดี
ทำไมมือเบสหลายคนเลือก เบสไฟฟ้า 5 สาย Yamaha TRBX305 เป็นคู่ใจ
ด้วยความลงตัวระหว่างวัสดุที่ใช้ งานประกอบที่เรียบร้อย โทนเสียงที่ปรับได้กว้าง และราคาที่จับต้องได้ Yamaha TRBX305 จึงกลายเป็นรุ่นที่มือเบสจำนวนมากเลือกใช้ ทั้งในฐานะเบสหลักและเบสสำรอง แม้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเบสระดับกลาง แต่คุณภาพเสียงและความทนทานใกล้เคียงกับรุ่นระดับมืออาชีพอย่างน่าประทับใจ
ถ้าคุณกำลังมองหาเบสไฟฟ้าที่ให้ทั้งพลังในย่านต่ำ ความนิ่งของเสียง และการควบคุมที่ยืดหยุ่น ตั้งแต่การซ้อมที่บ้านจนถึงการขึ้นเวที รุ่นนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ควรลองจับ ลองฟัง และลองเล่นด้วยตัวเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงเลือกใช้รุ่นนี้เป็นคู่ใจในระยะยาว
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddy music







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น