กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Swamp Ash Special เหมาะกับคนที่อยากเริ่ม “ฟังโทนไม้” และทำความเข้าใจระบบ Pickup แบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยยังอยู่ในงบที่จับต้องได้ จุดเด่นของรุ่นนี้คือใช้ไม้ Swamp Ash ทำส่วน บอดี้ และใช้ไม้ Maple ทำคอและ Fretboard จึงให้เสียงที่โปร่ง ชัด และตอบสนองต่อแรงมือได้ไว (เล่นเบาก็ได้เสียงนุ่ม เล่นแรงก็ได้เสียงชัดขึ้น) คุณสามารถเริ่มจากเสียง Clean ใส ๆ สำหรับฝึกคอร์ด แล้วค่อยขยับไปสู่เสียงแตกด้วยการเพิ่ม Gain โดยยังได้โน้ตที่แยกกันชัด เหมาะทั้งซ้อมที่บ้าน อัดเสียงทำคอนเทนต์ และเล่นกับวง
แนวคิดการออกแบบของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Swamp Ash Special ที่ทำให้โทนเด่น
PRS เลือกใช้ไม้ Swamp Ash ทำส่วน บอดี้ เพราะไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าให้โทนเสียงที่กระชับและคมชัด ย่านต่ำมักไม่บวม จึงทำให้เวลาตีคอร์ด เสียงแต่ละสายแยกกันได้ดี ฟังชัด และไม่บวม ส่วนย่านแหลมจะใสแต่ไม่บาดหู จึงเหมาะกับเสียง Clean ที่ต้องการความโปร่ง และยังเหมาะกับเสียงแตกที่ต้องการให้หัวโน้ตชัดด้วย อีกจุดที่หลายคนสังเกตได้คือความก้องของตัวกีต้าร์ (Resonance) ซึ่งช่วยให้เสียงฟังมีมิติและมีชีวิตขึ้น โดยเฉพาะเวลาตีคอร์ดเต็ม ๆ หรือเล่นแบบคุมแรงมือให้ดัง-เบาเป็นช่วง ๆ (Dynamic)
โครงสร้างแบบ Solidbody ทำให้เสียงแน่นและนิ่ง เหมาะกับทั้งการเล่นสดและการอัดเสียง ส่วนทรง Shallow Violin Carve ช่วยให้แนบแขนสบายและกระจายน้ำหนักดี จึงถือเล่นนาน ๆ ได้ไม่เมื่อยง่าย
โครงสร้างคอและ Fretboard ที่ทำให้เล่นง่ายขึ้น
คอทำจากไม้ Maple และใช้วิธีต่อคอแบบ Scarf Joint เพื่อเพิ่มความแข็งแรงบริเวณหัวกีต้าร์ในระยะยาว ส่วน Fretboard เป็น Maple radius 10 นิ้ว ซึ่งให้ความโค้งกำลังดี จับคอร์ดแล้วสบายมือ และดันสายเพื่อเล่นท่อนโซโล่ก็ทำได้คล่อง
คอทรง Wide Thin เป็นทรงที่คนเริ่มจริงจังกับกีต้าร์มักถูกใจ เพราะไม่หนาจนกำยาก และไม่บางจนรู้สึกคุมไม่ได้ มือใหม่ที่ฝึกสเกล ฝึกเปลี่ยนคอร์ด หรือฝึกดันสาย มักเล่นได้นานขึ้นโดยไม่ล้าเร็ว
อินเลย์ Birds เป็นเอกลักษณ์ของ PRS และช่วยให้มองตำแหน่ง Fret ได้ชัดขึ้น โดยเฉพาะเวลาซ้อมในห้องแสงน้อยหรือเล่นบนเวที
ระบบ Pickup และการควบคุมเสียงของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Swamp Ash Special สำหรับโทนหลากหลาย
จุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้คือ “ชุด Pickup ที่ให้โทนได้หลากหลาย” โดยใช้ Humbucker 85/15 “S” ที่ตำแหน่งคอและ Bridge (ให้เสียงหนา อุ่น และมีแรงปะทะ) และเพิ่ม Single Coil PRS-Designed AS-01 ตรงกลาง (ให้เสียงใส คม และมีรายละเอียด) ทำให้กีต้าร์ตัวเดียวครอบคลุมหลายแนวได้ง่ายขึ้น
Pickup AS-01 ใช้ทั้ง Alnico และ Steel เพื่อเพิ่มพลังและความชัดของเสียง ผลที่ได้คือเสียงย่านกลางมีน้ำหนัก และโน้ตไม่จมหายง่าย เวลาปรับปุ่ม Tone และ Volume จะรู้สึกว่า “คุมโทนได้เป็นขั้น” ไม่ใช่หมุนแล้วเสียงหายไปทันที นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Tone แบบ Push/Pull (ดึงหรือกดเพื่อสลับโหมด) และสวิตช์เลือก Pickup 3 ทาง ช่วยให้สลับอารมณ์เสียงได้รวดเร็ว ตั้งแต่เสียง Clean ใสสำหรับคอร์ด ไปจนถึงโทนที่หนาขึ้นสำหรับโซโล่หรือริฟฟ์
ฮาร์ดแวร์ของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Swamp Ash Special ที่ช่วยให้ตั้งสายง่ายและเล่นนิ่ง
สะพานสาย PRS Patented Tremolo ขึ้นชื่อเรื่องความนิ่งและความแม่นยำ เหมาะกับคนที่อยากใช้คันโยกแบบพอดี ๆ โดยไม่ทำให้การตั้งสายรวนง่ายเกินไป ส่วนลูกบิด PRS Designed Tuners ช่วยให้ตั้งสายได้เร็ว และคงความเสถียรได้ดีขึ้นในงานใช้งานจริง
ฮาร์ดแวร์ชุบนิกเกิลช่วยเรื่องความทนทานและดูเข้ากับลายไม้ได้สวย ส่วน Nut ของ PRS ถูกออกแบบให้ลดแรงเสียดทานของสาย ซึ่งมีผลโดยตรงกับความนิ่งของการตั้งสาย และความแม่นของเสียงเมื่อเล่นตาม Fret ต่าง ๆ
โทนเสียงและการใช้งานจริงที่มือใหม่จับทางได้
ถ้ามองในภาพรวม รุ่นนี้ให้โทนที่กระชับ ชัด และมีประกาย โดยเฉพาะตอนเล่น Clean จะได้ความใสที่ยังคงความนุ่ม ฟังไม่แข็งกระด้างจนเกินไป จึงเหมาะกับการฝึกคอร์ด การฝึกตีจังหวะ และการฝึกเล่นท่อนเมโลดี้ให้เสียงชัด
เมื่อเพิ่ม Gain เพื่อเล่นแตก เสียงยังแยกโน้ตได้ดี ไม่อั้นง่าย ทำให้ฝึกโซโล่หรือฝึกริฟฟ์แล้วได้ยินโน้ตแต่ละตัวชัดขึ้น เหมาะกับการอัดเสียงที่ต้องการความคมของโน้ต และเหมาะกับการเล่นสดที่ต้องการความเสถียรของระบบโดยรวม
ถ้าคุณต้องสลับแนวเพลงในตัวเดียว เช่น Country, Blues และขยับไปทาง Jazz รุ่นนี้ตั้งค่าแล้วใช้งานได้คล่อง เพราะโทนกว้างและคุมง่ายจากปุ่มควบคุมบนตัวกีต้าร์
สีและรายละเอียดที่ช่วยให้เลือกให้เข้ากับสไตล์
รุ่นนี้มีสี Charcoal, Iri Blue และ Vintage Sunburst ซึ่งแต่ละสีโชว์ลายไม้ Swamp Ash ได้ชัด สีโทนเข้มให้ลุคสุขุมเท่ ส่วนโทนวินเทจให้ความคลาสสิกอบอุ่น เหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องดนตรีที่ดูมีเอกลักษณ์ และเข้ากับทั้งการเล่นบนเวทีและการตั้งถ่ายทำในสตูดิโอ
เหมาะกับใคร และควรเริ่มใช้งานอย่างไร
รุ่นนี้เหมาะกับผู้เล่นระดับเริ่มจริงจังไปจนถึงระดับกลาง ที่อยากได้กีต้าร์ตัวเดียวใช้ได้หลายสถานการณ์ และอยากได้โทนไม้ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เยอะตั้งแต่แรก
- ถ้าคุณชอบเสียง Clean ที่ใส ชัด และตอบสนองแรงมือได้ดี รุ่นนี้จะทำให้ฝึกคอร์ดและฝึกจังหวะแล้วได้ยินรายละเอียดมากขึ้น
- ถ้าคุณอยากได้ทั้งความหนาแบบ Humbucker และความคมแบบ Single Coil ในตัวเดียว รุ่นนี้ช่วยให้สลับอารมณ์เพลงได้สะดวก
- ถ้าคุณอัดเสียงทำเพลงหรือทำคอนเทนต์ รุ่นนี้ให้โทนที่คุมง่ายและแยกโน้ตชัด ช่วยลดเวลาปรับเสียงตอนอัด
- ถ้าคุณอยากใช้งานระยะยาว การเลือกเครื่องดนตรีที่มีประกันศูนย์และมีการดูแลหลังการขาย จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
การตั้งค่า PRS Tremolo ของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Swamp Ash Special ให้คืนสายดีและเล่นนิ่ง
- เริ่มจากตั้ง แอคชั่น (Action) (ความสูงสาย) ให้พอดีมือก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะให้สะพานสาย “ลอย” หรือ “แนบ” ตามสไตล์ที่ถนัด
- ปรับจำนวน Spring และความตึงด้านหลังให้สัมพันธ์กับเบอร์สาย เพื่อให้คันโยกคืนตำแหน่งและตั้งสายซ้ำได้ง่าย
- เช็ค Intonation ที่ Fret 12 แล้วปรับ Saddle ทีละสาย จะช่วยให้คอร์ดและโน้ตบนคอแม่นขึ้น
- ทำความสะอาดจุดเสียดทาน เช่น Nut และ Saddle อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการสายติดแล้วเพี้ยน
- หลังเปลี่ยนสายให้ดึงสายเข้าที่ แล้วตั้งสายซ้ำ 2–3 รอบก่อนเล่นจริง
- ถ้าชอบตั้งสายต่ำหรือเล่นแรง แนะนำเพิ่มความตึง Spring เล็กน้อยเพื่อความนิ่ง
สูตรตั้งโทนและเลือกตำแหน่ง Pickup แบบเข้าใจง่าย
- Clean ใสสำหรับคอร์ดและ Arpeggio: เลือกเสียงที่โปร่ง ลด Tone ลงเล็กน้อย และใช้ Compressor แบบเบา ๆ
- โทน “twang” แบบ Country: ใช้เสียงที่คมขึ้น เปิด Tone ให้สว่าง และเลือกปิ๊กที่แข็งขึ้นเพื่อให้หัวโน้ตชัด
- Blues แตกกำลังดี: ใช้เสียงที่อุ่นและหนาขึ้น เพิ่ม Gain ระดับกลาง แล้วคุมความแรงด้วยมือขวา
- Funk คมชัด: ใช้ Clean ตัดย่านต่ำบนแอมป์เล็กน้อย และเน้นจังหวะให้แน่น
- Jazz อุ่นนุ่ม: ใช้เสียงที่นุ่ม ลด Tone ลงอีกนิด เติม Reverb สั้น ๆ และลองเล่นด้วยนิ้วหรือปิ๊กบาง
- ถ้าต้องสลับเสียงเร็ว ให้ตั้ง Volume เป็นจุดอ้างอิง แล้วใช้ Push/Pull กับสวิตช์เลือก Pickup ช่วยเปลี่ยนอารมณ์เสียง
การดูแลไม้และฮาร์ดแวร์ให้สภาพดี
- เช็ดคราบเหงื่อหลังเล่นทุกครั้ง โดยเฉพาะฮาร์ดแวร์นิกเกิลและหลังคอ เพื่อลดคราบหมอง
- Fretboard Maple ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้ง หรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เท่านั้น หลีกเลี่ยงน้ำยาที่ทิ้งความมันหรือคราบเหนียว
- เก็บกีต้าร์ในที่อุณหภูมิและความชื้นคงที่ จะช่วยลดโอกาสคอโก่งและไม้หดตัว
- ตรวจสกรูและน็อตเป็นระยะ หากเริ่มหลวมให้ขันพอตึงมือ ไม่ควรขันแน่นจนเกินไป
- เปลี่ยนสายเมื่อเสียงเริ่มทึบหรือสายเริ่มหมอง เพื่อรักษาความใสและความชัดของโน้ต
- ก่อนเก็บเข้ากล่องนาน ๆ คลายสายลงเล็กน้อย และหลีกเลี่ยงการวางใกล้แหล่งความร้อน
สรุปแนวทางเลือกและใช้งานให้คุ้ม
- ถ้าคุณชอบโทนใส มีเอกลักษณ์ และต้องการความยืดหยุ่นหลายแนว รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้กว้าง
- จุดที่ควรลองด้วยตัวเองคือความรู้สึกของคอ และความต่างของโทนเมื่อสลับตำแหน่ง Pickup
- ถ้าคุณใช้คันโยกบ่อย ให้โฟกัสเรื่องการตั้ง Spring และการดูแลจุดเสียดทาน จะช่วยให้เล่นนิ่งขึ้นมาก
- ถ้าคุณอัดเสียงหรือเล่นสดบ่อย การตั้ง Intonation และ แอคชั่น (Action) ให้แม่นจะช่วยให้เล่นง่ายและเสียงดีขึ้นชัดเจน
- เช็ดทำความสะอาดหลังเล่นทุกครั้ง จะช่วยให้เครื่องดนตรีดูใหม่และรักษาสภาพได้นาน
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น