ถ้าคุณต้องการโทนคลาสสิกแต่ยังอยากปรับเสียงได้ยืดหยุ่นโดยไม่ทำให้เสียงกีต้าร์เสียธรรมชาติ เอฟเฟคกีต้าร์ BOSS PX-1 Plugout FX คือทางเลือกที่เหมาะมาก ระบบ Plugout FX ช่วยให้สลับเอฟเฟคระดับตำนานได้ทันทีถึง 16 แบบในเครื่องเดียว ใช้ได้ทั้งบนเวทีและในสตูดิโอ ให้คุณภาพเสียงระดับโปร พร้อมการควบคุมที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบ Plugout FX
ระบบ Plugout FX ของ BOSS ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของเอฟเฟคกีต้าร์ เพราะเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นสามารถดาวน์โหลดเอฟเฟครุ่นคลาสสิกมาใช้งานบนฮาร์ดแวร์จริงได้โดยตรง เช่น OD-1, CE-2, DD-2 และอีกมากมาย เอฟเฟคแต่ละแบบได้รับการจำลองเสียงด้วย DSP รุ่นใหม่ที่ให้ความละเอียดสูงและตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียง Overdrive ที่นุ่มลึก หรือ Chorus ที่มีมิติแบบยุค 80s ทั้งหมดนี้ถูกรวมอยู่ในตัวเครื่องที่กะทัดรัดและออกแบบให้ใช้งานง่าย
จุดเด่นและความสามารถพิเศษของ เอฟเฟคกีต้าร์ BOSS PX-1 Plugout FX
จุดเด่นสำคัญของ PX-1 คือความยืดหยุ่นในการใช้งาน คุณสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ USB-C เพื่อโหลดเอฟเฟคใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลาผ่านระบบ Model Pass ระบบนี้มีเอฟเฟคใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ เช่น OD-2 Turbo OverDrive, DM-2 Delay และ DC-2 Dimension C ทำให้เครื่องนี้ใช้งานได้นานและยังทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังรองรับการควบคุมจากภายนอกทั้ง footswitch, expression pedal, MIDI และ Tap Tempo ช่วยให้ปรับจังหวะและโทนเสียงได้ละเอียดตามสถานการณ์จริง
วัสดุและงานประกอบระดับมืออาชีพ
- ตัวเครื่องโลหะทรง Compact Pedal แข็งแรง สีขาว พร้อมแป้นเหยียบสีดำแบบ BOSS มาตรฐาน
- ปุ่มหมุน 3 ปุ่มสีฟ้า: ปุ่มซ้าย/ขวาขนาดใหญ่ และปุ่มกลางขนาดเล็ก ปรับพารามิเตอร์หลักได้รวดเร็ว
- ด้านบนมีไฟสถานะ CHECK สีแดง บอกการทำงาน/สถานะพลังงาน
- หน้าจอ Graphic LCD 128×48 แสดงชื่อเอฟเฟคและค่าพารามิเตอร์ (เช่น “OverDrive OD‑1” ตามภาพ)
- ฝั่งซ้าย (เอาต์พุต): แจ็ค 1/4" สองช่อง พร้อมสกรีนที่ตัวเครื่องว่า OUTPUT A และ OUTPUT B (MONO)
- ฝั่งขวา (อินพุต): แจ็ค 1/4" สำหรับ INPUT B และ INPUT A (MONO) และช่อง CTL 1,2/EXP (TRS)
- ด้านหลัง: พอร์ต MIDI IN (stereo mini), ช่องไฟ DC IN 9V (BOSS PSA), และพอร์ต USB‑C สำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์/อัปเดต
ประสบการณ์ใช้งานจริง
PX‑1 ใช้งานง่าย เหมาะทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ปรับโทนเสียงได้แบบเรียลไทม์ด้วยปุ่มหมุน 3 ตัว และบันทึกพรีเซ็ตไว้เรียกใช้ซ้ำได้ทันที ช่องต่ออินพุต/เอาต์พุตแบบสเตอริโอช่วยเพิ่มมิติของเสียง โดยเฉพาะเมื่อใช้กับแอมป์สองตัวหรือระบบ PA ขนาดใหญ่ จึงตอบโจทย์งานแสดงสดและงานบันทึกเสียงที่ต้องการความคมชัด
ความแตกต่างเมื่อเทียบกับเอฟเฟคกีต้าร์ทั่วไป
เมื่อเทียบกับเอฟเฟคกีต้าร์ทั่วไป PX-1 โดดเด่นเพราะรวมเสียงจากรุ่นคลาสสิกหลายแบบไว้ในเครื่องเดียว จึงไม่ต้องพกเอฟเฟคหลายก้อนให้หนักและเกะกะ และยังอัปเดตเอฟเฟคใหม่ผ่านออนไลน์ได้ผ่าน Model Pass คล้ายการใช้ซอฟต์แวร์ระดับโปรในสตูดิโอ ทำให้ PX-1 ผสานความทนทานของฮาร์ดแวร์เข้ากับความยืดหยุ่นแบบซอฟต์แวร์ได้อย่างลงตัว
ทำไม เอฟเฟคกีต้าร์ BOSS PX-1 Plugout FX ถึงเหมาะกับนักดนตรีรุ่นใหม่
ในยุคที่การทำเพลงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในสตูดิโอ เอฟเฟคที่สามารถเชื่อมต่อและอัปเดตได้จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น PX-1 ตอบโจทย์ทั้งนักดนตรีที่ต้องการเสียงคลาสสิกและคนที่ต้องการความทันสมัยในเครื่องเดียว ด้วยการรองรับ MIDI, Bluetooth และ USB-C ผู้เล่นสามารถซิงค์เสียงกับ DAW ได้อย่างไร้รอยต่อ เหมาะกับทั้งนักดนตรีสายเวทีและนักสร้างสรรค์เพลงยุคดิจิทัล
การใช้งานปุ่มหมุน 3 ปุ่มบนหน้าเครื่อง – เอฟเฟคกีต้าร์ BOSS PX-1 Plugout FX
- ปุ่มซ้าย (LEFT): ปรับพารามิเตอร์ฝั่งซ้ายของหน้าจอ เช่น LEVEL, RATE, TIME ตามชนิดเอฟเฟคที่โหลดอยู่ หมุนตามเข็มเพื่อเพิ่มค่า หมุนทวนเข็มเพื่อลดค่า
- ปุ่มขวา (RIGHT): ปรับพารามิเตอร์ฝั่งขวาของหน้าจอ เช่น OVERDRIVE/GAIN, DEPTH, FEEDBACK หลักการเดียวกับปุ่มซ้าย คือหมุนเพื่อเพิ่ม‑ลดค่าได้ทันที
- ปุ่มกลาง (CENTER): ใช้เข้าเมนูและสลับหน้า (PAGE) ตามตัวเลือกที่แสดงด้านล่างหน้าจอ เช่น “PAGE | MENU | PAGE” หมุนเพื่อเลื่อนรายการหรือปรับละเอียด กดเพื่อยืนยัน/กลับหน้าหลัก
- หน้าจอ LCD: แสดงชื่อเอฟเฟคปัจจุบัน (ตัวอย่างในภาพ: “OverDrive OD‑1”) พร้อมวงแหวน/สเกลบอกค่าที่ปุ่มซ้าย‑ขวาควบคุม ทำให้เห็นการเปลี่ยนค่าแบบเรียลไทม์
ตัวอย่างการใช้งานตามภาพ
- โหลดเอฟเฟค OverDrive (OD‑1) หน้าจอจะแสดงพารามิเตอร์ LEVEL (ซ้าย) และ OVER DRIVE (ขวา)
- หมุนปุ่มซ้ายเพื่อปรับ LEVEL ให้เท่ากันเมื่อเปิด/ปิดเอฟเฟค (unity gain)
- หมุนปุ่มขวาเพื่อเพิ่ม‑ลด OVER DRIVE ตามต้องการ
- กดปุ่มกลางเพื่อเปลี่ยนหน้าไปยังพารามิเตอร์ถัดไป (PAGE) แล้วหมุนซ้าย‑ขวาต่อเพื่อจูนละเอียด
- ใช้สวิตช์เหยียบเพื่อเปิด/ปิดเอฟเฟคได้ทันทีระหว่างเล่น
ตัวอย่างการต่อสัญญาณ (Signal Chain) – เอฟเฟคกีต้าร์ BOSS PX-1 Plugout FX
- กีต้าร์ → PX‑1 (OD‑1) → แอมป์ (Clean Channel)
- กีต้าร์ → PX‑1 (CE‑2 สเตอริโอ) → แอมป์คู่ (L/R)
- กีต้าร์ → PX‑1 (DD‑2) → DI หรือออดิโออินเทอร์เฟซ → ซอฟต์แวร์ทำเพลง (DAW)
เริ่มใช้งาน 5 ขั้นตอน
- เชื่อมต่อไฟเลี้ยงและสายสัญญาณ (Stereo I/O เมื่อจำเป็น)
- จับคู่ Bluetooth หรือเสียบ USB‑C แล้วเปิดแอปเพื่อโหลดโมเดล
- เลือกโมเดลเอฟเฟค ตั้งค่าพารามิเตอร์หลักด้วยปุ่ม LEFT/CENTER/RIGHT
- กำหนด CTL/EXP, ตั้ง Tap Tempo หรือ MIDI Clock หากใช้เอฟเฟคที่ขึ้นกับเวลา
- บันทึกพรีเซ็ตสำหรับเรียกใช้เร็วบนเวที/ในสตูดิโอ
แนวทางตั้งค่า 3 โทนยอดนิยม
ลองฟังโทนที่ตั้งไว้ แล้วเปรียบเทียบกับชุดของคุณ
คลิป YouTube
เครดิต : Gear4music Guitars
- Clean + Chorus (CE‑2): Rate/Depth ระดับกลาง, เปิดสเตอริโอเมื่อใช้เอาต์พุตคู่, Mix ประมาณ 20–30%
- Crunch Rock (SD‑1): Drive ต่ำ‑กลาง, Tone กลาง‑สูง, ตั้งระดับเสียงให้เท่ากันเมื่อเปิด/ปิด (unity gain)
- Ambient Delay (DD‑2): Time 380–450 ms, Feedback ต่ำ‑กลาง, Mix 15–20%, ใช้ Tap Tempo ให้ตรงคลิก
เคล็ดลับ: หากต่อหลายเอฟเฟค ให้จัดลำดับ Gain → Modulation → Time‑based และใช้ Buffered Bypass ของ PX‑1 ช่วยให้เสียงไม่ดรอปและยังคงคมชัด แม้ใช้สายยาวหรือมีเอฟเฟคหลายก้อนต่อเรียงกัน
การกำหนดปุ่มควบคุม CTL/EXP ให้คุมได้ทันใจ – เอฟเฟคกีต้าร์ BOSS PX-1 Plugout FX
- กำหนด CTL ให้สลับโหมด/เปิด-ปิดพารามิเตอร์สำคัญ เช่น Drive, Rate, Depth, Level เพื่อเข้าถึงโทนหลักได้ในคลิกเดียว
- ตั้งค่า EXP ให้ไล่ค่าระหว่างต่ำสุด–สูงสุด (Min/Max) เช่น Gain 0–60 หรือ Mix 10–40 เพื่อควบคุมการเปลี่ยนระดับเสียงระหว่างท่อนเพลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ใช้ฟังก์ชันสลับ (Swap) เพื่อสลับสองเอฟเฟคที่เตรียมไว้ เช่น SD‑1 ↔ CE‑2 สำหรับเปลี่ยนจากริธึมไปโซโล่
- บันทึกพรีเซ็ตหลายชุดตามสถานการณ์: ห้องซ้อม/เวที/อัดเสียง แล้วตั้ง CTL ให้เรียกพรีเซ็ตโปรดได้ไว
การซิงค์จังหวะกับ MIDI Clock / Tap Tempo
- ต่อ TRS MIDI IN เพื่อรับ BPM จากลูปเปอร์หรือคอนโทรลเลอร์ MIDI ให้ Delay/Modulation ล็อกกับคลิกของวง
- เลือกส่วนแบ่งจังหวะ (Subdivision) เช่น 1/4, 1/8, Dot/Triplet ตามสไตล์เพลง ลดอาการดีเลย์หลุดจังหวะ
- ใช้ Tap Tempo เมื่อไม่มี MIDI Source; แตะให้ตรงกับจังหวะกลองก่อนขึ้นเพลง
- หากจังหวะไม่นิ่ง (jitter) ให้เปิดการทำให้จังหวะนิ่ง/ปรับเข้าจังหวะ (smoothing/quantize) ในรุ่นที่รองรับ เพื่อลดการสั่นไหวของ BPM
ขั้นตอนทำงาน Bluetooth/USB สำหรับโหลดโมเดล
- จับคู่ Bluetooth LE MIDI กับแอป BOSS Effect Loader หรือเชื่อมต่อผ่าน USB‑C เพื่อการส่งถ่ายข้อมูลที่เสถียรกว่า
- ทดลองตัวอย่างเสียง 30 วินาทีก่อนซื้อ Model Pass เพื่อเช็กความเข้ากันของโทนกับแอมป์/ปิคอัพ
- จัดการพื้นที่เก็บโมเดล สลับเอฟเฟคที่ใช้บ่อยไว้ลำดับต้น เพื่อเรียกใช้เร็ว
- อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นระยะ และสำรองการตั้งค่าไว้ในคอมพิวเตอร์/คลาวด์
การใช้งานช่องสัญญาณด้านข้าง (I/O) – เอฟเฟคกีต้าร์ BOSS PX-1 Plugout FX
ฝั่งซ้าย: OUTPUT A / OUTPUT B (MONO)
- มีแจ็ค 1/4" สองช่องตามภาพ พร้อมสกรีนว่า A OUTPUT B (MONO)
- ใช้งาน โมโน: ต่อสายออกจากช่อง B (MONO) ไปยังแอมป์หรืออินเทอร์เฟซ 1 ช่อง
- ใช้งาน สเตอริโอ: ต่อสายออกจาก OUTPUT A ไปซ้าย (L) และจาก OUTPUT B ไปขวา (R)
- เมื่อใช้กับแอมป์คู่หรือระบบ PA สองแชนแนล จะได้มิติเสียงของเอฟเฟค Modulation/Delay เต็มที่
ฝั่งขวา: INPUT A (MONO) / INPUT B / CTL 1,2/EXP
- มีแจ็ค 1/4" สามช่องเรียงจากซ้ายไปขวา: CTL 1,2/EXP, INPUT B, INPUT A (MONO) (ตรงตามข้อความบนตัวเครื่อง)
- ใช้งาน โมโน: ต่อกีต้าร์เข้าที่ INPUT A (MONO)
- ใช้งาน สเตอริโอ: ต่อสัญญาณฝั่งซ้ายเข้าที่ INPUT A และฝั่งขวาเข้าที่ INPUT B
- ช่อง CTL 1,2/EXP (TRS) ใช้เสียบฟุตสวิตช์ FS‑6/FS‑7 หรือ expression pedal รุ่น EV‑5/EV‑30 เพื่อควบคุมพารามิเตอร์แบบเรียลไทม์ (เลือกโหมดได้ในเมนู)
ตัวอย่างการต่อพื้นฐาน
- กีต้าร์ → INPUT A (MONO) → OUTPUT B (MONO) → แอมป์ตัวเดียว
- กีต้าร์ → INPUT A (+ แหล่งสัญญาณขวา → INPUT B) → OUTPUT A (L) และ OUTPUT B (R) → แอมป์คู่หรืออินเทอร์เฟซ 2 ช่อง
- เพิ่มการควบคุม: ต่อ FS‑7 เข้าช่อง CTL 1,2/EXP เพื่อสลับฟังก์ชัน/เปิด‑ปิดพารามิเตอร์ หรือใช้ EV‑5 เพื่อคุม LEVEL/Mix ต่อเนื่อง
บทสรุป นวัตกรรมแห่งเสียงที่ก้าวข้ามยุคสมัย
เอฟเฟคกีต้าร์รุ่น BOSS PX-1 Plugout FX ไม่ได้เป็นเพียงเอฟเฟคกีต้าร์ธรรมดา แต่เป็นแพลตฟอร์มเสียงที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างเอกลักษณ์ของตนเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยคุณสมบัติ Plugout FX ที่รวมเอาเอฟเฟคระดับตำนานไว้ในเครื่องเดียว และรองรับการอัปเดตในอนาคต มันจึงเป็นคำตอบสำหรับนักดนตรีที่ต้องการอุปกรณ์หนึ่งเดียวที่ตอบโจทย์ทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยในเวลาเดียวกัน
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น