การเลือกกีต้าร์ไฟฟ้าที่ทั้งเสียงดี จับถนัดมือ และรูปลักษณ์สวยงาม เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้เล่นทุกระดับ รุ่นที่ตอบโจทย์ครบถ้วนคือ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Zach Myers 594 รุ่นซิกเนเจอร์ของ Zach Myers แห่งวง Shinedown ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่ร็อกพลังหนักไปจนถึงบลูส์โทนอุ่น ด้วยงานประกอบประณีตและวัสดุคัดสรรที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ PRS อย่างชัดเจน
โครงสร้างกีต้าร์และวัสดุที่ใช้ใน กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Zach Myers 594
รุ่นนี้ใช้บอดี้กึ่งโปร่ง (Semi‑Hollowbody) ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มความกังวานของเสียง วัสดุหลักเป็นไม้ Mahogany ให้โทนอุ่น หนา และสมดุลทุกย่าน ด้านหน้าปิดด้วย Flame Maple Veneer พร้อมการเซาะโค้งแบบไวโอลิน (Violin‑Carved) ที่ให้ทั้งความสวยงามและการกระจายเสียงที่ดี
คอทรง Pattern Wide Fat จับถนัดมือ เล่นคอร์ดนาน ๆ ไม่ล้า ฟิงเกอร์บอร์ด Rosewood รัศมีโค้ง 10 นิ้ว ช่วยให้สไลด์และดันสายลื่นมือ งานประกอบเรียบร้อยตามมาตรฐานของ PRS ใส่ใจรายละเอียดทุกจุด
ระบบปิ๊กอัพและเสียงของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Zach Myers 594
ติดตั้ง Humbucker รุ่น 245 “S” จำนวนสองตัว ให้โทนโดยรวมแบบวินเทจที่อบอุ่น หนา แต่ยังคงรายละเอียดปลายเสียงใสได้ดี สวิตช์ 3 ทาง และปุ่ม Volume/Tone แยกสำหรับปิ๊กอัพแต่ละตำแหน่ง ช่วยให้ปรับโทนได้ยืดหยุ่น ตั้งแต่คลีนใส, crunch กำลังดี, ไปจนถึง high-gain ที่กระชับ
สะพานสายที่ PRS ออกแบบ สามารถตั้งอินโทเนชันได้แม่นยำ จูนติด และคงเสถียรเมื่อเล่นต่อเนื่อง ลูกบิดหมุนลื่น ไม่เพี้ยนง่าย เหมาะกับทั้งการแสดงสดและงานสตูดิโอ
โทนเสียงและแนวเพลงที่เหมาะกับ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Zach Myers 594
กีต้าร์รุ่นนี้ครอบคลุมย่านเสียงกว้าง ตั้งแต่โทนคลีนใสไปจนถึงเสียงแตกแบบ high-gain เหมาะกับร็อก บลูส์ ป็อป และแจ๊ส จุดเด่นคือความเปิดของเสียงจากบอดี้กึ่งโปร่ง ทำให้ย่านกลางชัด โน้ตแยกตัวดี เวลาเล่นคอร์ดเต็มก็ยังฟังรายละเอียดได้ครบ และเมื่อเพิ่ม Gain เสียงโน้ตเดี่ยวยังคงคมชัด ไม่บวม
เครดิต : Guitar Bonedo
- คลีนอบอุ่นสไตล์บลูส์: ใช้ปิ๊กอัพคอ ปรับ Volume ราว 7–8 และ Tone 6–7 ได้ย่านกลางนุ่ม ปลายเสียงไม่บาดหู เหมาะกับคอร์ดเปิดและไลน์ช้า ๆ
- ร็อกคลาสสิกแบบ crunch: ใช้ปิ๊กอัพคอ+บริดจ์ร่วมกัน เพิ่ม Gain ระดับกลางจาก Amp ให้เสียงหนาแน่นแต่ยังคม เหมาะกับริฟฟ์และโซโล่สั้น
- สาย high-gain สมัยใหม่: สลับไปปิ๊กอัพบริดจ์ เพิ่ม Compress จาก Pedal หรือ Amp เสียงจะกระชับ ตอบสนองเร็ว เหมาะกับปาล์มมิวต์และไลน์ที่ต้องการความคมชัด
- แจ๊ส/ฟิวชัน: ลดโทนที่ปิ๊กอัพคอลงเล็กน้อยและเก็บมือขวาใกล้คอ จะได้โทนหนา กลม รายละเอียดปลายโน้ตยังอยู่
เคล็ดลับ: การมีปุ่ม Volume/Tone แยกสำหรับปิ๊กอัพแต่ละตัว ช่วยผสม (blend) โทนเสียงตามต้องการได้ เช่น ตั้งปิ๊กอัพคอให้ทุ้ม และตั้งปิ๊กอัพบริดจ์ให้คม จากนั้นสลับตำแหน่งด้วยสวิตช์ 3 ทาง เพื่อเปลี่ยนคาแรคเตอร์ภายในเพลงเดียว
แนวทางตั้งอินโทเนชันและแอคชันสำหรับสเกล 24.594"
สเกลนี้สั้นกว่า 25.5" เล็กน้อย ทำให้แรงตึงสายลดลง กดสายง่ายขึ้น และตั้งแอคชันให้เล่นสบายได้ โดยยังคงซัสเทนดีเมื่อเซ็ตอัปถูกต้อง
1. เปลี่ยนสายใหม่ และตรวจระยะคอ (Neck Relief) ที่เฟร็ต 8–9 โดยกดเฟร็ตแรกและเฟร็ตสุดท้ายพร้อมกัน ควรมีช่องว่างราว 0.20–0.30 มม.
2. ตั้งความสูงสายที่เฟร็ต 12: สาย 6 ประมาณ 1.8 มม. และสาย 1 ประมาณ 1.6 มม. จากนั้นปรับตามแรงมือและสไตล์การเล่น
3. ตั้งอินโทเนชัน (Intonation) ที่สะพานสาย: เทียบเสียงเปิดสายกับเฟร็ต 12 ถ้าเฟร็ต 12 สูงกว่า ให้ขยับหย่องถอยหลัง ถ้าต่ำกว่า ให้ดันหย่องเข้าหาปิ๊กอัพ
หมายเหตุ : สายเบอร์ 10–46 เหมาะกับสเกลนี้ ทั้งการจูนมาตรฐาน E และการจูนแบบ Drop D
งานดีไซน์สุดประณีตและเอกลักษณ์ของ PRS
ลาย Flame Maple ใต้ฟินิช Gloss ทำให้มิติของไม้เด่นชัด เมื่ออยู่ใต้ไฟเวทีหรือหน้ากล้องจะสะท้อนแสงสวย อินเลย์รูปนก (Birds) คือเอกลักษณ์ของ PRS ที่เห็นแล้วจดจำได้ทันที งานขอบและการเก็บรายละเอียดทำได้เนียนตา
ความแตกต่างของ PRS SE Zach Myers 594 กับรุ่นอื่นในตระกูล SE
ความยาวสเกล 24.594 นิ้ว ทำให้สายยืดหยุ่นกว่าสเกลมาตรฐานเล็กน้อย กดและดันสายได้ง่ายขึ้น แต่ยังคง Sustain ดีเมื่อเซ็ตอัปถูกต้อง โครงสร้างกึ่งโปร่ง (Semi‑Hollowbody) ช่วยให้เสียงเปิด โปร่ง มีมิติ และแยกโน้ตชัดเจนกว่าบอดี้ตัน เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการคาแรคเตอร์กว้าง โดยไม่เสียความแน่นและความคมของโน้ต
เหตุผลที่มือกีต้าร์มืออาชีพเลือกใช้ PRS SE Zach Myers 594
รุ่นนี้ผสานงานดีไซน์ที่ดูดีเข้ากับเสียงที่ปรับได้หลากหลาย ใช้ได้ตั้งแต่ร็อก บลูส์ ไปถึงป็อปและแจ๊ส ผู้เล่นจำนวนมากเลือกพกตัวเดียวขึ้นงานได้ครบ พร้อม Gig Bag จากโรงงาน ช่วยให้พกพาสะดวกและปกป้องตัวเครื่องได้ดี
การดูแลรักษาและเคล็ดลับการใช้งาน กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Zach Myers 594
เก็บกีต้าร์ในห้องอุณหภูมิคงที่และไม่ชื้น เช็ดตัวกีต้าร์หลังเล่น โดยเฉพาะคอและฟิงเกอร์บอร์ด ใช้น้ำยาดูแลไม้สำหรับเครื่องดนตรี ตั้งสายให้ถูกมาตรฐานเพื่อลดโอกาสคอโก่ง ตรวจน็อตและสกรูเป็นระยะเพื่อป้องกันเสียงสั่นผิดปกติ การดูแลสม่ำเสมอช่วยยืดอายุการใช้งานและคงโทนเสียงให้เสถียร
การจับคู่ Amp และ Pedal ที่เข้ากัน
- คลีนใส อุ่น ฟังสบาย: ใช้ Amp ทรานซิสเตอร์โทนคลีน หรือ Amp หลอด ที่มี Headroom สูง เติม Compressor อ่อน ๆ เพื่อเก็บไดนามิก และใส่ Reverb สั้น ๆ เพื่อเพิ่มมิติ
- บลูส์/ร็อกคลาสสิก: Amp สไตล์อังกฤษย่านกลางเด่น เติม Overdrive เบา ๆ หน้า Amp แล้วปรับย่านกลางขึ้นเล็กน้อยให้โซโล่ชัด
- สาย high-gain: ใช้ช่องไดรฟ์ของ Amp หรือ Pedal high-gain เป็นหลัก ใส่ Noise Gate เล็กน้อยให้เงียบ และบูสต์ด้วย OD เพื่อกระชับปลายโน้ต
- โพสต์‑ร็อก/แอมเบียนต์: ใช้ Delay แบบ dotted-eighth และ Reverb โหมด Hall/Shimmer ตั้งค่า Mix พอดี เพื่อไม่กลบรายละเอียด
อุปกรณ์เสริมที่ควรมีสำหรับผู้เริ่มต้น
- เครื่องตั้งสายแบบคลิป: ตั้งสายได้รวดเร็ว แม่นยำ ใช้งานได้เงียบบนเวที
- สายแจ็คคุณภาพ: หัวแจ็คแน่น สายอ่อนตัว ลดสัญญาณรบกวน เลือกความยาว 3–6 เมตรตามหน้างาน
- สายสะพายกว้าง: ช่วยกระจายน้ำหนัก ลดอาการล้าบ่าไหล่เมื่อเล่นนาน
- ขาตั้งกีต้าร์หรือที่แขวนผนัง: ป้องกันการล้ม และทำให้พื้นที่ซ้อมเป็นระเบียบ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์และน้ำยาดูแล: เช็ดคราบเหงื่อ ลดโอกาสเกิดสนิมที่เฟร็ตและฮาร์ดแวร์
- กระเป๋ากันกระแทกหรือฮาร์ดเคส: ป้องกันความชื้นและแรงกระแทกระหว่างเดินทาง
เช็คลิสต์ก่อนขึ้นเวทีหรืออัดเสียง
- เปลี่ยนสายล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้สายยืดตัวนิ่งและจูนติด
- ตรวจ Intonation และความสูงสายให้พอดีมือ
- เช็คความสูง Pickup และบาลานซ์ความดังระหว่างคอ–บริดจ์
- ทดสอบสัญญาณทั้งโซ่เสียง ตั้งระดับ Gain ไม่ให้เกิด clipping ที่อินพุต Amp หรือ Audio Interface
- เตรียมปิ๊ก ถ่าน/แบตเตอรี่ Pedal และสายแจ็คสำรอง
การดูแลในสภาพอากาศชื้นของไทย
- ใส่ซองกันชื้นในกระเป๋ากีต้าร์ และเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ
- เก็บในห้องที่อากาศถ่ายเท ใช้เครื่องลดความชื้นหากจำเป็น
- ดูแลฟิงเกอร์บอร์ด Rosewood ด้วยออยล์ปีละ 1–2 ครั้ง (หลีกเลี่ยงการทาบ่อยเกินไป)
- เช็ดฮาร์ดแวร์โลหะหลังเล่นทุกครั้ง ลดคราบและสนิม
สรุปความคุ้มค่าและเอกลักษณ์ของรุ่นนี้
รุ่นนี้โดดเด่นเรื่องความครอบคลุม ใช้งานได้ตั้งแต่ซ้อม งานเวที ไปจนถึงอัดเสียง โครงสร้างกึ่งโปร่งให้เสียงเปิดและมีรายละเอียด ขณะที่ปิ๊กอัพ 245 “S” ให้โทนวินเทจที่ปรับได้กว้าง หากต้องการกีต้าร์ตัวเดียวที่พาไปได้หลายแนว นี่คือทางเลือกที่ไว้ใจได้และคุ้มค่าแก่การลงทุน
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น