เสียงเบสที่ทรงพลังและลีลาการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Flea จากวง Red Hot Chili Peppers เป็นแรงบันดาลใจให้มือเบสทั่วโลก เบื้องหลังโทนเสียงที่โดดเด่นนั้นคือ เบสไฟฟ้า Fender Flea Signature Jazz Bass เครื่องดนตรีที่ถ่ายทอดบุคลิกของศิลปินผู้รักการทดลองอย่างไม่หยุดนิ่ง มาพร้อมสเปกและงานประกอบที่พิถีพิถัน เพื่อให้ได้โทนวินเทจแท้ในแบบทศวรรษ 1960 ที่หลายคนหลงใหล
จุดกำเนิดของตำนาน Flea และแรงบันดาลใจในการสร้างเบสรุ่นพิเศษ
Flea เป็นหนึ่งในมือเบสที่ทรงอิทธิพลที่สุดของยุคปัจจุบัน สไตล์การเล่นของเขาผสานกรูฟแบบ funk ความละมุนของ jazz และพลังของ rock ได้อย่างลงตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่เสียงเบสของเขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้มือเบสจำนวนมาก
Fender จึงร่วมมือกับ Flea พัฒนารุ่นพิเศษนี้ โดยอ้างอิงจาก Jazz Bass สี Shell Pink ปี 1961 ซึ่งเขาได้รับจากแฟนเพลงและใช้บันทึกเสียงในอัลบั้ม Stadium Arcadium และ The Getaway รุ่นซิกเนเจอร์นี้จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อสานต่อจิตวิญญาณของเสียงที่เป็นเอกลักษณ์นั้น
งานออกแบบและวัสดุระดับวินเทจของ เบสไฟฟ้า Fender Flea Signature Jazz Bass ในแบบ Road Worn
เบสรุ่นนี้ผ่านการเคลือบสีด้วยเทคนิค Nitrocellulose Lacquer แบบ Road Worn ซึ่งให้สัมผัสและลุคที่เหมือนเครื่องดนตรีวินเทจที่ผ่านการใช้งานจริงหลายปี เสียงที่ได้จึงมีความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ตัวบอดี้ทำจากไม้ Alder ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องโทนเสียงที่สมดุลทั้งย่านต่ำ กลาง และสูง
ส่วนคอเบสทำจากไม้เมเปิลแบบทรง "C" เคลือบผิวด้านหลังด้วย Nitro เพื่อให้สัมผัสที่ลื่นและสบายมือเมื่อเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ฟิงเกอร์บอร์ดไม้ Rosewood รัศมีโค้ง 7.25 นิ้ว พร้อมจำนวน 20 เฟร็ต ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเบสยุคคลาสสิกจริง ๆ
ปิ๊กอัพ Pure Vintage ’64 – หัวใจของโทนเสียงระดับตำนาน
จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือปิ๊กอัพแบบ Pure Vintage ’64 Single-Coil Jazz Bass สองตัว ที่ให้โทนเสียงคมชัด หนาแน่น และตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสไตล์การเล่น ตั้งแต่ slap จนถึง fingerstyle เสียงที่ได้มีความคมชัดในย่านกลางและอบอุ่นในย่านต่ำ เหมาะสำหรับทั้งการอัดเสียงในสตูดิโอและการแสดงสด
รายละเอียดการประกอบและการตกแต่งที่สะท้อนตัวตนของ Flea
สิ่งที่ทำให้เบสรุ่นนี้พิเศษคือแผ่นคอโลหะด้านหลังที่สลักโลโก้ดีไซน์โดย Flea เอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความเป็นศิลปินที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน นอกจากนี้ยังใช้สะพานสายแบบ Vintage-Style ที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพของเสียงและคงความดั้งเดิมของเบส Fender ในยุค 60s ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สัมผัสและการใช้งานจริง
การจับถือของเบสรุ่นนี้ให้ความรู้สึกมั่นคง คอจับสบาย เล่นง่าย และมีน้ำหนักสมดุลดีเยี่ยม เสียงตอบสนองรวดเร็วครบทุกย่านความถี่ เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการโทนเสียงที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ชัด และมีเอกลักษณ์โดดเด่น Flea เคยกล่าวว่า “เครื่องดนตรีควรสะท้อนตัวตนของผู้เล่น” และรุ่นนี้ทำได้อย่างครบถ้วน
ความแตกต่างจากรุ่น Jazz Bass ทั่วไป
เบส Fender Flea Signature รุ่นนี้แตกต่างจาก Jazz Bass มาตรฐานตรงที่ให้โทนเสียงวินเทจและดิบกว่า ผิวเคลือบแบบ Road Worn ช่วยให้เสียงเปิด โปร่ง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คอทรง “C” ให้ฟีลคลาสสิกขึ้น แต่ยังเล่นง่ายเหมือนรุ่นปัจจุบัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดนตรีระดับมืออาชีพที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และมีกลิ่นอายวินเทจจากประวัติศาสตร์ดนตรี
การจับคู่แอมป์และเอฟเฟคสำหรับโทน Flea
โทนของ Flea เด่นที่ย่านกลางชัดและย่านต่ำกระชับ การจับคู่กับแอมป์ทรานซิสเตอร์ที่มี headroom สูง หรือแอมป์หลอดที่ให้ความอุ่น จะยิ่งดันโทนให้ชัดขึ้น แนะนำเริ่มจากการปรับ EQ แบบ “Mid‑forward” (เพิ่มย่านกลางเล็กน้อย คุมย่านต่ำให้กระชับ เปิดย่านสูงพอให้มีประกาย) เอฟเฟคที่ใช้บ่อยคือ compressor เพื่อควบคุมระดับเสียงและความสม่ำเสมอระหว่างการดีดด้วยนิ้ว (fingerstyle)และการเล่นแบบ slap/pop และ overdrive บาง ๆ เพื่อเพิ่ม harmonic เวลาโซโล่ ส่วน chorus/flanger ใช้เพียงเล็กน้อย เฉพาะท่อนที่ต้องการสร้างบรรยากาศของเพลง เพื่อไม่ให้กลบความคมของปิ๊กอัพ single‑coil
การเซ็ตอัพแอคชั่น คอ และอินโทเนชันสำหรับ slap
เพื่อให้การเล่นแบบ slap ตอบสนองไว แนะนำตั้ง action ค่อนข้างต่ำ แต่ไม่ต่ำจนเกิดเสียงสายกระทบเฟร็ต (buzz) เช็ค relief ของคอให้โค้งเล็กน้อยตามสเปกวินเทจ จากนั้นตั้ง intonation ที่สะพานสายทีละสายด้วยเครื่องเทียบเสียงที่เชื่อถือได้ คอทรง “C” ที่หนากว่ามาตรฐานช่วยให้คอมั่นคงเมื่อดีดแรง ๆ รัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 7.25 นิ้ว ช่วยให้การเล่นเป็นคอร์ด (chordal playing) ฟังนุ่มนวลขึ้น ดูแลฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูดด้วย lemon oil เป็นระยะ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและยืดอายุเนื้อไม้
การดูแลผิวเคลือบ Nitro แบบ Road Worn
ผิวเคลือบ Nitro (nitrocellulose) ช่วยให้เนื้อไม้สั่นพ้องได้เป็นธรรมชาติ แต่ไวต่อความชื้น อุณหภูมิ และสารเคมี ควรเก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทดี หลีกเลี่ยงการสัมผัสยางหรือโฟมบางชนิดที่อาจเกิดปฏิกิริยากับผิว ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มเช็ดหลังเล่นทุกครั้ง และใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ระบุว่าใช้กับ Nitro ได้โดยเฉพาะ หากต้องขนย้ายบ่อย ให้ใช้ gig bag ที่พยุงคอและบอดี้เพื่อลดแรงกระแทก ผิวแบบ Road Worn จะเกิดรอยสึกอย่างสวยงามตามกาลเวลา ถือเป็นเอกลักษณ์ ไม่ใช่ตำหนิ
สเปกหลักของ เบสไฟฟ้า Fender Flea Signature Jazz Bass
- บอดี้: Alder (น้ำหนักเบา โทนเสียงสมดุล)
- ผิวเคลือบ: Road Worn Nitrocellulose Lacquer สี Shell Pink
- คอ: Maple ทรง “C”
- ฟิงเกอร์บอร์ด: Rosewood รัศมี 7.25 นิ้ว
- เฟร็ต: 20 เฟร็ตแบบวินเทจ
- ปิ๊กอัพ: Pure Vintage ’64 Single‑Coil Jazz Bass จำนวน 2 ตัว
- ควบคุมเสียง: Volume 1/Tone 1 (Neck), Volume 2/Tone 2 (Bridge)
- ฮาร์ดแวร์: Nickel/Chrome แบบวินเทจ
- Gig Bag: Deluxe Gig Bag (รวมในชุด)
โทนเสียงและการใช้งานของ เบสไฟฟ้า Fender Flea Signature Jazz Bass
ฟังจบแล้ว เลือกซื้อได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
คลิป YouTube
การผสมปิ๊กอัพและโทนแบบ Stacked Concentric
- เริ่มจากตั้ง Volume (neck) ประมาณ 70% และ Volume (bridge) 100% / Tone (neck) ราว 40% และ Tone (bridge) ราว 60% จะได้โทนคมใส เด้ง เหมาะกับฟังก์–ร็อก
- โทนอุ่นสำหรับโซล/R&B: Volume (neck) 100% และ Volume (bridge) ประมาณ 50% / Tone (neck/bridge) ราว 50% รายละเอียดโน้ตยังชัดเจน
- หากย่านแหลมบาดหู ให้ลด Tone (bridge) ทีละน้อย หมุนปรับเล็กน้อยจนได้ระดับที่พอดี
- ปรับสมดุลทีละ 5–10% แล้วลองกับ backing track จริง เพื่อหาจุดที่ลงตัวใน mix
- บันทึกค่า preset สำหรับท่อนหลัก/chorus/solo เพื่อเรียกใช้ซ้ำบนเวทีได้รวดเร็ว
การเลือกสายและการตั้งค่าที่สัมพันธ์กัน
- สาย Roundwound Nickel ให้เสียงใสคมและสมดุล เหมาะกับแนวที่ต้องการ transient (หัวโน้ตพุ่ง/แรงกระแทกต้นเสียง) เร็วและชัดเจน
- สาย Flatwound ให้โทนวินเทจนุ่มลึก และช่วยลดเสียงนิ้วเสียดสาย
- เบอร์สายเริ่มต้น .045–.105 ให้แรงตึงปานกลาง หากต้องการย่านต่ำแน่นขึ้นให้เลือกเบอร์หนาขึ้น แต่ควรปรับ action และ intonation ให้เหมาะสม
- ตั้งความสูงปิ๊กอัพต่ำลงเล็กน้อยเมื่อเล่นแรง เพื่อลดโอกาส clip และทำให้ไดนามิกของโน้ตเป็นธรรมชาติ
- เปลี่ยนสายทุก 3–6 เดือน ตามการใช้งาน เพื่อคงความใสของเสียง ความตรงของ intonation และความเสถียรของจังหวะ
ทิปสำหรับการอัดเสียงในสตูดิโอ
- อัดสัญญาณตรง (DI) คู่กับไมค์คาบิเน็ต แล้วผสม (blend) ประมาณ 60/40 เพื่อรวมความคมของ DI กับความอุ่นจากลำโพง
- ใช้ High‑Pass Filter ราว 30–40 Hz เพื่อตัดย่านที่ไม่จำเป็น ลดความขุ่นเมื่อมิกซ์กับกลองเบส
- ตั้ง compressor ที่อัตราส่วนราว 3:1–4:1 ปรับ attack ให้ช้าเล็กน้อยเพื่อให้ transient (หัวโน้ตพุ่ง) ผ่านชัด จากนั้นตั้ง release ให้เสียงคืนตัวทันจังหวะเพลง
- เช็ค phase ของสัญญาณ DI/ไมค์ ทุกเทค หากย่านต่ำหายให้สลับ phase หรือปรับระยะไมค์ใหม่
สรุป – ทำไม เบสไฟฟ้า Fender Flea Signature Jazz Bass ถึงคุ้มค่าสำหรับคุณ
รุ่นซิกเนเจอร์นี้เหมาะทั้งงานเวทีและสตูดิโอ ด้วยคาแรคเตอร์วินเทจจากปิ๊กอัพ Pure Vintage ’64 ผิวเคลือบ Nitro แบบ Road Worn ที่เปิดให้เนื้อไม้สั่นพ้อง และคอทรง “C” ที่มั่นคงต่อการเล่นแรงแบบ slap/funk โทนกลางเด่น เบสกระชับ รายละเอียดโน้ตชัด จัดสมดุลใน mix ได้ง่าย โดยไม่ต้องพึ่ง EQ หนัก
หากกำลังมองหาเครื่องดนตรีที่มีบุคลิกชัด เจือกลิ่นอายวินเทจยุค 1960s แต่ตอบสนองการเล่นสมัยใหม่ รุ่นนี้พร้อมใช้งานจริง ดูแลง่าย ทนทาน และยังสามารถอัปเกรดอุปกรณ์เสริม (เช่น amp, effects, preamp, สายเบส)ได้ โดยที่โทนเสียงเฉพาะตัวยังคงเดิม
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น