กีต้าร์โปร่งเป็นเครื่องดนตรีที่คนไทยคุ้นเคย ใช้ได้ตั้งแต่ห้องซ้อม ร้านกาแฟ ไปจนถึงเวทีคอนเสิร์ต จุดเด่นคือเสียงเป็นธรรมชาติ ควบคุมอารมณ์ด้วยน้ำหนักมือได้ดี และเริ่มเล่นได้ทันทีโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์มาก ถ้ากำลังมองหากีต้าร์ที่ให้โทนเสียงพอดีทั้งทุ้ม กลาง และแหลม งานประกอบเรียบร้อย และพร้อมเล่นได้ทั้งแบบไม่ต่อไฟหรือจะต่อแอมป์เมื่อจำเป็น กีต้าร์โปร่ง aNueNue MC-15E คือรุ่นที่ควรทำความรู้จัก
จุดเด่นของ กีต้าร์โปร่ง aNueNue MC-15E
- เสียงกลมกล่อมจากคู่ไม้คลาสสิก — หน้าไม้สปรูซ (Spruce) ให้โทนใส โปร่ง ดีดแล้วได้ยินทันที ด้านข้าง–หลังมะฮอกกานี (Mahogany) เพิ่มความอุ่นและย่านกลางแน่น เสียงโดยรวมจึงสมดุล เล่นได้ทั้งตีคอร์ดและฟิงเกอร์สไตล์
- สเกล 610 มม. เล่นสบายมือ — รุ่นนี้สั้นกว่าสเกลกีต้าร์ทั่วไปเล็กน้อย ทำให้แรงตึงสายน้อยลง กดคอร์ดบาร์ได้ง่าย ดันสาย (bending) ลื่น และยังได้ยินโน้ตชัดทุกตัว
- คอมะฮอกกานี + ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด — จับคอแล้วนุ่มมือ ผิวฟิงเกอร์บอร์ดเรียบลื่น นิ้วเปลี่ยนคอร์ดและเลื่อนตำแหน่งได้สบาย ใช้เทคนิคการสั่นสาย (Vibrato) ได้ง่าย และเทคนิคแฮมเมอร์ออน/พูลออฟได้ง่าย ปลายโน้ตนุ่ม ไม่แหลมบาดหู
- ระบบปิคอัพ Air Blue พร้อมขึ้นเวที — ถ่ายทอดเสียงไม้เป็นธรรมชาติ ต่อเข้ามิกเซอร์ แอมป์ หรือออดิโออินเตอร์เฟซได้ทันที เหมาะทั้งเล่นสดและไลฟ์สตรีม
- งานประกอบเนี้ยบ — ขอบบอดี้ (binding) แน่น การเข้าคอเนียน การเคลือบสม่ำเสมอ ช่วยยืดอายุการใช้งานและรับมือการเปลี่ยนแปลงของอากาศ
- มีกระเป๋า Gig Bag อย่างดี — aNueNue Original Gig Bag บุหนา น้ำหนักเบา พกพาปลอดภัยกว่าถุงผ้าทั่วไป
รายละเอียดวัสดุและการออกแบบของ กีต้าร์โปร่ง aNueNue MC-15E
Top (หน้าไม้): สปรูซ (Spruce)
สปรูซเป็นไม้ที่นิยมในกีต้าร์อะคูสติก ให้เสียงโปร่ง ใส ดีดแล้วได้ยินทันที เหมาะทั้งการตีคอร์ดและการเกา เมื่อใช้งานไปสักพักเสียงจะกลมและหวานขึ้น
Back/Sides (ข้าง/หลัง): มะฮอกกานี (Mahogany)
ให้โทนอุ่น ย่านกลางชัด เสียงไม่บาง และไม่แหลมบาดหู ใช้ในห้องเล็ก ๆ ได้สบาย แต่ยังคงรายละเอียดปลายแหลมพอสำหรับเมโลดี้
Neck (คอ): มะฮอกกานี + นัทกว้าง 43 มม.
ขนาดนัท 43 มม. เป็นมาตรฐาน วางนิ้วสบาย โดยเฉพาะคนที่คุ้นกีต้าร์ไฟฟ้า ทรงคอพอดีมือ ไม่อ้วนหรือบางเกินไป ช่วยลดความล้าเวลาเล่นนาน ๆ
Fingerboard/Bridge (ฟิงเกอร์บอร์ด/สะพานสาย): โรสวูด (Rosewood)
ผิวโรสวูดเรียบลื่น มีน้ำมันธรรมชาติเล็กน้อย ช่วยให้นิ้วเลื่อนได้ง่าย ลดเสียงสากเวลาเลื่อนนิ้ว สะพานสายโรสวูดส่งการสั่นของสายได้ดี ทำให้เสียงยาวพอดี ไม่ทึบ
ฮาร์ดแวร์และการเคลือบ
ลูกบิดเที่ยงตรง จูนเสียงได้นานไม่เพี้ยนง่าย ผิวเคลือบกึ่งด้านให้สัมผัสเป็นธรรมชาติ ช่วยลดคราบเหงื่อและรอยนิ้ว เหมาะกับการใช้งานทุกวัน
การใช้งานจริงและประสบการณ์การเล่น
ดีดเบา ๆ ก็ได้ยินเสียงทันที เสียงทุ้มแน่นกำลังดี ไม่บวมแม้ตีแรง ย่านกลางชัดเจนช่วยให้เสียงร้องหรือเมโลดี้เด่น ส่วนปลายแหลมใสพอดี ไม่บาดหูแม้ใช้ปิ๊กแข็ง เล่นฟิงเกอร์สไตล์แล้วได้ยินเสียงแต่ละสายแยกจากกันชัดเจน เคาะตัวกีต้าร์เพื่อทำจังหวะก็ให้เสียงไม้ชัด เหมาะกับคนที่สลับระหว่างตีคอร์ดกับท่อนเมโลดี้สั้น ๆ
ขึ้นเวทีจริง คุมระดับดัง–เบาได้ด้วยน้ำหนักมือ ไม่จำเป็นต้องพึ่งคอมเพรสเซอร์มากนัก เล่นกับวงขนาดเล็กถึงกลาง เสียงกีต้าร์จะวางตัวในเสียงรวมของวงได้ดี ไม่ทับกับคีย์บอร์ดหรือเครื่องสายอื่น
ใครที่เหมาะกับ กีต้าร์โปร่ง aNueNue MC-15E
- มือใหม่ที่อยากเริ่มด้วยเครื่องดนตรีคุณภาพ เพื่อพัฒนาได้เร็วบนเสียงที่ดีตั้งแต่ต้น
- นักร้อง–นักแต่งเพลงที่ต้องการกีต้าร์สำหรับบันทึกไอเดียที่บ้าน และพกขึ้นเวทีได้ทันที
- ผู้เล่นฟิงเกอร์สไตล์ที่ชอบย่านกลางชัด และต้องการสัมผัสสบายมือจากสเกล 610 มม.
- นักดนตรีอาชีพที่เล่นตามร้าน/งานกลางแจ้งบ่อย ๆ ต้องการเสียงต่อแอมป์ที่ยังเป็นธรรมชาติ
ทำความรู้จักระบบอิเล็กทรอนิกส์ Air Blue ใน กีต้าร์โปร่ง aNueNue MC-15E ให้ใช้เวทีได้อย่างมั่นใจ
หัวใจของการเล่นบนเวทีคือเสียงที่ชัดและไม่หอน ปิคอัพ Air Blue เก็บเสียงกีต้าร์ออกมาเป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงเสียงจริง และลดโอกาสเกิดเสียงหวีด (feedback) ได้ดี โทนที่ได้สมดุลทั้งทุ้ม‑กลาง‑แหลม ไม่แข็งหรือแห้งเกินไป
วิธีใช้งานแบบเข้าใจง่าย
- การต่อสัญญาณแบบพื้นฐาน: กีต้าร์ → DI Box (กล่องปรับสัญญาณ) → มิกเซอร์/ออดิโออินเตอร์เฟซ หากเสียบเข้ามิกเซอร์โดยตรง ให้เลือกช่องที่รองรับสัญญาณเครื่องดนตรี (Hi‑Z) หรือใช้ DI เพื่อให้สัญญาณนิ่ง
- ตั้งค่าเกน (Gain): ดีดแรงสุดหนึ่งครั้ง แล้วปรับจนไฟพีคกระพริบสั้น ๆ ไม่ติดแดงค้าง เพื่อให้ได้ไดนามิกกว้างโดยไม่แตกพร่า
- กันเสียงหวีด: ถอยจากลำโพงมอนิเตอร์เล็กน้อย ลดย่าน 200–400 Hz หรือใช้ Notch Filter และหลีกเลี่ยงยืนหันซาวด์โฮลเข้าลำโพงโดยตรง
- ตั้งค่าอีคิวเริ่มต้น: ถ้าเสียงทึบ เพิ่มแหลมเล็กน้อย; ถ้าทุ้มล้น ตัดต่ำใต้ 80–100 Hz โดยเฉพาะเวทีเล็ก
มินิไกด์ 60 วินาทีก่อนขึ้นเวที
- เสียบสายกีต้าร์ → DI → มิกเซอร์
- ตั้งเกนตามขั้นตอนข้างบน
- ลองตีคอร์ดแรงสุด เพื่อตรวจไฟพีคและเสียงหวีด
- ปรับอีคิวให้เข้ากับสภาพห้อง
- ลองเพลงที่ดังสุดของเซ็ตอีกครั้ง เพื่อเช็คระดับรวม
ศัพท์น่ารู้สำหรับมือใหม่
- DI Box (กล่องปรับสัญญาณ): กล่องแปลง/ปรับสัญญาณให้นิ่งและเข้ากับมิกเซอร์ได้เหมาะสม
- Notch Filter: ตัวกรองเฉพาะจุดไว้ตัดความถี่ที่ทำให้เกิดเสียงหอน
- Hi‑Z: ช่องต่อสำหรับเครื่องดนตรีที่ออกแบบมาสำหรับสัญญาณแรงต้านสูง
การตั้งค่าเครื่องดนตรีของ กีต้าร์โปร่ง aNueNue MC-15E ให้เล่นง่ายและคงสภาพเสียงดี
- ขนาดสาย: แนะนำเริ่มที่เบอร์ .011–.052 ได้สมดุลระหว่างเสียงเต็มและความสบายมือ ถ้าอยากเบานิ้วขึ้นให้ใช้ .010–.047 แล้ว เช็คอินโทเนชัน (ความตรงคีย์) ใหม่หลังเปลี่ยน
- ความสูงสาย (แอคชัน): ที่เฟร็ต 12—สาย 1 ประมาณ 1.8–2.0 มม. และสาย 6 ประมาณ 2.2–2.5 มม. เป็นค่าตั้งต้นที่เล่นสบายและไม่เกิดเสียงสั่นกระทบเฟร็ต (buzz) ปรับเพิ่ม/ลดตามแรงตีและสไตล์ของคุณ
- ความชื้นและอุณหภูมิ: เก็บกีต้าร์ที่ความชื้นราว 45–55% (RH) ใช้ตัวเพิ่มความชื้นในหน้าหนาว/ห้องแอร์ และใช้ซิลิกาเจลช่วงหน้าฝน เพื่อลดโอกาสคองอหรือหน้าไม้แอ่น
- ดูแลฟิงเกอร์บอร์ด: เช็ดสายทุกครั้งหลังเล่น ใช้น้ำมันเลมอน (Lemon Oil) ปีละ 1–2 ครั้งก็พอ ไม่ควรทาบ่อยจนไม้ชุ่ม
- การเปลี่ยนสาย: เปลี่ยนทุก 1–3 เดือนตามชั่วโมงใช้งาน สายใหม่ให้ประกายปลายแหลมและอินโทเนชันแม่นกว่า เหมาะกับงานอัดเสียง
เช็คลิสต์ก่อนขึ้นเวที (30 วินาที)
- จูนเสียงทุกสาย
- ลองตีคอร์ดจากเบาไปแรงสุด แล้วฟังว่าไม่มีเสียงสั่นกระทบเฟร็ต (บัซ) หรือเสียงหอนจากลำโพง (ฟีดแบ็ก)
- เช็คเกนที่มิกเซอร์อีกครั้ง
- ยืนให้ซาวด์โฮลไม่หันเข้าลำโพงมอนิเตอร์ตรง ๆ
- เตรียมผ้าไมโครไฟเบอร์ไว้เช็ดสายหลังจบเซต
เคล็ดลับอัดเสียงอะคูสติกให้โทนมืออาชีพ
- เลือกไมค์ให้เหมาะ: แนะนำไมค์คอนเดนเซอร์หน้ากะทัดรัด (ไดอะแฟรมเล็ก) เก็บรายละเอียดปลายแหลมได้ดี วางห่างรูซาวด์โฮลประมาณ 20–30 ซม. เล็งบริเวณเฟร็ตที่ 12 จะได้โทนพอดี ไม่ทุ้มอู้
- เทคนิคสองไมค์: ไมค์ตัวแรกเล็งเฟร็ต 12 ไมค์ตัวที่สองจ่อแถวสะพานสาย ปรับระยะให้สัญญาณมาถึงพร้อมกัน (เฟสตรงกัน) ภาพสเตอริโอกว้างและนิ่งขึ้น
- คุมเสียงห้อง: ลดเสียงสะท้อนด้วยแผ่นดูดซับหรือผ้าม่านหนา ๆ เพื่อลดปลายแหลมกระเด้ง ฟังได้นานไม่ล้า
- บันทึกสัญญาณ DI เผื่อไว้: อัดสัญญาณจากปิคอัพเพิ่มอีกหนึ่งแทร็ก ไว้ผสมเติมความชัดช่วงย่านกลาง‑ต่ำตอนมิกซ์
ตัวอย่างการวางไมค์แบบง่าย
- โหมดเดี่ยว: ใช้ไมค์ตัวเดียว เล็งเฟร็ต 12 ห่าง 20–30 ซม. ได้โทนสมดุล
- โหมดสองไมค์: ตัวแรกเล็งเฟร็ต 12 ตัวที่สองแถวสะพานสาย ปรับระยะจากตัวกีต้าร์ให้ใกล้เคียงกันเพื่อให้เฟสตรง
- ถ้าปลายแหลมจ้าไป ขยับไมค์ออกห่างรูซาวด์โฮลหรือเอียงไมค์เล็กน้อย โทนจะนุ่มลง
เปรียบเทียบตัวเลือกในงบใกล้เคียง เพื่อการตัดสินใจที่ตรงสไตล์
ช่วงราคานี้มีไม้ที่ให้คาแรกเตอร์ต่างกันชัดเจน เช่น Cedar ให้โทนอุ่น ดีดเบา ๆ ก็ได้ยินชัด แต่ปลายเสียงไม่คมใสเท่า Spruce; ส่วน Maple ให้เสียงคมชัด เด้ง มีพลัง แต่สำหรับมือใหม่อาจต้องระวังน้ำหนักมือตอนตีคอร์ดเพื่อไม่ให้เสียงแข็งเกินไป รุ่นนี้โดดเด่นที่โทนสมดุลและคอจับสบายจากสเกลที่สั้นกว่า เล่นได้หลายแนวโดยแทบไม่ต้องปรับตัว
สรุปความน่าสนใจของรุ่นนี้
รุ่นนี้ไม่ได้ดีแค่รูปลักษณ์และงานประกอบ เสียงก็ไว้ใจได้ทั้งในห้องซ้อม สตูดิโอ และบนเวทีจริง การจับคู่ไม้สปรูซกับมะฮอกกานีให้ย่านกลางแน่น รายละเอียดปลายชัด ระบบปิคอัพพร้อมใช้งานบนเวที และมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้พร้อมเริ่มเล่น เหมาะกับคนที่อยากได้กีต้าร์ที่ตอบสนองตามน้ำหนักมือ และใช้ต่อเนื่องได้ยาว ๆ
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น