ในโลกของดนตรีร็อกและนีโอคลาสสิก การเลือกกีต้าร์ที่ตอบสนองทั้งความเร็ว ความแม่นยำ และโทนเสียงอันเป็นเอกลักษณ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณเคยได้ยินชื่อของ Yngwie Malmsteen แล้วล่ะก็ คุณจะเข้าใจว่าศิลปินระดับนี้เลือกใช้อะไรเป็นเครื่องมือในการสื่ออารมณ์ผ่านเสียงดนตรี หนึ่งในสิ่งที่ทำให้แฟน ๆ สาย shred สนใจเสมอคือ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Yngwie Malmsteen ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์โมเดลที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์การเล่นระดับมือโปร
โครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วและความแม่นยำ
Yngwie เป็นศิลปินที่โดดเด่นด้วยเทคนิคที่เร็วแรง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ Fender ออกแบบกีต้าร์รุ่นนี้ให้รองรับทุกการเคลื่อนไหวด้วยฟีเจอร์เฉพาะตัว เช่น คอไม้เมเปิลทรง C ที่ให้สัมผัสสบายมือ ผิวคอเคลือบด้วยแลคเกอร์ไนโตรเซลลูโลสบางเฉียบ ทำให้เนื้อไม้หายใจได้และช่วยเพิ่มความกังวานของเสียงได้ดีขึ้น
ฟิงเกอร์บอร์ดรัศมี 9.5 นิ้ว มาพร้อมกับเฟรตขนาด "ซูเปอร์จัมโบ้" ช่วยให้ผู้เล่นสามารถ bend note และ tap ได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องออกแรงมากนัก
ฟิงเกอร์บอร์ดแบบขุดเว้าบน กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Yngwie Malmsteen
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้กีต้าร์ซิกเนเจอร์รุ่นนี้ แตกต่างจากกีต้าร์รุ่นอื่นคือฟิงเกอร์บอร์ดแบบขุดเว้า (scalloped fingerboard) ซึ่งออกแบบให้ปลายนิ้วสัมผัสเฉพาะสายโดยไม่แตะพื้นไม้ ทำให้การดันสาย (bending), เทคนิค pull-off (การดีดสายแบบปล่อยนิ้ว) หรือการเล่น tapping นุ่มนวลและแม่นยำขึ้น
สำหรับมือกีต้าร์ที่ชื่นชอบการเล่นเร็วหรือสาย shred การมีฟิงเกอร์บอร์ดแบบนี้เปรียบเสมือนการปลดล็อกพลังของเทคนิคขั้นสูง
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์จากปิ๊กอัป Seymour Duncan YJM Fury
กีต้าร์รุ่นนี้ติดตั้งปิ๊กอัป Seymour Duncan YJM Fury แบบซิงเกิลคอยล์สามตัว ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของ Fender และความดุดันของสายเมทัล เสียงที่ได้จึงชัดเจนแต่ยังคงความอบอุ่น ไม่ว่าจะเล่นโซโล่แรง ๆ หรือไลน์เมโลดี้เบา ๆ ก็ยังให้คาแรกเตอร์ที่มั่นคง
และแม้ว่าจะเป็นปิ๊กอัปซิงเกิลคอยล์ แต่ YJM Fury ถูกออกแบบให้ลดเสียงรบกวน ทำให้สามารถใช้งานในระดับเสียงสูงโดยไม่ต้องกลัว feedback
Brass Nut และการ sustain ที่น่าประทับใจ
กีต้าร์รุ่นนี้ติดตั้งนัททองเหลือง (Brass Nut) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้เสียงมีความสว่าง คมชัด และเพิ่มการ sustain ของโน้ตให้ยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในการเล่นแบบ legato หรือ arpeggio
นอกจากนี้ยังเสริมด้วยสะพานสายแบบ tremolo สไตล์วินเทจ ซึ่งเข้ากับ aesthetic ของรุ่นนี้ได้อย่างลงตัว
กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Yngwie Malmsteen ที่นักดนตรีร็อก ไม่ควรมองข้าม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหากีต้าร์ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการเล่นจริงและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น กีต้าร์ซิกเนเจอร์ของ Yngwie Malmsteen จึงเป็นคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะใช้ในห้องอัดหรือบนเวที กีต้าร์รุ่นนี้สามารถถ่ายทอดทุกอารมณ์ของดนตรีได้อย่างชัดเจน
ความพิถีพิถันในการเลือกวัสดุ การออกแบบเฉพาะตัว และการปรับจูนโทนเสียงให้มีเอกลักษณ์ ทำให้มันไม่ใช่แค่กีต้าร์ แต่เป็นเครื่องดนตรีที่สามารถสื่อสารตัวตนของผู้เล่นออกมาได้อย่างเต็มที่
เล่นจริง สัมผัสจริง แล้วจะเข้าใจ
หลายคนอาจคิดว่ากีต้าร์ซิกเนเจอร์เป็นเพียงการตลาดหรือดีไซน์เฉพาะตัวเท่านั้น แต่สำหรับรุ่นนี้คือความสมดุลของศิลปะและการใช้งาน เมื่อคุณได้ลองสัมผัสจริง จะรู้ทันทีว่าทำไม Yngwie Malmsteen ถึงเลือกกีต้าร์ตัวนี้เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างสรรค์ดนตรีระดับโลก
คลิป YouTube
เครดิต : musicconceptthailand
รายละเอียดของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Yngwie Malmsteen ที่นักดนตรีมืออาชีพให้ความสำคัญ
- ระยะห่างของสายกับฟิงเกอร์บอร์ดถูกออกแบบมาให้ต่ำพิเศษ ช่วยให้การเล่นเร็วไม่สะดุด
- การตั้งค่าแอคชันจากโรงงานถูกจูนมาเพื่อรองรับเทคนิคพิเศษ เช่น arpeggio และ sweep picking
- น้ำหนักของกีต้าร์บาลานซ์พอดีกับไหล่ ทำให้สามารถเล่นบนเวทีนาน ๆ ได้โดยไม่เมื่อยล้า
- การจูนเสียงของปิ๊กอัปทั้งสามตัวให้บาลานซ์กันทุกตำแหน่ง ช่วยให้เปลี่ยนโหมดเสียงได้อย่างราบรื่น
วัสดุระดับพรีเมียมของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Yngwie Malmsteen
- ตัวบอดี้ใช้ไม้แอชคุณภาพสูงที่ให้เสียงกลางชัดเจน และมีความทนทานต่อความชื้น
- ลูกบิดวินเทจที่มีระบบล็อกช่วยให้เสียงคงที่ ไม่เพี้ยนแม้ใช้งาน tremolo หนัก ๆ
- การเคลือบแลคเกอร์แบบไนโตรเซลลูโลสช่วยให้เนื้อไม้ไม่ถูกปิดทึบจนเกินไป ทำให้เสียงที่ออกมามีมิติเสียงที่โปร่ง เปิด และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เคล็ดลับการดูแลรักษาให้เสียงยอดเยี่ยมยาวนาน
- หลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในที่ชื้นหรือโดนแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้ไม้บิดตัวหรือสีซีด
- ใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟิงเกอร์บอร์ดและสายทุกครั้งหลังเล่น เพื่อลดการสะสมของเหงื่อและคราบสกปรก
- เปลี่ยนสายเป็นประจำตามความถี่ในการเล่น เพื่อให้เสียงสดใหม่อยู่เสมอ
- ตรวจสอบความแน่นของสกรูบริเวณนัทและลูกบิดเป็นระยะ เพื่อป้องกันเสียงเพี้ยนจากการคลายตัว
ความคุ้มค่าสำหรับนักสะสมและนักดนตรี
- รุ่นนี้มีความเป็นซิกเนเจอร์แท้ ๆ จากศิลปินระดับตำนาน ซึ่งทำให้มีมูลค่าในเชิงสะสม
- มีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป หากดูแลรักษาอย่างดี
- ถือเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถใช้งานจริงได้ดีเยี่ยม และยังเป็นของสะสมที่มีเรื่องราวในตัว
- มาพร้อมอุปกรณ์เสริมจากโรงงาน เช่น กล่องแข็งพิเศษและคู่มือรับประกัน ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในการลงทุน
การปรับแต่งเพิ่มเติมสำหรับผู้เล่นขั้นสูง
- ผู้เล่นบางคนเลือกติดตั้ง saddle แบบ titanium เพื่อเพิ่มการสั่นสะเทือนของสายให้ยาวนานขึ้น
- การอัปเกรดคาปาซิเตอร์ในวงจร tone control สามารถปรับโทนเสียงให้ตอบสนองต่อแนวเพลงเฉพาะได้ดีขึ้น
- มีผู้ใช้บางกลุ่มปรับการตั้งคอ (neck relief) ให้แบนกว่าค่ามาตรฐาน เพื่อการเล่นแบบ shred ที่แม่นยำ
- การใช้สายเคลือบ (coated string) ยังช่วยให้เสียงคงที่ได้นานขึ้น โดยไม่กระทบกับความรู้สึกในการเล่น
ความสามารถในการเล่นหลากหลายแนวเพลง
- ด้วยปิ๊กอัป Seymour Duncan YJM Fury ที่ปรับจูนมาอย่างพิถีพิถัน กีต้าร์รุ่นนี้จึงเหมาะกับแนวร็อก คลาสสิกเมทัล และนีโอคลาสสิก
- ฟิงเกอร์บอร์ดแบบขุดเว้าและเฟรตซูเปอร์จัมโบ้ช่วยให้เล่นโซโล่ได้ลื่นไหลในแนวฟิวชันและโปรเกรสซีฟ
- คอนโทรลโทนแบบ No-load ให้เสียงที่เปิดกว้าง เหมาะกับการเล่นไลน์เมโลดี้ในแนวแจ๊สหรือบลูส์
- ระบบ tremolo สไตล์วินเทจทำให้เล่นเทคนิค vibrato หรือ dive bomb ได้อย่างแม่นยำ โดยไม่เพี้ยนเสียง
สรุปสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกกีต้าร์คุณภาพสูง
- กีต้าร์รุ่นนี้เหมาะกับทั้งนักดนตรีสายอาชีพและผู้ที่หลงใหลในเสียงที่มีเอกลักษณ์
- ไม่เพียงให้โทนเสียงที่เหนือระดับ แต่ยังช่วยผลักดันศักยภาพของผู้เล่นไปอีกขั้น
- หากคุณชื่นชอบแนวร็อก นีโอคลาสสิก หรือเมทัล การมีเครื่องดนตรีที่ตอบสนองทุกเทคนิคคือสิ่งสำคัญ
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น