กีต้าร์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ไม่เพียงแต่สร้างเสียงเพลง แต่ยังสะท้อนบุคลิกและเอกลักษณ์ของผู้เล่นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในรุ่น กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Alex Lifeson Axcess ที่ถูกออกแบบขึ้นจากการร่วมมือกับศิลปินระดับตำนานของวงการ Progressive Rock อย่าง Alex Lifeson มือกีต้าร์แห่งวง Rush การออกแบบและรายละเอียดของกีต้าร์รุ่นนี้ไม่เพียงให้โทนเสียงที่คลาสสิก แต่ยังเพิ่มความสามารถเชิงเทคนิคที่ตอบโจทย์นักดนตรีในทุกสไตล์การเล่น
Alex Lifeson กับแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลัง กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Alex Lifeson Axcess
การสร้างกีต้าร์รุ่นนี้เริ่มต้นจากการถ่ายทอดเอกลักษณ์การเล่นที่เฉียบคมและทรงพลังของ Alex Lifeson นักกีต้าร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตำนานของแนว Progressive Rock เสียงที่ได้จากรุ่นนี้จึงไม่เพียงแต่ชัดเจนในโทน Les Paul ดั้งเดิม แต่ยังมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับทั้งการเล่นโซโล่ที่ต้องการความแม่นยำและการเล่นริธึ่มที่หนักแน่น ช่วงคอเจียรเว้าแบบ Axcess Contour Heel ยังช่วยให้เข้าถึงเฟรตบนได้ง่าย เหมาะสำหรับมือกีต้าร์ที่ต้องการความคล่องตัว
รายละเอียดวัสดุและงานประกอบที่พิถีพิถัน
วัสดุที่เลือกใช้ในรุ่นนี้ล้วนผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน บอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานีที่ให้ความหนาแน่นและโทนเสียงอบอุ่น เสริมด้วยไม้เมเปิลเกรด AAAA Quilt Maple Veneer ที่ให้ลวดลายสวยงามและเพิ่มความสว่างให้กับเสียง คอแบบเซ็ตเน็ค (Set Neck) เพื่อถ่ายทอดการสั่นสะเทือนของสายได้เต็มที่ ฟิงเกอร์บอร์ดไม้ Ebony ที่มีความแข็งแรงและให้สัมผัสเรียบลื่นเหมาะสำหรับการเล่นทั้งคอร์ดและโซโล่
อินเลย์บล็อกใหญ่ (Large Block) เพิ่มความหรูหรา ขอบบอดี้และหัวกีต้าร์ตกแต่งด้วย ไบดิงหลายชั้น (Binding หลายชั้น) งานประกอบทั้งหมดเคลือบด้วย ผิวเคลือบเงา (Gloss Finish) ที่ทำให้กีต้าร์ดูหรูหราและทนทานต่อการใช้งานระยะยาว
ฮาร์ดแวร์และระบบไฟฟ้าที่พร้อมรองรับการแสดงสด
ในด้านฮาร์ดแวร์ รุ่นนี้มาพร้อม บริดจ์ Floyd Rose 1000 Series ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเสถียรในการดันคันโยกโดยไม่ทำให้สายเพี้ยน พร้อมน็อตล็อก Floyd Rose R4 Locking Nut ช่วยรักษาความแม่นยำในการจูนสายได้อย่างดี หัวลูกบิดใช้ Grover Rotomatic ที่มีชื่อเสียงด้านความเสถียรและความเที่ยงตรง
📝 เช็คราคา-โปรล่าสุด ✅
👉 Lazada > เช็คราคาที่ Lazada
👉 Shopee > เช็คราคาที่ Shopee
สำหรับปิกอัพ กีต้าร์รุ่นนี้ติดตั้ง Epiphone Ceramic Pro ที่ตำแหน่งคอ และ Epiphone Probucker 3 ที่ตำแหน่งบริดจ์ สามารถดึงศักยภาพสูงสุดออกมาได้ทั้งโทนเสียงอบอุ่นและโทนเสียงพุ่งแรง อีกทั้งยังมีระบบ Push/Pull coil splitting และ Phase Switching ที่เพิ่มความหลากหลายทางเสียง ทำให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งโทนได้ตามต้องการ
การใช้งานและความเหมาะสมของผู้เล่น
กีต้าร์รุ่นนี้ตอบโจทย์นักดนตรีที่ต้องการเครื่องดนตรีที่มีความยืดหยุ่นและพร้อมสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมในห้องอัด การแสดงสด หรือการบันทึกเสียงในสตูดิโอ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการรวมเอาโทนเสียงคลาสสิกแบบ Les Paul เข้ากับฟังก์ชันสมัยใหม่ที่ทำให้ผู้เล่นมีอิสระทางดนตรีมากขึ้น ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งนักดนตรีมืออาชีพและผู้ที่หลงใหลในเสียงดนตรีคุณภาพสูง
ความคุ้มค่าที่ได้รับจาก กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Alex Lifeson Axcess
เมื่อเปรียบเทียบกับกีต้าร์รุ่นอื่นในระดับเดียวกัน รุ่นนี้มอบทั้งคุณภาพของวัสดุ งานประกอบ และความสามารถเชิงเทคนิคที่ครบถ้วน ราคาที่จับต้องได้มากกว่ากีต้าร์ระดับ Custom Shop ของแบรนด์ Gibson แต่ยังคงคุณภาพเสียงและความรู้สึกในการเล่นที่ใกล้เคียง ทำให้กีต้าร์รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเสียงระดับมืออาชีพในงบประมาณที่เหมาะสม
แนวทางตั้งค่า Floyd Rose 1000 ให้เสถียร สำหรับ กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Alex Lifeson Axcess
- ตรวจสอบให้ฐานบริดจ์ขนานกับผิวบอดี้ก่อนล็อกสกรู ตั้งสปริงด้านหลังให้สมดุลกับแรงดึงของสาย
- ค่อย ๆ ขันน็อตตั้งสปริงทีละครึ่งรอบแล้วเช็กเสียงเพี้ยนหลังดันคันโยก เพื่อหาจุดที่กลับมาตั้งตรงได้เร็วที่สุด
- ล็อกน็อตที่คอ (locking nut) ด้วยแรงพอดี หลีกเลี่ยงการขันแน่นเกินไปเพื่อลดโอกาสสกรูเสียหาย
- ยืดสายใหม่ทุกเส้นด้วยการดึงเบา ๆ หลายครั้งก่อนล็อกน็อต จะช่วยให้เสถียรภาพการจูนดีขึ้นมาก
- ใช้ที่รองคันโยก/ยางกันกระแทกเพื่อลดเสียงคลอน และตรวจเช็กสกรูยึดแซดเดิล (saddle) เป็นระยะ
- หลีกเลี่ยงสารหล่อลื่นที่เหนียวบนจุดสัมผัสของฟรอยด์โรส ใช้เพียงน้อยมากเฉพาะจุดที่จำเป็น
ตั้ง Action และ Intonation แบบย่อ
- ตั้งความโค้งคอ (truss rod relief) ให้พอดีโดยวัดที่เฟรต 7–9 ก่อน ตั้ง Action ที่สะดวกมือและไม่บัซ
- ปรับ Intonation โดยเทียบเสียงที่เฟรต 12 ให้ตรงกับฮาร์มอนิก ถ้าโน้ตสูงไป ให้เลื่อนแซดเดิลถอยหลัง
- ตรวจซ้ำหลังล็อกน็อตที่คอและลองใช้คันโยกหลายครั้งเพื่อเช็กความนิ่งของโทน
บุคลิกเสียงของปิกอัพ Ceramic Pro และ ProBucker 3 ใน กีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Alex Lifeson Axcess
คลิป YouTube
เครดิต : musicconceptthailand
- ตำแหน่งคอ (Ceramic Pro): เก็บรายละเอียดโน้ตชัด เบสกระชับ เหมาะกับโซโล่เมโลดิกและคลีนอุ่น ๆ ที่ยังคม
- ตำแหน่งบริดจ์ (ProBucker 3): โทนพุ่ง กลางเด่น ตัดมิกซ์ง่าย เหมาะกับริธึ่มร็อกและโซโล่สปีดสูง
- โหมด coil-split: ลดความหนาให้ใสขึ้น ใช้กับคอร์ดแตกเสียงหรือฟังก์/ป็อปที่ต้องการการแยกตัวของโน้ต
- โหมดเฟส (phase) ที่ตำแหน่งคอ: ให้โทนบางมีโทนจิกกลาง เหมาะกับท่อนที่ต้องการคาแรกเตอร์เฉพาะแบบวินเทจนิด ๆ
- ผสมตำแหน่งคอ+บริดจ์ในคลีน: ได้ความกว้างเสียงที่ดีสำหรับอาร์เปจิโอและคอมป์จังหวะ
- เกนสูง: ใช้บริดจ์เป็นหลัก เพิ่ม noise gate เล็กน้อยเพื่อรักษาความเงียบในช่วงหยุดเล่น
เคล็ดลับโหมด Push/Pull ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- ใช้ coil-split ที่ตำแหน่งคอสลับกับคอรัส / ดีเลย์เพื่อคอมป์ใส ๆ ในท่อนเวิร์ส
- ดึง phase สำหรับริฟฟ์ที่ต้องการตัดความหนาในมิกซ์ โดยเฉพาะเมื่อมีคีย์บอร์ด/ซินธ์อยู่ด้วย
- โซโล่สะบัดคันโยก: เริ่มที่บริดจ์โหมดฮัมบัคเกอร์ จากนั้นสลับคอในช่วงจบเพื่อโทนอิ่มขึ้น
- บันทึกคู่ไมค์ (double tracking): อัดสองแทร็ก: แทร็กหนึ่งใช้โหมดฮัมบัคกิ้ง อีกแทร็กใช้โหมดสปลิต จะได้เลเยอร์ที่แยกกันชัดเจน
- ลูกเล่นสไตล์คันทรี: ใช้คันโยกยกเบา ๆ แทนการเบนด์บางช่วงให้ไล่ระดับเสียงเนียน
- ไลฟ์สด: ตั้งพรีเซ็ตบนแอมป์/มัลติเอฟเฟคแยกสำหรับโหมด split/ฮัมบัคเพื่อสลับเร็ว
การดูแลฟิงเกอร์บอร์ด Ebony และงานเคลือบ Gloss
- เช็ดเหงื่อ/คราบทุกครั้งหลังเล่น ลดโอกาสเกิดฝ้าบนผิวเคลือบและสนิมที่ฮาร์ดแวร์สีทอง
- ฟิงเกอร์บอร์ด ebony ให้ทาน้ำมันบำรุงเฉพาะเมื่อแห้งจริง ๆ ปีละ 1–2 ครั้ง และใช้ปริมาณน้อย
- รักษาความชื้นห้องที่ ~45–55% เพื่อความเสถียรของคอและเฟรต
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่ม ๆ หลีกเลี่ยงสารขัดหยาบที่จะทำให้ผิวเงาด้านลง
- ถอดสายทำความสะอาดทีละคู่เพื่อลดแรงเปลี่ยนสมดุลของฟรอยด์โรส
- เก็บในเคสแข็งเมื่อไม่ใช้งาน ป้องกันความชื้นและแรงกระแทก
จับคู่กับแอมป์และเอฟเฟคให้ได้โทนกว้าง
- แอมป์โทนแบบอังกฤษ (British voicing): ได้ริธึ่มกลางเด่นและโซโล่พุ่ง เหมาะกับร็อกคลาสสิก/โปรเกรสซีฟ
- แอมป์โทนสมัยใหม่ (modern): เฮดรูมสูงและเกนหนา ใช้กับบริดจ์ปิกอัพเพื่อแนวโมเดิร์นเมทัล/ฮาร์ดร็อก
- การเรียงเอฟเฟคแบบพื้นฐาน: คอมเพรสเซอร์ → โอเวอร์ไดรฟ์/ดิสทอร์ชัน → มอดูเลชัน → ดีเลย์ → รีเวิร์บ
- โอเวอร์ไดรฟ์เบลนด์ต่ำ เพื่อคงไดนามิกของมือขวา โดยเฉพาะในโหมด split
- คอรัส / ฟลานเจอร์เบา ๆ ช่วยเปิดสเตริโอฟิลด์ในคลีน และไม่กลบรายละเอียดปิกอัพคอ
- ตั้งเวลาดีเลย์ (Delay Time) 380–450 ms และตั้ง Feedback ต่ำสำหรับโซโล่ ให้โน้ตเด่นและไม่รกมิกซ์
สายเบอร์ 10–46 กับการบาลานซ์สปริง
- ค่าโรงงาน 10–46 ให้ความตึงสมดุลกับสปริงมาตรฐาน 2–3 ตัว ตั้งมุมบริดจ์ให้ขนานบอดี้เป็นหลัก
- ถ้าจะอัปเป็น 11–48 เพิ่มแรงสปริงด้านหลังและตรวจตั้ง Intonation ใหม่ทุกสาย
- ดรอป D: ตั้งให้ฟรอยด์โรสบาลานซ์ก่อน แล้วใช้ตัวล็อกหยุดคันโยก (tremolo stopper) หากต้องสลับโหมดบ่อย
- สำรองคันชดเชย (tremolo stopper) สำหรับงานไลฟ์ เพื่อคงจูนเมื่อสายขาดฉุกเฉิน
- ใช้ลูกบิดจูนละเอียดบนบริดจ์หลังล็อกน็อตเพื่อความแม่นยำจูนระหว่างเพลง
- หมั่นตรวจนอตยึดแซดเดิลและสกรูฐานบริดจ์เป็นระยะเพื่ออายุการใช้งานยาวนาน
จุดต่างสำคัญเมื่อเทียบกับเลสพอลบริดจ์คงที่
- คอทรง Rounded + Axcess heel ช่วยเข้าถึงเฟรตบนได้ง่ายกว่าเลสพอลปกติ
- ฟรอยด์โรสให้ลูกเล่นพิเศษและสไตล์การเล่นที่ต่างจาก Tune‑o‑matic
- ระบบ push/pull และสวิตช์ phase เพิ่มสำเนียงได้หลายยุคสมัยในตัวเดียว
- งาน binding หลายชั้นและฮาร์ดแวร์สีทองให้ภาพลักษณ์หรูหราในเวที
- เคสแข็งแถมมาด้วย เหมาะกับนักดนตรีที่เดินทางบ่อยและต้องการปกป้องเครื่องมือ
- เหมาะทั้งการอัดเสียงและเวทีจริง ด้วยโทนที่คุมได้ตั้งแต่ใสสะอาดถึงเกนจัด
สรุปคุณค่าของเครื่องดนตรีที่เหนือชั้น
เครื่องดนตรีรุ่นนี้คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสวยงาม ความคล่องตัว และคุณภาพเสียงในระดับสูงสุด เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการความยืดหยุ่นในการสร้างสรรค์ผลงาน และยังเป็นตัวแทนที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ดนตรีของศิลปินกับความเป็นเลสพอลแบบดั้งเดิม หากคุณกำลังมองหากีต้าร์ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการทางเสียงและการเล่น รุ่นนี้คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น