การเลือกเครื่องดนตรีไม่ใช่แค่มองหาเสียงที่ถูกใจ แต่คือการหาคู่มือที่เล่นสบาย คุมโทนง่าย และอยู่กับเราได้นาน สำหรับผู้ที่อยากได้เบส 5 สายที่ครบทั้งความนิ่งของเสียง วัสดุพรีเมียม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับได้กว้าง เบสไฟฟ้า Ibanez EHB1675MS เป็นตัวเลือกที่ควรลองอย่างยิ่ง จุดเด่นคือดีไซน์แบบ headless (ตัดส่วนหัว ไม่มีลูกบิดอยู่บนหัวคอ) ทำให้สมดุลทั้งตัวดีขึ้น น้ำหนักเบาลง เคลื่อนไหวบนเวทีคล่องขึ้น และยังคงความสบายมือในการซ้อมยาว ๆ หรืออัดเสียงในสตูดิโอ
จุดเด่นด้านการออกแบบและสรีรศาสตร์
ความพิเศษแรกคือโครงสร้าง headless ช่วยลดน้ำหนักส่วนหัวและอาการล้าบริเวณไหล่/คอเมื่อยืนเล่นนาน ๆ บอดี้ไม้ Ash ให้โทนกลางชัดและปลายแหลมเปิด เมื่อประกบไม้หน้า Pale Moon Ebony ที่มีลายสวยเป็นธรรมชาติ เสียงที่ได้จึงนิ่ง เคลียร์ และมีรายละเอียดมากขึ้น งานเซาะเว้าบอดี้ (contour) โอบรับลำตัว ทำให้นั่งเล่นไม่ลื่น และยืนเล่นตำแหน่งมือซ้าย‑ขวาอยู่ในมุมถนัด การบาลานซ์ที่ดีช่วยให้เอื้อมถึงเฟร็ตบนสุดได้โดยไม่ต้องยกคอเครื่องให้เมื่อยมือ
วัสดุและงานไม้เชิงลึกของ เบสไฟฟ้า Ibanez EHB1675MS
คอเป็นชั้นไม้ผสม Panga Panga/Walnut แบบหลายชั้น เสริมด้วยแกน Graphite reinforcement rods (แท่งไฟเบอร์คาร์บอน) เพื่อต้านการบิดตัวจากแรงตึงของสายและสภาพอากาศ ฟิงเกอร์บอร์ด Panga Panga ให้ย่านกลางแน่นคม อินเลย์ Off‑set Abalone ช่วยมองตำแหน่งชัดแต่ไม่รกตา เฟร็ตเป็น Medium Stainless Steel ทนสึกสูง เล่นสไลด์และดันสายได้ลื่น ลดโอกาสเกิดเสียงสายกระทบเฟร็ต (buzz) เมื่อเซ็ตแอคชันต่ำ
บริดจ์ MR5HS ปรับระยะสาย (string spacing) ได้ 18 มม. จับนิ้วขวาถนัดทั้งการดีดสลับนิ้ว (index‑middle) และเทคนิคอื่น ๆ การตั้งสเกลชดเชยความยาวสาย (intonation) ทำได้ละเอียด ช่วยให้นิยามโน้ตชัดตั้งแต่ย่านต่ำจนถึงย่านสูง
มัลติสเกล 35″–33″ และผลต่อโทนของ เบสไฟฟ้า Ibanez EHB1675MS
สเกลหลายความยาว (multi‑scale) ไล่จาก 35 นิ้วที่สาย B ไปถึง 33 นิ้วที่สาย G ช่วยให้สายล่างตึงพอดี เสียงโน้ตต่ำชัด ไม่บวมและไม่ย้วย ขณะที่สายบนสั้นลงทำให้เล่นเมโลดี้ คอร์ด หรือไลน์เร็ว ๆ ได้สบายมือกว่า 34 นิ้วมาตรฐาน รัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 500mmR ค่อนข้างแบน จึงจิ้มโน้ตเร็วและสไลด์ยาว ๆ ได้ดี โดยยังคุมสบายมือเมื่อเล่นนาน ๆ
ระบบอิเล็กทรอนิกส์: ปรับโทนได้กว้างและเงียบสนิท
ปิคอัพ Fishman Fluence ทั้งคอและบริดจ์ให้สัญญาณนิ่งและเงียบ จุดเด่นคือสวิตช์ 3‑way Voice Select ที่สลับ “บุคลิกเสียง” ได้ 3 แบบ และสวิตช์ Single‑coil mode (push/pull) เพื่อโทนใส โปร่ง คล้ายปิคอัพซิงเกิลคอยล์ แต่ยังคุมสัญญาณรบกวนได้ ปรีแอมป์ 3‑band EQ ช่วยจูนย่านต่ำ‑กลาง‑แหลมให้เข้ากับห้องหรือเวทีได้รวดเร็ว จะเอาโทนหนาแน่นสำหรับกรูฟ หรือโทนคมตัดมิกซ์สำหรับเพลงร็อคก็ทำได้ง่าย สายโรงงาน D’Addario EXL170‑5SL (.045–.130) จับคู่กับมัลติสเกลได้ลงตัว คุมการสั่นและแรงตึงได้พอดีมือ
การตั้งค่าเสียงของ เบสไฟฟ้า Ibanez EHB1675MS สำหรับเวทีสด
สูตรตั้งต้นที่ทำให้โดดเด่นในมิกซ์: เพิ่มย่านกลางเล็กน้อย ลดต่ำสุดที่เกินจำเป็นเพื่อไม่ชนกับกลองใหญ่ เลือก Voice ที่ให้จุดกระแทก (attack) ชัดเมื่อเล่นแนวร็อค/เมทัล ส่วนป๊อปหรือฟิวชัน ลองเปิด Single‑coil mode เพื่อให้ปลายเสียงโปร่งและตอบสนองไดนามิกมากขึ้น จากนั้นค่อยเพิ่มย่านแหลมนิดเดียวเพื่อลดการทับกับเสียงฉาบ วิธีนี้ช่วยให้ไม่ต้องเร่งวอลุ่มจนเสียงรวมมั่ว
คลิป YouTube
เครดิต :
Lukas Kaminski
การใช้งานบนเวทีและในสตูดิโอด้วย เบสไฟฟ้า Ibanez EHB1675MS
บนเวที สิ่งที่รู้สึกได้ชัดคือความคล่องตัวจากดีไซน์ headless และสัญญาณที่เงียบ ทำให้ใช้เอฟเฟ็กต์หรือต่อ DI เข้าแผงมิกซ์ได้มั่นใจ ในสตูดิโอ เสียงไดเร็กต์ที่ได้ครบย่านและนิยามโน้ตชัด ช่วยให้วางเบสในมิกซ์ง่าย ไม่ต้องแก้ EQ หนัก ๆ และยังตอบสนองต่อคอมเพรสเซอร์/ปลั๊กอินต่าง ๆ ได้ดี
การตั้งค่าและการดูแลรักษา
- คอและแอคชัน: ตั้งระยะโค้งคอ (relief) เล็กน้อยเพื่อลด buzz แล้วค่อยลดความสูงสาย (action) ทีละขั้นจนสบายมือ
- สเกลชดเชย (intonation): ใช้สกรูบริดจ์ MR5HS ปรับความยาวสายให้ตรงกับสเกลจริง โดยเฉพาะสาย B ซึ่งไวต่อความคลาดเคลื่อน
- สายและเบอร์สาย (ความหนาของสาย): เซ็ตโรงงาน .045–.130 เป็นจุดเริ่มที่ดี หากจูนต่ำหรือดีดแรงมาก เปลี่ยนสายล่างเป็น .135 เพื่อคุมความย้วย
- การทำความสะอาด: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทุกครั้งหลังเล่น ฟิงเกอร์บอร์ด Panga Panga ให้น้ำมันดูแลเล็กน้อยเป็นครั้งคราวเพื่อคงความชุ่มชื้น
- เฟร็ตสเตนเลส: ทนสึกสูง แต่ควรใช้น้ำยาสำหรับสเตนเลสเมื่อขัดเงา หลีกเลี่ยงกระดาษทรายหยาบ
สเปกหลักโดยสรุป
- คอ: Panga Panga/Walnut + Graphite reinforcement rods
- ฟิงเกอร์บอร์ด: Panga Panga, อินเลย์ Off‑set Abalone
- เฟร็ต: Medium Stainless Steel, 24 เฟร็ต
- บอดี้: Ash + ไม้หน้า Pale Moon Ebony
- บริดจ์: MR5HS, ระยะสาย 18 มม.
- ปิคอัพ: Fishman Fluence (คอ/บริดจ์), Active
- อีคิว: Fishman 3‑band EQ, Single‑coil mode (push/pull), 3‑way Voice select
- สายโรงงาน: D’Addario EXL170‑5SL (.045/.065/.080/.100/.130)
- สเกล: 35"–33" Multi‑scale, รัศมีบอร์ด 500mmR
- สีฮาร์ดแวร์: Black
เปรียบเทียบกับเบสมาตรฐานสเกล 34 นิ้ว
เมื่อเทียบกับเบส 5 สายสเกล 34 นิ้ว ความได้เปรียบที่เห็นชัดคือความนิ่งของสาย B จากสเกล 35 นิ้ว เสียงโน้ตต่ำจึงกระชับและล็อกกับกลองใหญ่ได้ดี ดีไซน์ headless ทำให้ทรงตัวเวลายืนเล่นดีและเปลี่ยนท่าทางได้คล่อง ส่วนระบบ Fishman Fluence ให้ตัวเลือกโทนกว้างกว่าปิคอัพพาสซีฟทั่วไป เหมาะกับนักดนตรีที่ต้องสลับแนวเพลงในหนึ่งโชว์บ่อย ๆ
ใครเหมาะกับรุ่นนี้
- มืออาชีพที่ต้องการความเสถียร เล่นเวที/ทัวร์เป็นประจำ
- สตูดิโอหรือนักบันทึกเสียงที่ต้องการสัญญาณนิ่ง ปรับโทนเร็ว ลดเวลาบันทึกซ้ำ
- ผู้เล่นที่ชอบเทคนิคสมัยใหม่ เช่น เดินสายนาน ๆ เล่นคอร์ด/แท็ป/โค้งเสียง ที่ต้องการโน้ตชัดทุกย่าน
- ผู้เริ่ม‑ถึงก้าวหน้า ที่อยากได้เครื่องมืออยู่กับเราไปได้ยาว ไม่ต้องอัปเกรดบ่อย
เคล็ดลับการจูนโทนให้โดดเด่นในมิกซ์
เริ่มจากเพิ่มย่านกลางเล็กน้อยเพื่อนิยามตัวโน้ต ตัดย่านต่ำที่ต่ำมาก ๆ เมื่อเล่นร่วมกับคิกกลองหนา เพื่อลดความถี่ทับซ้อน เลือก Voice ให้เข้ากับเพลงทีละเพลง แล้วจดค่าที่ชอบเป็นพรีเซ็ตไว้ จะช่วยรับมือสภาพเวทีที่เปลี่ยนทุกวันได้อย่างเป็นระบบ
สรุปภาพรวม
เมื่อนำโครงสร้าง headless ความตึงสายแบบมัลติสเกล และความยืดหยุ่นจากระบบ Fishman Fluence มารวมกัน คุณจะได้เครื่องดนตรีที่พร้อมสำหรับงานทุกรูปแบบ ตั้งแต่ห้องซ้อมเล็ก ๆ ไปจนถึงเวทีใหญ่ระดับมืออาชีพ เล่นง่าย คุมเสียงได้กว้าง และให้ความรู้สึกมั่นใจทุกครั้งที่หยิบขึ้นมา
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น