สำหรับนักดนตรีผู้รักการเดินทาง ผู้ที่มองหากีต้าร์คู่ใจที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการเครื่องดนตรีที่มีขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงมอบโทนเสียงที่ยอดเยี่ยมและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น Taylor GS Mini-e Koa Plus คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้ารุ่นนี้จาก Taylor Guitars ตระกูล GS Mini อันโด่งดัง ไม่เพียงแต่จะมีขนาดที่เหมาะมือและง่ายต่อการพกพาเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเสน่ห์อันน่าหลงใหลของไม้ Koa ทั้งตัว ทำให้มันไม่ใช่แค่เครื่องดนตรี แต่เป็นงานศิลปะที่มีชีวิตชีวา
ด้วยแผ่นหน้าเป็นไม้ Koa แท้ (Solid Koa Top) และด้านหลัง/ด้านข้างเป็นไม้ Koa แบบ Layered ทำให้ Taylor GS Mini-e Koa Plus มอบโทนเสียงที่ใส กังวาน และมี Dynamic ที่น่าทึ่ง ไม่ว่าคุณจะกำลังนั่งเล่นบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย หรือร่วมบรรเลงเพลงกับเพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งขึ้นแสดงบนเวที กีต้าร์ตัวนี้ก็พร้อมตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ ยิ่งไปกว่านั้น การเคลือบผิวที่สวยงามยังช่วยขับเน้นลวดลายอันงดงามของไม้ Koa ให้โดดเด่นสะดุดตา เสริมด้วยภาคไฟฟ้าในตัวที่ช่วยให้การเสียบปลั๊กและเล่นเป็นไปอย่างง่ายดายทุกที่ที่เส้นทางดนตรีของคุณนำพาไป และเพื่อการปกป้องที่เชื่อถือได้ มันยังมาพร้อมกับ Aerocase ที่แข็งแรงทนทานอีกด้วย
รูปทรง GS Mini: เล็กพริกขี้หนู แต่เสียงไม่เล็กตามตัว
หัวใจสำคัญที่ทำให้กีต้าร์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายคือรูปทรง GS Mini อันเป็นเอกลักษณ์ของ Taylor ซึ่งเป็นการย่อส่วนจากรูปทรง Grand Symphony (GS) ขนาดมาตรฐานของ Taylor แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติทางเสียงที่น่าประทับใจ:
- ขนาดกะทัดรัด: การออกแบบที่ลดขนาดลงทำให้เครื่องดนตรีชิ้นนี้พกพาได้ง่าย เหมาะสำหรับนักเดินทาง นักดนตรีที่เล่นในพื้นที่จำกัด หรือแม้แต่นักเรียนที่กำลังมองหากีต้าร์สำหรับฝึกซ้อม
- เสียงอันทรงพลัง: แม้จะมีขนาดเล็ก แต่กีต้าร์ GS Mini Koa Plus กลับให้เสียงที่ "ใหญ่เกินตัว" ด้วยการออกแบบ Bracing ที่ชาญฉลาดและคุณภาพของไม้ที่ใช้ ทำให้เสียงที่ออกมามีความกังวาน Resonance ที่ดี และ Project เสียงได้ดีเยี่ยม
- ความสบายในการเล่น: ขนาดที่เล็กลงยังช่วยเพิ่มความสบายในการเล่น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีรูปร่างเล็ก หรือผู้ที่ชื่นชอบความคล่องตัวสูง การโอบกอดเครื่องดนตรีชิ้นนี้ขณะเล่นจะรู้สึกสบายอย่างยิ่ง
มนต์เสน่ห์แห่งไม้ Koa: รูปลักษณ์และโทนเสียงที่ไม่เหมือนใคร
สิ่งที่ทำให้กีต้าร์โปร่งไฟฟ้ารุ่นนี้โดดเด่นเหนือใครคือการเลือกใช้ไม้ Koa ซึ่งเป็นไม้ที่มีคุณสมบัติพิเศษทั้งในด้านความสวยงามและโทนเสียง:
1. แผ่นหน้า (Top): Solid Hawaiian Koa
- ความงามที่สร้างแรงบันดาลใจ: ไม้ Hawaiian Koa ที่ใช้เป็นแผ่นหน้านั้นมีลวดลายที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การมองเห็นลายไม้ที่สลับซับซ้อนและสีสันที่อบอุ่นของ Koa สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีได้ทันที
- การพัฒนาของโทนเสียง: สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Solid Koa Top คือคุณสมบัติทางเสียงของมันจะค่อยๆ "เปิด" ขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป จากโทนเสียงที่อาจจะค่อนข้างสดใสในตอนแรก เสียงที่ได้จะค่อยๆ พัฒนาไปสู่ความอบอุ่น ความหวาน และมี Overtones ที่อุดมสมบูรณ์มากขึ้นเมื่อได้รับการเล่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กีต้าร์ตัวนี้มี Character เสียงที่เป็นเอกลักษณ์และเติบโตไปพร้อมกับผู้เล่น
2. ด้านหลังและด้านข้าง (Back & Sides): Layered Koa
- ความสวยงามและทนทาน: ด้านหลังและด้านข้างใช้ไม้ Koa แบบ Layered ซึ่งประกอบด้วยไม้ Koa จริงที่ประกบอยู่ด้านนอกและด้านใน โดยมีชั้นไม้ที่แข็งแรงอยู่ตรงกลาง การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่ให้รูปลักษณ์ที่สวยงามของไม้ Koa แต่ยังเพิ่มความทนทานและความเสถียรให้กับตัวกีต้าร์ ทำให้ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ดีเยี่ยม
- ราคาที่เข้าถึงได้: การใช้ Layered Koa ช่วยให้เครื่องดนตรีอะคูสติกนี้สามารถนำเสนอความสวยงามและคุณสมบัติทางเสียงของ Koa ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้ Solid Koa ทั้งตัว
3. การเคลือบผิว (Finish): Varnish
- Top Finish และ Back/Side Finish เป็น Varnish: การเคลือบผิวแบบ Varnish ช่วยให้ไม้สามารถหายใจและสั่นสะเทือนได้อย่างอิสระมากขึ้น ทำให้ได้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติและเปิดกว้าง ในขณะเดียวกันก็ยังคงให้ความสวยงามและปกป้องเนื้อไม้
ภาคไฟฟ้า Expression System® 2: เสียงอะคูสติกที่สมจริงเมื่อเสียบปลั๊ก
สำหรับกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า ภาคไฟฟ้าคือส่วนสำคัญ และกีต้าร์ขนาดเล็กพิเศษรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับระบบ Expression System® 2 (ES2) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในเรื่องคุณภาพเสียง:
- เทคโนโลยีเบื้องหลัง Saddle: ES2 แตกต่างจาก Piezo Pickup ทั่วไป โดยใช้ Transducers ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลัง Saddle (Behind-the-Saddle Design) การออกแบบนี้ช่วยให้สามารถจับการสั่นสะเทือนของ Bridge และ Top ได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- Dynamic Properties ที่สมบูรณ์: ES2 สามารถจับ Dynamic Properties ของกีต้าร์ได้มากกว่า ทำให้ได้เสียงที่สมจริง มีมิติ และตอบสนองต่อการเล่นได้อย่างละเอียด ไม่ว่าคุณจะเล่นเบาหรือเล่นหนัก เสียงที่ออกมาผ่านภาคขยายก็ยังคงเป็นธรรมชาติเหมือนเสียงอะคูสติกที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก
- Plug and Play Anywhere: ด้วยระบบ ES2 ที่ติดตั้งมาในตัว การเสียบปลั๊กและเล่นไม่ว่าจะบนเวที ในสตูดิโอ หรือในงานเลี้ยงสังสรรค์ ก็เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย
รายละเอียดปลีกย่อยที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในคุณภาพ
ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ คือสิ่งที่ทำให้กีต้าร์ Taylor โดดเด่น และกีต้าร์โปร่งรุ่นนี้ก็มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย:
- Scale Length: 23-1/2″: ขนาดสเกลที่สั้นลง (Short Scale) ทำให้สายมีความตึงน้อยลง เล่นง่ายขึ้น และเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีมือเล็ก หรือผู้ที่ชื่นชอบความรู้สึกสบายในการกดสาย
- Nut & Saddle: Nubone Nut/Micarta Saddle: Nut ทำจาก Nubone และ Saddle ทำจาก Micarta ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์คุณภาพสูงที่ช่วยส่งผ่านการสั่นสะเทือนของสายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความเสถียรของ Tune
- Bracing: X Bracing: ระบบ X Bracing เป็น Bracing แบบคลาสสิกที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของแผ่นหน้ากีต้าร์ และช่วยให้แผ่นหน้าสามารถสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อโทนเสียงที่เปิดกว้างและมี Resonance
- Truss Rod Cover: Black Plastic: ฝาปิด Truss Rod ทำจากพลาสติกสีดำเรียบง่าย
- Pickguard: None: การไม่มี Pickguard ช่วยให้กีต้าร์แสดงความงามของไม้ Koa ได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยให้แผ่นหน้าสามารถสั่นสะเทือนได้อย่างอิสระมากขึ้น
- Number of Frets: 20: มี 20 เฟรต ซึ่งเพียงพอต่อการเล่นกีต้าร์โปร่งส่วนใหญ่
- Tuners: Taylor Nickel: ลูกบิด Taylor Nickel ให้ความแม่นยำในการตั้งสายและมีความทนทาน
- Case: Aerocase: เคส Aerocase ที่มาพร้อมกับกีต้าร์มีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา เป็นการผสมผสานที่ดีระหว่างความแข็งแรงของ Hard Case และความเบาของ Gig Bag ทำให้สะดวกในการพกพาและปกป้องกีต้าร์ได้อย่างดีเยี่ยม
- Brand of Strings: Elixir Phosphor Bronze Medium: ติดตั้งสาย Elixir Phosphor Bronze Medium มาจากโรงงาน ซึ่งเป็นสายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักกีต้าร์ เนื่องจากให้โทนเสียงที่สดใส ยาวนาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- Neck Width: 1-11/16″: ความกว้างของคอ 1-11/16 นิ้ว เป็นขนาดที่สบายมือและคุ้นเคยสำหรับนักกีต้าร์ส่วนใหญ่
- Neck/Heel: Tropical Mahogany: คอและ Heel ทำจากไม้ Tropical Mahogany ซึ่งเป็นไม้ที่ให้ความมั่นคงและมีคุณสมบัติทางเสียงที่ยอดเยี่ยม
- Fretboard Wood: Ebony: ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้ Ebony ซึ่งเป็นไม้ที่มีความแข็ง ทนทาน และให้สัมผัสการเล่นที่ราบรื่น
- Heel Length: 3″: ความยาวของ Heel 3 นิ้ว
- Peghead Overlay: Copafera: ส่วนหัวกีต้าร์มี Peghead Overlay ทำจากไม้ Copafera
- Peghead Logo: Printed on Headstock Overlay: โลโก้ Taylor พิมพ์อยู่บน Peghead Overlay
- Bridge Pins: Black: หมุดยึดสายบนบริดจ์เป็นสีดำ
- Edge Trim: Black/White/Black: ขอบกีต้าร์มีขอบสีดำ/ขาว/ดำ
กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor GS Mini-e Koa Plus – คู่หูทางดนตรีที่สมบูรณ์แบบ
กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้คือบทพิสูจน์ว่าขนาดที่เล็กไม่ได้หมายถึงคุณภาพที่ด้อยลงเลยแม้แต่น้อย มันคือกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักดนตรีในยุคปัจจุบัน ด้วยการผสมผสานความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของไม้ Koa ทั้งในส่วนของ Solid Top และ Layered Back/Sides เข้ากับโทนเสียงที่ใส กังวาน และเต็มไปด้วย Dynamic
ความสบายในการเล่นจากรูปทรง GS Mini และ Scale Length ที่สั้นลง ทำให้เครื่องดนตรีชิ้นนี้เป็นมิตรกับผู้เล่นทุกระดับฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม การแต่งเพลง หรือการแสดงสด และด้วยภาคไฟฟ้า Expression System® 2 ที่ล้ำสมัย คุณจึงมั่นใจได้ว่าเสียงอะคูสติกที่ยอดเยี่ยมจะถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริงและมีคุณภาพสูงเมื่อเสียบปลั๊ก
หากคุณกำลังมองหากีต้าร์โปร่งไฟฟ้าที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ให้เสียงที่น่าทึ่ง และมีรูปลักษณ์ที่สวยงามจับใจ กีต้าร์รุ่นนี้คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม มันคือเครื่องดนตรีที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณสร้างสรรค์ดนตรีได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น