กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb เอกลักษณ์เสียงจัดจ้านจากมือกีต้าร์ระดับโลก

กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb พร้อมโปรผ่อน 0% จาก CT Music เห็นศิลปินยืนถือรุ่นเดียวกันบนพื้นหลังสีดำ

     ดนตรีแนวโปรเกรสซีฟเมทัลต้องการกีต้าร์ที่ให้ทั้งพลังและความชัดของทุกโน้ต รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นั้นโดยเฉพาะ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb ผสมโทนอุ่นของไม้มะฮอกกานีกับความใสคมของไม้เมเปิล คอไม้เมเปิลเคลือบซาตินทรงบาง จับถนัด มือเลื่อนไปตามคอได้ไม่สะดุด ผู้เริ่มต้นก็เล่นได้คล่องและกดสายให้ติดเฟรตได้ง่าย เสียงชัดเจน โดยไม่ต้องใช้แรงกดมาก ส่วนผู้เล่นที่จริงจังมั่นใจได้ในความนิ่งของเสียงและงานประกอบที่ไว้ใจได้


การออกแบบและวัสดุของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb

     บอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานี ให้โทนเสียงอุ่นหนา เสียงทุ้มแน่น ชัด และไม่บวม ส่วนท็อปไม้เมเปิลช่วยเพิ่มประกายและความคมของ transient (หัวเสียงของโน้ต) ทำให้จังหวะตีคอร์ดและริฟฟ์ได้ยินชัด ด้านบนตกแต่งด้วย Quilted Maple Veneer (แผ่นไม้เมเปิลบางลายคลื่นน้ำ ปิดผิวหน้าให้สวยงาม) ที่สะท้อนแสงสวยงามเมื่อขึ้นเวที

กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb มุมเต็มตัว สีเทาดำลายคลื่นน้ำ โชว์บอดี้ คอ และอินเลย์นกครบถ้วน

     คอไม้เมเปิลเคลือบซาติน ลดความฝืดของมือ โปรไฟล์คอ Wide Thin บางพอดี จับคอร์ดและโซโล่ได้ถนัด ฟิงเกอร์บอร์ด Ebony มีความแข็งแน่น กดแล้วเสียงชัด ตอบสนองไว อินเลย์ลายนก (Birds) ซิกเนเจอร์ของ PRS ช่วยให้มองตำแหน่งเฟรตง่ายขึ้น

ฟิงเกอร์บอร์ดไม้อีโบนี อินเลย์ลายนกเด่นชัด เฟรตเรียบ ดันสายได้ลื่นมือ

     งานประกอบประณีต รายละเอียดเรียบร้อย น้ำหนักสมดุล ยืนเล่นนาน ๆ ได้โดยไม่ล้าไหล่


ระบบเสียงและอิเล็กทรอนิกส์ของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb

     ปิ๊กอัพซิกเนเจอร์ Seymour Duncan รุ่น Scarlet (ตำแหน่งคอ) และ Scourge (ตำแหน่งสะพาน) ให้ระดับสัญญาณกำลังดี เสียงแน่น รายละเอียดครบ เหมาะทั้งจังหวะริธึมหนัก ๆ และโซโล่ใสๆ

ฮัมบัคเกอร์คู่ตำแหน่งคอและสะพาน พร้อมลายเมเปิลคลื่นน้ำ ให้โทนหนาแต่คมชัด

     วงจรควบคุมมีวอลลุ่มและโทน โดยปุ่มโทนเป็นแบบ Push/Pull (ดึงขึ้น/กดลง) สำหรับทำ coil split ได้โทนใสคล้าย single‑coil เวลาอยากได้เสียงคลีนโปร่ง สวิตช์ 3‑Way เลือกได้ระหว่างสะพาน / ผสม / คอ เพื่อเปลี่ยนคาแรกเตอร์เสียงอย่างรวดเร็ว


      สะพานสาย PRS Plate Style แบบ string‑through ช่วยให้โน้ตค้างยาว (sustain) และตั้งสายได้เที่ยงตรง แต่ละสายมี saddle แยก ปรับ intonation ได้ละเอียด เล่นถึงเฟรตสูงก็ยังไม่เพี้ยน

สะพานสายแบบสายลอดบอดี้ พร้อมแซดเดิลแยกปรับอินโทเนชันได้ละเอียด โน้ตค้างยาวและตั้งสายแม่น

ความรู้สึกในการเล่นและความแม่นยำของเสียง

     สเกล 25.5 นิ้ว พร้อม 24 เฟรต ครอบคลุมตั้งแต่ริธึมย่านต่ำไปจนถึงโซโล่เสียงสูง โดยไม่ต้องขยับมือไกล รัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 20 นิ้ว ช่วยดันสายได้สบายและไม่สะดุด PRS Designed tuners น้ำหนักเบา จูนติดง่าย คงที่แม้เล่นแรงหรือดรอปสาย การตอบสนองไว โน้ตออกชัด เหมาะทั้งงานสตูดิโอและเวทีใหญ่

กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb โชว์หัวกีต้าร์สลักโลโก้ SE Mark Holcomb และลูกบิดเคลือบเงา

จุดเด่นเฉพาะตัวของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb

  • ปิ๊กอัพซิกเนเจอร์ Scarlet & Scourge เสียงแน่น ชัด รายละเอียดครบ
  • ฟิงเกอร์บอร์ด Ebony โน้ตคม อินเลย์ลายนกเด่นชัด
  • คอ Wide Thin จับถนัด เล่นเร็วได้คล่อง
  • สะพานสาย string‑through ซัสเทนยาว ตั้งสายแม่น
  • ฮาร์ดแวร์ Black Chrome ทนทาน ดูพรีเมียม
  • โทนเสียงปรับกว้าง ได้ทั้งหนาและใสในตัวเดียว


การใช้งานจริงสำหรับมืออาชีพและผู้เริ่มต้น

     รองรับการจูนแบบ Drop‑C จึงให้เสียงทุ้มหนาแน่นและมีพลังมากขึ้น สเกล 25.5 นิ้วช่วยให้ความตึงสายพอดี เสียงไม่บวมและไม่พร่ามัวเมื่อทำ palm mute (วางฝ่ามือแตะสายใกล้สะพานสายแล้วดีดสายกีต้าร์) ชุดสาย 10–52 ช่วยคุมความตึงของสายล่างได้ดี ส่วนสายเล็กด้านบนยังดันสาย (bend) ได้ง่าย สะพานสายแบบ string‑through (สายลอดตัวบอดี้) ช่วยให้โน้ตค้างยาว เหมาะกับริฟฟ์ช้า หนัก และโซโล่ที่ต้องการความต่อเนื่อง


ตั้งค่าแอมป์และเลือกเอฟเฟคให้เหมาะ

     ใช้แอมป์หรือ plug‑in แบบ high‑gain ตั้งเกนพอดีแล้วควบคุมด้วยน้ำหนักมือ จะได้เสียงชัดเจน โดยไม่มีเสียงรบกวน (noise) มากเกินไป ตำแหน่งปิคอัพสะพานเหมาะกับจังหวะริธึมที่ต้องการให้เสียงชัดพุ่งออกจากมิกซ์ ส่วนตำแหน่งปิคอัพผสมให้โทนเสียงสมดุล เหมาะกับการเล่น อเพจจิโอ (Arpeggio) ส่วนตำแหน่งคอให้โทนอิ่ม เหมาะกับโซโล่เมโลดิก


     ดึงปุ่มโทนเพื่อทำ coil split (ปิดคอยล์หนึ่งของ humbucker ให้เหลือคอยล์เดียว เพื่อให้โทนใสชัด คล้าย single‑coil) เมื่ออยากได้เสียงแบบคลีนๆใสๆ หรือโทนฟังก์กี้ เติม compressor เบา ๆ เพื่อให้โน้ตสม่ำเสมอ หากเล่นผ่านตู้จริง เลือกตู้ที่ตอบสนองย่านต่ำดี และใช้ noise gate ช่วยตัดเสียงฮัมเมื่อหยุดเล่น


🎧 ฟังเสียงจริง 3:26 นาที

คลิป YouTube
เครดิต : PRS Guitars

สเปคของ กีต้าร์ไฟฟ้า PRS SE Mark Holcomb ที่มือใหม่ควรรู้

  • สเกลคอ 25.5 นิ้ว: ให้ความตึงสายพอดีเมื่อดรอปจูน เสียงทุ้มไม่บวม คุม palm mute ได้ง่าย
  • 24 เฟรต: เล่นได้ครบทั้งจังหวะริธึมและโซโล่เสียงสูง โดยไม่ต้องเลื่อนมือไกล
  • รัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 20 นิ้ว (radius): ดันสายได้สบาย วางคอร์ดบาร์ได้นานไม่เมื่อย
  • ความกว้าง nut ประมาณ 42–43 มม.: จับถนัดทั้งมือเล็กและมือใหญ่
  • คอเมเปิลเคลือบซาติน: ลดแรงเสียดทาน เลื่อนมือได้ลื่นเวลาเล่นเร็ว
  • คอตั้งเข้าบอดี้ (set‑neck): ถ่ายทอดแรงสั่นดี ทำให้โน้ตค้างยาวเป็นธรรมชาติ
  • truss rod แบบปรับสองทิศทาง: ปรับแก้คอโก่งหรือคองอได้ละเอียด ตามสภาพอากาศ
  • ชุดสายเบอร์ 10–52 (สาย 1 = .010 นิ้ว, สาย 6 = .052 นิ้ว): เหมาะกับการตั้งสายให้ต่ำ (เช่น Drop‑C) ให้เสียงทุ้มแน่น ส่วนสายเส้นเล็ก (เช่น สาย 1–3)ยังดันสาย (bend) ได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงมาก


แนวทางเซ็ตอัพเบื้องต้นให้เล่นง่าย

  • Relief (ความโค้งคอ): ตั้งให้โค้งเล็กน้อย เพื่อไม่ให้สายไปกระทบเฟรตเวลาดีด แล้วลองดีดทุกตำแหน่งบนคอเพื่อเช็กว่าไม่มีเสียง buzz (เสียงสั่นกระทบเฟรต)
  • Action (ความสูงสาย): เริ่มที่ระดับกลาง จากนั้นปรับให้เหมาะกับน้ำหนักมือและสไตล์ที่เล่น
  • Intonation: ปรับที่ saddle ให้โน้ตเฟรต 12 ตรงกับเสียงเปิดสาย โดยใช้เครื่องตั้งสายช่วย เพื่อลดอาการเพี้ยนเมื่อเล่นคอร์ดสูง ๆ
  • Pickup height (ระยะปิคอัพ): ตั้งกลางไว้ก่อน แล้วฟังสมดุลระหว่างตำแหน่งคอ/สะพาน ปรับให้ย่านต่ำไม่บวมและย่านสูงไม่บาดหู
  • หลังเปลี่ยนสาย: ยืดสายเบา ๆ แล้วตั้งสายใหม่ 2–3 รอบ เพื่อให้สายเข้าที่ ตั้งสายได้ง่าย และเสียงคงที่ ไม่เพี้ยนง่าย
  • การดูแลทำความสะอาด: เช็ดฟิงเกอร์บอร์ดและเฟรตด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หลังเล่นทุกครั้ง เพื่อสัมผัสที่ลื่นและลดเสียงสาก (ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับชนิดไม้)


ตั้งค่าเสียงแบบเร็วสำหรับแนวเพลงยอดนิยม

  • Metal สมัยใหม่: ใช้ปิคอัพสะพาน ตั้งเกนปานกลาง–สูง ตัดย่านต่ำลึกเล็กน้อย (low cut) และเพิ่มย่านกลาง (mid) เพื่อให้ริธึมชัดและพุ่งออกจากมิกซ์
  • Rock สมัยใหม่: ใช้ตำแหน่งปิคอัพผสม โทนกลาง ๆ เติม compressor เบา ๆ เพื่อให้ระดับเสียงนิ่งและคุมไดนามิกได้ง่าย
  • Clean / Ambient: ทำ coil split ให้โทนใสขึ้น แล้วเพิ่ม delay และ reverb แบบสั้น ๆ เพื่อให้เสียงโปร่งและมีมิติ (space)
  • Solo เมโลดิก: ใช้ปิคอัพคอ เกนพอดี บูสต์ mid เล็กน้อย เพื่อให้โน้ตอิ่มและได้ sustain ยาว
  • Live: ใช้ noise gate ลดเสียงฮัมขณะหยุดเล่น ตั้ง reverb พอเหมาะเพื่อไม่ให้ย่านต่ำบวม


การดูแลรักษาและอุปกรณ์เสริมที่ควรมี

  • เก็บในกิ๊กแบ็ก (gig bag) หลีกเลี่ยงความชื้นจัดและอุณหภูมิแปรปรวน เพื่อลดโอกาสคอโก่ง
  • เปลี่ยนสายเมื่อเสียงทึบหรือมีคราบ เปลี่ยนสม่ำเสมอช่วยยืดอายุเฟรต
  • เช็ดบอดี้และฮาร์ดแวร์หลังเล่น ลดเหงื่อสะสมที่ทำให้โลหะหมองหรือเป็นสนิม
  • ใช้สายสะพายกว้าง ลดอาการไหล่ล้าเมื่อต้องยืนเล่นนาน
  • พกเครื่องตั้งสายแบบคลิป (clip‑on tuner) จูนได้เร็วและเงียบระหว่างซ้อมหรือเล่นสด


คำศัพท์สำคัญที่ควรรู้ (อธิบายสั้น กระชับ)

  • String‑through: สายลอดตัวบอดี้ ช่วยให้โน้ตค้างยาวและส่งแรงสั่นดี
  • Coil split: ดึงปุ่มโทนเพื่อแบ่งขดลวด ได้โทนใสคล้าย single‑coil
  • Scale length: ความยาวสายจากนัตถึงสะพาน มีผลต่อความตึงสายและโทนเสียง
  • Radius: ความโค้งของฟิงเกอร์บอร์ด มีผลต่อความสบายมือเวลาเล่นคอร์ดและดันสาย
  • Sustain: ระยะเวลาที่โน้ตค้างอยู่ ยิ่งนานยิ่งโซโล่ได้ลื่น
  • Intonation: ความตรงของระดับเสียงในทุกเฟรต ทำให้คอร์ดสูง ๆ ไม่เพี้ยน


สรุปความคุ้มค่าและคุณภาพเหนือระดับ

     กีต้าร์รุ่นนี้รวมวัสดุคุณภาพ งานประกอบประณีต และระบบเสียงที่ใช้งานได้จริงครบถ้วน เล่นง่าย แต่รองรับการพัฒนาฝีมือในระยะยาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการกีต้าร์ตัวเดียวใช้งานได้ครบ ทั้งซ้อม อัดเสียง และขึ้นเวที


สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่


🛒สั่งซื้อได้ที่นี่


รีวิวโดย gooddymusic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น