ในยุคที่ดนตรีมีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การเลือกเครื่องดนตรีที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเสียงและการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่นักดนตรีไม่ควรมองข้าม หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor 114Ce Special Edition ที่ผสมผสานดีไซน์ระดับพรีเมียมเข้ากับเทคโนโลยีเสียงล้ำสมัย เหมาะสำหรับมือกีต้าร์ทุกระดับที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ
จุดเด่นของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor 114Ce Special Edition
Taylor 114Ce Special Edition มาพร้อมดีไซน์แบบ Grand Auditorium ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มกีต้าร์โปร่ง ด้วยลักษณะทรงที่ให้บาลานซ์เสียงดีเยี่ยมในทุกย่านเสียง ทั้งเบส กลาง และแหลม ทำให้เหมาะทั้งสำหรับการตีคอร์ดและการเล่นเมโลดี้แบบเดี่ยว
ไม้หน้าของกีต้าร์รุ่นนี้ใช้ Solid Sitka Spruce ซึ่งเป็นไม้คุณภาพสูงที่ให้เสียงใสและโปร่ง ส่วนไม้ด้านข้างและด้านหลังใช้ Laminated Sapele ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องโทนเสียงที่อบอุ่นและความทนทานต่อสภาพอากาศ นอกจากนี้ คอไม้เมเปิลยังให้สัมผัสลื่นมือ เล่นง่ายทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและนักดนตรีระดับอาชีพ
เทคโนโลยี ES2 และความแตกต่างที่สัมผัสได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของกีต้าร์รุ่นนี้คือระบบปิคอัพ Expression System 2 (ES2) ที่ออกแบบโดย Taylor ซึ่งให้เสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงธรรมชาติของกีต้าร์อะคูสติกมากที่สุด ให้รายละเอียดเสียงครบถ้วน ไม่แบนหรือแข็งกระด้าง เหมาะทั้งกับการเล่นสดและการบันทึกเสียง
กีต้าร์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกระเป๋า Gig Bag แบบแข็ง เสริมโครงสร้างภายใน ป้องกันแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องพกพากีต้าร์ไปแสดงหรือฝึกซ้อมนอกสถานที่เป็นประจำ
ทำไมกีต้าร์รุ่นนี้จึงเหมาะกับมือกีต้าร์ยุคใหม่
Taylor 114Ce Special Edition ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักดนตรียุคใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเล่นหลากหลายแนวเพลง ไม่ว่าจะเป็นโฟล์ก ป๊อป ร็อก หรือแจ๊ส ด้วยบาลานซ์เสียงที่ดีเยี่ยม น้ำหนักที่พอดี และคอที่เล่นง่าย ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า
นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกของแบรนด์ Taylor โดยไม่ต้องจ่ายราคาแพงแบบรุ่นท็อป แต่ยังคงคุณภาพเสียงและงานประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ไว้อย่างครบถ้วน
เคล็ดลับการดูแลและบำรุงรักษาให้เสียงดีเหมือนใหม่เสมอ
ถึงแม้ Taylor 114Ce จะสร้างจากวัสดุที่มีความทนทานสูง แต่การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การเก็บในที่ที่มีความชื้นพอเหมาะ (40–60%) การเช็ดสายและบอดี้หลังเล่นทุกครั้ง และการเปลี่ยนสายตามรอบใช้งาน (ประมาณ 1–2 เดือนต่อครั้ง)
สำหรับผู้เริ่มต้น ควรฝึกฝนการตั้งสายด้วยตนเอง และใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างเครื่องตั้งสายอัตโนมัติ เพื่อให้เสียงที่ได้แม่นยำยิ่งขึ้น และยังช่วยฝึกพัฒนาทักษะทางหูและสัมผัสไปพร้อมกัน
ใครเหมาะกับ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Taylor 114Ce Special Edition
Taylor 114Ce Special Edition เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกีต้าร์ที่ให้คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพในราคาที่เข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนดนตรี มือสมัครเล่น นักดนตรีกลางคืน หรือมืออาชีพที่ต้องการกีต้าร์สำหรับเล่นสดและบันทึกเสียงในตัวเดียว
ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม ดีไซน์คลาสสิกที่ผสานความทันสมัย และเทคโนโลยีเสียง ES2 ที่ให้คุณภาพเสียงใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ทำให้กีต้าร์รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในทุกมิติ
อุปกรณ์เสริมที่ควรใช้ร่วมกับกีต้าร์รุ่นนี้
- เครื่องตั้งสายอัตโนมัติ: ช่วยให้การตั้งสายแม่นยำและรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน
- สายสะพายกีต้าร์แบบบุฟองน้ำ: ช่วยลดแรงกดที่บ่าเมื่อต้องเล่นนาน ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นกีต้าร์สด
- แผ่นกันรอย (Pickguard) เสริม: ป้องกันรอยขีดข่วนจากปิ๊ก และช่วยรักษาความสวยงามของตัวกีต้าร์
- ที่วางกีต้าร์แบบตั้งพื้น: ช่วยป้องกันการกระแทกและเก็บกีต้าร์ได้อย่างปลอดภัยเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- น้ำยาทำความสะอาดบอดี้กีต้าร์: รักษาความเงางามของไม้และยืดอายุการใช้งานของตัวเครื่อง
ข้อดีเมื่อเทียบกับกีต้าร์ระดับเริ่มต้นทั่วไป
- ให้เสียงที่มีความโปร่งและชัดเจนกว่ารุ่นเริ่มต้นทั่วไปอย่างชัดเจน
- การตอบสนองของไม้และระบบปิคอัพมีคุณภาพสูง จึงเหมาะกับการอัดเสียงในสตูดิโอ
- ฟิงเกอร์บอร์ดลื่นมือ ช่วยให้เล่นได้สบายโดยไม่ต้องออกแรงกดมาก
- งานประกอบประณีต ทนทาน และมีการตรวจสอบคุณภาพจากโรงงาน
- ดีไซน์ระดับพรีเมียม ทำให้ดูโดดเด่นแม้ในเวทีใหญ่
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ
- งบประมาณ: แม้จะไม่ใช่รุ่นท็อปของ Taylor แต่ราคาก็ยังอยู่ในระดับกลางถึงสูง
- แนวเพลงที่เล่น: เหมาะกับแนวอะคูสติก โฟล์ก ป๊อป และร็อกมากกว่าดนตรีคลาสสิก
- ความต้องการใช้ปิคอัพ: หากไม่เน้นเล่นสดหรืออัดเสียง อาจไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นที่มีระบบ ES2
- ความถนัดของผู้เล่น: สำหรับมือใหม่ควรทดลองเล่นก่อน เพื่อความมั่นใจในขนาดและน้ำหนักของตัวกีต้าร์
แรงบันดาลใจและภาพลักษณ์ของกีต้าร์ Taylor 114Ce Special Edition
- ภาพลักษณ์ของกีต้าร์รุ่นนี้ให้ความรู้สึกคลาสสิกผสมโมเดิร์น เหมาะกับทั้งการใช้งานในเวทีแสดงสดและการบันทึกเสียงในสตูดิโอ
- โทนสีและการเคลือบผิวของตัวกีต้าร์ช่วยส่งเสริมความหรูหราโดยไม่ดูโอเวอร์
- สำหรับมือกีต้าร์ที่ใส่ใจภาพลักษณ์ การถือกีต้าร์รุ่นนี้ขึ้นเวทีถือเป็นการสร้างความมั่นใจได้ในทันที
คลิป YouTube
เครดิต :
Music Collection
การเลือกสายกีต้าร์ที่เหมาะสมกับรุ่นนี้
- สายกีต้าร์แบบ Phosphor Bronze ขนาด .012–.053 มักถูกแนะนำให้ใช้กับ Taylor 114Ce เนื่องจากให้เสียงกลางที่กลมและเสียงแหลมที่ชัด
- สำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มนวลมากขึ้น อาจเลือกสายเบอร์ .011 เพื่อช่วยลดแรงต้านขณะเล่น
- ควรเปลี่ยนสายทุก 1–2 เดือน หรือเร็วกว่านั้นหากใช้งานเป็นประจำเพื่อให้ได้โทนเสียงที่สดใหม่
แนวเพลงที่เหมาะสมและสไตล์การเล่นที่แนะนำ
- เหมาะสำหรับแนวอะคูสติกโฟล์กที่ต้องการเสียงกังวานและสมดุลในทุกย่านเสียง
- เล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ (Fingerstyle) ได้ดี ด้วยการตอบสนองของไม้ที่แม่นยำทุกโน้ต
- การตีคอร์ดแบบเปิด (Open Chord Strumming) จะให้โทนเสียงที่เต็มแน่นและชัดเจนมาก
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น