ในโลกของเอฟเฟคกีต้าร์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย หนึ่งในอุปกรณ์ที่นักดนตรีให้ความสนใจมากที่สุดคือ เอฟเฟคกีต้าร์ Walrus Audio Mako MKII ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียง ความสามารถในการปรับแต่ง และดีไซน์ที่รองรับการใช้งานในทุกสไตล์ ทุกวันนี้ดนตรีสมัยใหม่ให้ความสำคัญกับโทนเสียงที่มีมิติและรายละเอียดที่ลึกซึ้ง เอฟเฟคกีต้าร์รุ่นนี้จึงกลายเป็นคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือระดับมืออาชีพที่สามารถสร้างเสียงดีเลย์ได้ครบทุกมิติ ตั้งแต่ใสกระจ่างจนถึงอบอุ่นเหมือนเสียงอนาล็อกแท้ ๆ
จุดเด่นของการออกแบบและโครงสร้าง
ตัวเครื่องของ Walrus Audio Mako MKII ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมชั้นดีที่ให้ความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา พกพาสะดวก พื้นผิวผ่านกระบวนการอโนไดซ์ (Anodized) ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและเพิ่มความสวยงาม พร้อมปุ่มควบคุมที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบง่ายต่อการใช้งาน หน้าจอ OLED ขนาด 2 นิ้ว แสดงผลชัดเจน สามารถปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบใด
ความสามารถในการสร้างสรรค์เสียง
Walrus Audio ออกแบบเสียงใน Mako MKII ให้เลือกได้ 6 โหมดหลัก ได้แก่ Digital, Mod, Vintage, Dual, Reverse และ Grain แต่ละโหมดให้คาแรคเตอร์ต่างกันชัดเจน ตั้งแต่เสียงดีเลย์ใสคมแบบดิจิทัล โทนอุ่นนุ่มสไตล์วินเทจ ไปจนถึงเท็กซ์เชอร์แปลกใหม่ของโหมด Grain และเอฟเฟคย้อนกลับของโหมด Reverse จึงปรับได้กว้างทั้งซ้อม เล่นสด และอัดเสียง ช่วยให้คุณสร้างโทนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ง่ายขึ้น
คลิป YouTube
เครดิต : walrusaudioeffects
ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
หนึ่งในจุดแข็งของ Mako MKII คือการรองรับการบันทึกพรีเซ็ตได้สูงสุดถึง 128 แบบ นักดนตรีสามารถตั้งค่าเสียงที่ชอบและเรียกใช้งานได้ทันทีเมื่ออยู่บนเวทีหรือตอนซ้อม นอกจากนี้ยังมีโหมด Dual ที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้สามารถตั้งค่าการแบ่งจังหวะของแต่ละช่องสัญญาณได้อย่างอิสระ ทำให้ได้มิติของเสียงที่ซับซ้อนและน่าสนใจยิ่งขึ้น
ระบบควบคุมขั้นสูงและการเชื่อมต่อ
Mako MKII มีระบบควบคุม BPM แบบตัวเลข ช่วยให้ตั้งจังหวะได้ตรงกับเพลงอย่างแม่นยำ คุณสามารถกำหนดจังหวะได้สองแบบ: กดสวิตช์ Tap เพื่อเคาะจังหวะด้วยตัวเอง หรือให้เครื่องรับจังหวะจากอุปกรณ์อื่นผ่าน MIDI (สัญญาณบอกจังหวะ) โดยอัตโนมัติ อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ MIDI In/MIDI Thru และ USB‑C เพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้ง่าย คุณยังสามารถปรับตั้งค่า จัดการพรีเซ็ต และอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
ปุ่มและเมนูบนตัวเครื่องของ เอฟเฟคกีต้าร์ Walrus Audio Mako MKII
- TIME (ปุ่มซ้ายบน): ปรับเวลาหน่วงของดีเลย์ (Delay Time) ได้ตั้งแต่สั้นมากไปจนยาว เมื่อหมุนปุ่มด้วยมือ ระบบจะหยุดใช้ค่าเทมโปจาก Tap/MIDI ชั่วคราว เพื่อให้ควบคุมด้วยมือได้ทันที
- REPEATS (ปุ่มกลางบน): กำหนดจำนวนครั้งที่เสียงสะท้อนกลับ (ฟีดแบ็ก) ค่าต่ำสุดจะได้เพียง 1 ครั้ง ส่วนค่าที่สูงมากจะได้การซ้ำยาว ๆ จนเกือบเกิดเสียงวนเอง
- MIX (ปุ่มขวาบน): ปรับสัดส่วนระหว่างเสียงเอฟเฟค (Wet) กับเสียงเดิม (Dry) ตำแหน่งกึ่งกลางคือสัดส่วนใกล้เคียงกัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- ตัวเลือกโหมด (วงแหวน Program): เลือกอัลกอริทึม 6 แบบตามสีรอบปุ่ม ได้แก่ Digital, Mod, Vintage, Dual, Reverse, Grain เพื่อปรับคาแรคเตอร์ดีเลย์ให้เหมาะกับเพลง
- หน้าจอ OLED คู่ + ปุ่มหมุนใต้จอ: จอซ้าย/ขวาจะแสดงพารามิเตอร์ตามโหมด เช่น DEPTH, SIZE, TONE, AGE, FILTER รวมถึงค่า BPM และหน้า P1‑P2 ปุ่มหมุนใต้จอใช้ปรับค่าตามที่แสดง และสามารถกดเพื่อเข้าหน้าพรีเซ็ตได้
- สวิตช์เท้า:
- TAP: เคาะจังหวะเพื่อกำหนดค่าเทมโป
- กดสองปุ่มพร้อมกัน: เปลี่ยน Bank A/B/C เพื่อเรียกพรีเซ็ตบนเครื่องได้รวม 9 ช่อง
(ทั้งเครื่องบันทึกพรีเซ็ตได้สูงสุด 128 ช่อง เลือกจากเมนูหรือสั่งผ่าน MIDI)
- เมนูการตั้งค่า: ปรับค่า BPM, Tap Division (เช่น 1/4, 1/8 จุด ฯลฯ), เลือกรูปคลื่นโมดูเลชัน 6 แบบ (sine, square, triangle, ramp, reverse ramp, random), ตั้งค่า Bypass Mode (True/Hybrid/Buffered) และ Trails เพื่อให้เสียงค้างจางลงอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อปิดเอฟเฟค
- พอร์ตเชื่อมต่อ/ไฟเลี้ยง: อินพุต/เอาต์พุตแบบสเตอริโอ L/R, ช่อง MIDI In / MIDI Thru, พอร์ต USB‑C, ใช้อะแดปเตอร์ 9V DC กระแสอย่างน้อย 300 mA และแนะนำให้ใช้อะแดปเตอร์แบบ isolated แทนการ Daisy‑chain เพื่อลดโอกาสเกิดเสียงจี่
- คุณสมบัติเด่นของ MKII: โหมด Dual ตั้ง Tap Division แยกซ้าย‑ขวาได้ และโปรแกรม Grain สำหรับโทน granular ให้เท็กซ์เชอร์สมัยใหม่
เช็คลิสต์การตั้งค่าเริ่มต้นของแต่ละโหมด
- Digital
- Mix: 25–30% · Repeats: 3–4
- ปรับ Tone/Filter ช่วงกลางถึงสว่าง · Mod Depth 0–10%
- เปิดฟังก์ชัน Trails เพื่อให้เสียงค้างเลือนหายอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อปิดเอฟเฟค · วางเอฟเฟคนี้ไว้หลังโอเวอร์ไดรฟ์/ดิสทอร์ชัน
- Mod
- Mix: 30–40% · Repeats: 4–6
- เลือกรูปคลื่น sine หรือ triangle · Depth ต่ำ–กลาง · Rate ช้า
- ลด Tone/Filter เล็กน้อยให้ไม่บาดหู
- Vintage
- Mix: 25–35% · Repeats: 4–5
- Age/Wow‑Flutter 20–40% · ตั้ง Hi‑cut ระดับกลาง
- Dual
- Mix: 25–35% · Repeats: 2–3 · Balance กลาง
- ต่อสเตอริโอ L/R เพื่อเวทีเสียงกว้างชัด
- Reverse
- ใช้กับไลน์ยาวหรือคอร์ด เพื่อให้เสียงสวอลเข้ามานุ่ม
- ตั้งเทมโปด้วยปุ่ม Tap ให้เท่ากับ BPM ของเพลง เพื่อให้เสียงย้อนกลับเข้าจังหวะพอดี ไม่ไปชนกับโน้ตที่กำลังเล่น
- Grain
- Mix: 10–20% · Repeats: 2–3 เพิ่มประกายโดยไม่กลบไลน์หลัก
- ตั้ง Filter ช่วงกลางถึงสว่าง เพื่อลดความขมุกขมัว
รายละเอียดทางเทคนิค
- ขนาดตัวเครื่อง: 4.9” x 2.52” x 2.64”
- จอแสดงผล OLED: 128×32 พิกเซล
- ระบบ Bypass: True Bypass, Hybrid Bypass, Buffered Bypass
- กำลังไฟ: 9V DC 300 mA (แนะนำให้ใช้ Power Supply แบบ Isolated)
- สีตัวเครื่อง: เงินอโนไดซ์ พร้อมสัญลักษณ์ Mako Shark
มิติใหม่ของการสร้างแรงบันดาลใจ
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีต้าร์ในห้องซ้อม บนเวทีคอนเสิร์ต หรือการอัดเสียงในสตูดิโอ Walrus Audio Mako MKII สามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วน ความสามารถในการปรับแต่งเสียง การบันทึกพรีเซ็ต และโหมดดีเลย์หลากหลายแบบ ช่วยให้ผู้เล่นสร้างเสียงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ทุกครั้งที่เล่น
เอฟเฟคกีต้าร์ Walrus Audio Mako MKII กับนักดนตรีสมัยใหม่
นักดนตรีในยุคปัจจุบันไม่ได้มองหาเพียงแค่เอฟเฟคที่ให้เสียงดีเลย์เท่านั้น แต่ยังต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถออกแบบเสียงได้ตามจินตนาการ Walrus Audio Mako MKII จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบสนองได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นแนวร็อก ป๊อป แจ๊ส หรือดนตรีสมัยใหม่แบบทดลอง เอฟเฟคกีต้าร์รุ่นนี้ก็สามารถสร้างมิติของเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การดูแลรักษาและข้อควรระวัง
เพื่อให้ Mako MKII ใช้งานได้อย่างยาวนาน ควรใช้ Adapter ที่มีแรงดันไฟตรงตามที่กำหนด (9V DC, 300 mA) หลีกเลี่ยงการใช้ Daisy Chain เพราะอาจทำให้เกิดเสียงรบกวน ควรเก็บรักษาในที่แห้งและไม่โดนความชื้นสูง หลังการใช้งานควรถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
การบันทึกพรีเซ็ตสำหรับ เอฟเฟคกีต้าร์ Walrus Audio Mako MKII และการแบ็คอัพ
- จัดโครงสร้างพรีเซ็ตเป็น “เพลง / จังหวะ / ซีน” แยกเป็นแบงก์ตามแต่ละเพลง เพื่อกดเรียกได้รวดเร็ว
- ตั้งชื่อพรีเซ็ตให้สั้น อ่านง่าย เช่น “120 Digital 1/8”, “Pad Mod Slow” เพื่อลดโอกาสกดผิดหน้างาน
- ตั้งค่าเริ่มต้นสำหรับงานสดให้ปลอดภัย: Mix 20–35% · Repeats 3–4 ครั้ง แล้วปรับตามสภาพห้อง/ฮอลล์
- ใช้ MIDI Program Change เรียกพรีเซ็ต และใช้ Control Change ปรับค่า Mix/Feedback แบบค่อย ๆ เพิ่ม–ลด ระหว่างเล่นจริง
- แบ็คอัพการตั้งค่าผ่าน USB‑C ลงคอมพิวเตอร์เป็นไฟล์เวอร์ชัน ทุกครั้งหลังปรับ ก่อนขึ้นเวที
- จัดกลุ่มพรีเซ็ตตาม BPM ของเพลง และตรวจให้การเคาะจังหวะ (Tap) หรือสัญญาณนาฬิกา (Clock) ซิงก์ตรงกับกลอง/คลิกเสมอ
แก้ปัญหาเสียงรบกวนและไดนามิกด้วย เอฟเฟคกีต้าร์ Walrus Audio Mako MKII
- หากมีเสียงฮัมหรือเสียงจี่ ให้ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟแบบ isolated และใช้สายสัญญาณคุณภาพ ความยาวเท่าที่จำเป็น
- เลือกโหมด Buffered หรือ Hybrid Bypass เมื่อต่อสายยาวหรือมีเอฟเฟคหลายตัว เพื่อรักษาความชัดและปลายแหลมของเสียง
- ตั้งระดับสัญญาณขาเข้าจากเอฟเฟคก่อนหน้าไม่ให้แรงเกินไป เพื่อลดโอกาสที่ดีเลย์จะแตกพร่าโดยไม่ตั้งใจ
- หากใช้งานแบบสเตอริโอ ควรตรวจเฟสของสัญญาณซ้าย/ขวา (L/R) โดยเฉพาะเมื่อใช้โหมด Ping‑Pong เพื่อไม่ให้ย่านต่ำหายเมื่อรวมเป็นโมโน
- ปรับค่า Mix ของโหมด Reverse/Grain ให้ต่ำกว่าดีเลย์ปกติ เพื่อไม่ให้เสียงเอฟเฟคกลบทำนองหลัก
- ทดสอบทั้งเสียงคลีนและเสียงแตกก่อนเล่นจริง แล้วจูนค่า Tone/Filter ให้เข้ากับแอมป์แต่ละตัว
สรุปภาพรวมของ เอฟเฟคกีต้าร์ Walrus Audio Mako MKII
รุ่น Mako MKII ไม่ได้เป็นเพียงแค่เอฟเฟคดีเลย์ธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่เปิดโอกาสให้นักดนตรีได้สร้างสรรค์เสียงในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทั้งด้านคุณภาพเสียง วัสดุที่แข็งแรง และฟังก์ชันที่ครบครัน จึงเหมาะสำหรับทั้งมืออาชีพและผู้ที่ต้องการอัพเกรดซาวด์ให้เหนือระดับ
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น