เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW พลังเสียงและวัสดุระดับพรีเมียมในดีไซน์หรู

เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW มุมหน้าและหลัง สี Transparent Gray Flat พร้อมโลโก้ร้าน

     เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW เป็นเครื่องดนตรีที่ผสานความเที่ยงตรงของเสียงกับความสวยงามของวัสดุอย่างลงตัว เหมาะกับมือเบสที่ต้องการความแม่นยำ ความสบายขณะเล่น และโทนที่สมดุลทุกย่านเสียง คอ Atlas แบบ 5 ชิ้น เสริม KTS™ TITANIUM rods ช่วยให้ sustain ยาวและนิ่ง นอกจากนี้ Aguilar DCB pickups ถ่ายทอดรายละเอียดของทุกโน้ตได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเล่นแบบ Fingerstyle หรือ Slap รุ่นนี้ตอบสนองได้ดีในแทบทุกแนวเพลง


โครงสร้างและวัสดุที่สร้างเอกลักษณ์ของ เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW

     วัสดุของ SR1455DW ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้ทั้งเสียงและสัมผัสที่ยอดเยี่ยม บอดี้ด้านหน้าใช้ไม้ Flamed Maple และ Ash ให้ลายไม้ที่สวยงามและเสียงสว่าง ส่วนด้านหลังใช้ไม้ African Mahogany เพิ่มความหนาและอบอุ่นให้โทนเสียง เมื่อรวมเข้ากับ fingerboard Rosewood ที่ให้โทนกลางชัดเจน จึงได้เสียงที่กลมกลืนและเป็นธรรมชาติ เหมาะทั้งกับงานแสดงสดและงานอัดเสียงในสตูดิโอ

เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW มุมตรงด้านหน้า 5 สาย สีเทาใสลายไม้

     คอเบสแบบ Atlas-5pc Panga Panga/Purpleheart neck w/KTS™ TITANIUM rods คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เบสรุ่นนี้มีความทนทานสูง ไม่บิดงอง่ายแม้ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ยังให้สัมผัสการเล่นที่ลื่นและมั่นคง ซึ่งเป็นสิ่งที่มือเบสระดับมืออาชีพต้องการมากที่สุด

ด้านหลังบอดี้ไม้มะฮอกกานีพร้อมฝาปิดวงจร คอไม้ลามิเนตพาดเต็มตัว

ระบบอิเล็กทรอนิกส์และการควบคุมเสียงที่เหนือชั้น

     หนึ่งในจุดเด่นของ Ibanez SR1455DW คือระบบ EQ 3 แบนด์แบบ Custom ของ Ibanez ซึ่งมาพร้อม EQ bypass switch และ Mid frequency switch ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสลับโหมดจาก Active เป็น Passive ได้อย่างรวดเร็วในขณะเล่นจริง และยังสามารถเลือกปรับย่านเสียงกลางได้ 3 ระดับ (250Hz / 450Hz / 700Hz) เพื่อสร้างโทนเสียงที่เหมาะกับสไตล์เฉพาะตัวได้ทันที นอกจากนี้ Aguilar DCB pickups ทั้งตำแหน่ง Neck และ Bridge ให้เสียงที่แม่นยำและมีมิติ ทำให้ทุกโน้ตชัดเจนไม่ว่าจะเล่นเบาแค่ไหนหรือแรงเพียงใด


     MR5S bridge ที่ใช้ในรุ่นนี้ช่วยให้การตั้งระยะห่างของสาย (string spacing) ปรับได้ตามความถนัดของผู้เล่น พร้อมการถ่ายทอดเสียงที่ดีเยี่ยมในทุกสภาวะการเล่น การรวมกันของฮาร์ดแวร์คุณภาพสูงและการออกแบบที่เข้าใจนักดนตรีอย่างแท้จริง ทำให้เบสรุ่นนี้เป็นที่ยอมรับของผู้เล่นมืออาชีพทั่วโลก

เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW โคลสอัพบอดี้หน้า สะพานสายและปุ่มปรับ EQ

การออกแบบและความสะดวกสบายในการใช้งาน

     ดีไซน์ของ SR1455DW เน้นความโค้งมนที่เข้ากับสรีระของผู้เล่น ทำให้ถือได้นานโดยไม่เมื่อยล้า น้ำหนักที่สมดุลของไม้ Mahogany และ Maple ช่วยให้การยืนเล่นหรือบันทึกเสียงทำได้อย่างมั่นคง fingerboard Rosewood ยังให้สัมผัสที่อบอุ่นและสบายมือ พร้อมเฟรตแบบ Premium Fret Edge Treatment ที่ขัดขอบเฟรตอย่างประณีตเพื่อให้การเล่นลื่นไหลในทุกโน้ต

เบสห้าสายทรงสลิม มุมเฉียงด้านหน้า สีเทาใสเห็นลายไม้ชัด

     สี Transparent Gray Flat ให้ความรู้สึกหรูหราและร่วมสมัย มองเห็นลายไม้ธรรมชาติของ Flamed Maple อย่างเด่นชัด ดีไซน์นี้สะท้อนตัวตนของผู้เล่นที่ใส่ใจรายละเอียดของเสียงและงานประกอบ


เสียงและโทนที่ตอบโจทย์ทุกแนวเพลง

คลิป YouTube
เครดิต : Ikebe Channel|池部楽器店

     โทนเสียงของ Ibanez SR1455DW มีความสมดุลระหว่างความอบอุ่นของไม้ Mahogany กับความคมชัดของ Maple และ Rosewood เมื่อรวมกับ Aguilar DCB pickups จึงได้เสียงที่มีคาแรคเตอร์ชัด ฟังแล้วรู้สึกเต็มและมีพลัง ผู้เล่นปรับโทนให้เข้ากับแนวเพลงได้หลากหลาย ตั้งแต่แจ๊ส ฟิวชัน ไปจนถึงร็อกและเมทัล ระบบ EQ 3 แบนด์ยังช่วยปรับบาลานซ์เสียงได้อย่างละเอียด ช่วยให้เสียงเด่นชัดโดยไม่กลบเครื่องดนตรีอื่น


สเปกสำคัญที่ทำให้ เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW แตกต่าง

  • คอ: Atlas-5pc Panga Panga/Purpleheart neck w/KTS™ TITANIUM rods
  • บอดี้: Flamed Maple/Ash top, African Mahogany body
  • Fingerboard: Rosewood
  • Pickup: Aguilar DCB (Neck/Bridge)
  • ระบบ EQ: Ibanez Custom Electronics 3-band EQ พร้อม EQ bypass switch
  • Bridge: MR5S Bridge (ปรับระยะสายได้)
  • จำนวนเฟรต: 24
  • ระยะห่างสาย: 18 มม.
  • สาย: D'Addario EXL165 + .130
  • ฮาร์ดแวร์: สีดำ (Black Hardware)


ด้วยสเปกระดับพรีเมียม เบสรุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่มืออาชีพที่ต้องการเครื่องดนตรีที่ทั้งเสียงดีและสวยงามในเวลาเดียวกัน


ทำไมมือเบสมืออาชีพถึงเลือก Ibanez SR1455DW

     Ibanez เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มือเบสทั่วโลกไว้วางใจ และรุ่น SR1455DW ถือเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีและงานประกอบที่พิถีพิถันที่ออกแบบมาเพื่อผู้เล่นระดับจริงจัง ทั้งงานบันทึกเสียง งานแสดงสด หรือการซ้อม เบสรุ่นนี้ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ เสียงนิ่ง ชัด และคม ทำให้สามารถสอดรับกับแนวเพลงได้ทุกประเภท นอกจากนี้ยังมี gig bag แถมมาพร้อมในชุด ทำให้พกพาสะดวกและปกป้องเครื่องดนตรีได้ดี


     สำหรับใครที่กำลังมองหาเบสคุณภาพสูงที่สามารถใช้งานได้ระยะยาว รุ่น SR1455DW จาก Ibanez คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ ยังโดดเด่นด้านความสวยงามและสัมผัสการเล่นที่หาได้ยากในระดับราคาใกล้เคียง


การปรับ EQ ของ เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW ให้เข้ากับแนวดนตรี

     ย่านเสียงหลักของปุ่ม Bass/Mid/Treble ในอิเล็กทรอนิกส์ของรุ่นนี้ถูกจูนมาให้ใช้งานจริงได้ง่าย: Bass มี peak ประมาณ 20 Hz พร้อมความกว้างที่ครอบคลุมถึงราว 1 kHz, Mid เลือกกึ่งกลางได้ 250/450/700 Hz และ Treble มี peak ใกล้ 10 kHz ช่วยจัดระเบียบย่านสูงให้ใสแต่ไม่บาดหู จึงปรับโทนเข้ากับวงได้รวดเร็ว

  • ป็อป/อาร์แอนด์บี: Bass +2–3 dB, Mid 450 Hz +1–2 dB, Treble +1 dB และปรับ Pickup Balance เข้า Bridge เล็กน้อยเพื่อให้โน้ตชัด
  • ร็อก/เมทัล: Bass +2–4 dB, Mid 700 Hz +2 dB เพื่อทะลุ mix ของวง, Treble +1–2 dB
  • ฟังก์/สแลป: Bass +2–3 dB, Mid 250 Hz -1 ถึง -2 dB (scoop), Treble +2–3 dB เพื่อประกาย slap
  • แจ๊ส/ฟิวชัน: ตั้งค่า flat เป็นหลัก, Mid 450 Hz +1–2 dB เพื่อความอุ่นและชัด


เคล็ดลับ: ใช้ EQ bypass เมื่ออยากได้ไดนามิกแบบ passive และใช้ Treble เป็น passive tone; ปรับ Pickup Balance เพื่อเลื่อนจุดโฟกัสของย่านกลางโดยไม่พึ่ง EQ มากเกินไป


ตัวอย่างการตั้งค่าอย่างรวดเร็วในห้องซ้อม

  1. ตั้ง Volume รวมที่ 70–80% เพื่อเหลือ headroom
  2. เลือก Mid 450 Hz เป็นค่าพื้นฐาน แล้วฟังร่วมกับกลองและกีต้าร์
  3. ปรับ Balance เข้า Bridge เล็กน้อยถ้าต้องการโทนคมและตัดผ่าน mix ของวง
  4. เปิด EQ bypass ช่วงเพลงช้าเพื่อไดนามิกที่เป็นธรรมชาติ


ตั้งค่า MR5S bridge และ string spacing ของ เบสไฟฟ้า Ibanez SR1455DW ให้พอดีมือ

MR5S bridge ปรับระยะสายได้ ±1.5 มม. ช่วยให้ผู้เล่นเลือกฟีลของมือขวาได้ตรงใจ:

  • ถ้าชอบ Slap และเล่นอาร์ติกูเลชันชัด ให้ขยายระยะเป็น ~18.5–19 มม.
  • ถ้าชอบสปีดและการพาดนิ้วใกล้กัน ให้ลดลงเล็กน้อย


ขั้นตอนตั้งค่าพื้นฐาน:

  1. คลายสายเล็กน้อยแล้วปรับ saddleทีละสาย
  2. เช็ค Action ที่เฟรต 12 ให้สมดุลทุกสาย
  3. ตั้ง intonation ด้วยเครื่องตั้งสายให้โน้ตเฟรต 12 เท่ากับฮาร์มอนิก
  4. ตรวจ relief ของคอให้พอดี (ค่าแนะนำราว 0.25–0.35 มม. ที่เฟรต 7–9)


เช็คลิสต์หลังตั้งค่า

  • โน้ตทุกตำแหน่งไม่ fret buzz ขณะเล่นแรง
  • ความสูงสาย B รู้สึกกระชับ ไม่ยวบ
  • โทนสม่ำเสมอเมื่อสลับตำแหน่งมือขวา


การเลือกสายและการดูแลรักษาในระยะยาว

     รุ่นนี้มาพร้อมชุดสาย D'Addario EXL165 + .130 ขนาดสาย .045/.065/.085/.105/.130 ให้ความสมดุลระหว่างความนิ่มมือและแรงดึงของสาย B:

  • ชอบโทนอุ่นและเล่นยาวนาน: เลือกสาย nickel wound และแบบเคลือบ
  • ชอบความคมและโทนที่ snap: เลือกสเตนเลสสตีล
  • ถ้าต้องการให้สาย B ตึงขึ้น : ให้พิจารณาใช้ขนาดสาย .135 แล้วตั้ง saddle ใหม่ให้เหมาะสม


การดูแลรักษา:

  • เช็ดสายหลังซ้อมทุกครั้งเพื่อลดคราบเหงื่อ
  • เช็ดบำรุง fingerboard Rosewood ด้วย oil บาง ๆ ปีละ 1–2 ครั้ง
  • เก็บใน gig bag และหลีกเลี่ยงความชื้นสูง/ความร้อนจัด
  • ตรวจสกรูและน็อตหัวลูกบิดเป็นระยะเพื่อความนิ่งของการตั้งสาย

โคลสอัพบอดี้หลังไม้มะฮอกกานีพร้อมฝาปิดวงจรและคอไม้ลามิเนตลายแถบ

แนวทางเลือกสายให้เข้ากับงาน

  • สตูดิโอ: เลือกสาย nickel wound แบบเคลือบบาง ให้โทนสมดุลและเสียงนิ่ง
  • เวที: ใช้สาย stainless steel เพื่อให้ตัดผ่าน mix ของวงได้ดี
  • โซล/อาร์แอนด์บี: เลือกสาย nickel wound + ขนาดสายมาตรฐาน เพื่อสัมผัสนุ่มมือ
  • เมทัล: เพิ่มขนาดสาย B และปรับ Mid 700 Hz เล็กน้อย เพื่อโฟกัส low-end


สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่


🛒สั่งซื้อได้ที่นี่


รีวิวโดย gooddymusic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น