กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีที่นำโทนไม้ธรรมชาติมาผสานกับความสะดวกในการต่อระบบเสียงได้อย่างลงตัว ในบรรดารุ่นที่ได้รับความนิยม กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Fender CD-140SCE 12 สาย โดดเด่นด้วยเสียงหนา รายละเอียดชัด และมิติกว้างจากการใช้สายคู่ 12 สาย ร่วมกับงานประกอบประณีตและระบบไฟฟ้าที่ใช้งานง่าย เหมาะทั้งซ้อมที่บ้าน อัดเสียง และขึ้นเวที
กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Fender CD-140SCE 12 สาย: โครงสร้างและงานไม้
บอดี้ (Body) เป็นทรงเดรดนอทแบบคัตอะเวย์ (เว้าชายลำตัวเพื่อเอื้อมถึงเฟรตสูง) ให้โทนเสียงใหญ่ ชัด และมีพลัง หน้าไม้สปรูซแท้ (Solid Spruce) ตอบสนองเร็ว โน้ตชัดแน่นไม่บวม
ด้านข้างและด้านหลังเป็นไม้โรวังกอล์ (Ovangkol) ให้ย่านกลาง–ต่ำอบอุ่น ละมุน และเพิ่มมิติความลึกของเสียง
ภายในใช้โครงสร้าง Scalloped X‑Bracing ช่วยให้หน้าไม้ยืดหยุ่นและสั่นได้ดี จึงได้ไดนามิกครบทั้งการตีคอร์ดและการเกาสาย รอบตัวกีต้าร์มีไบดิง (Binding) หลายชั้น เพิ่มทั้งความแข็งแรงและความสวยงาม ผิวเคลือบเงาทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ปิ๊กการ์ดลายกระช่วยป้องกันหน้าไม้เมื่อดีดแรง ๆ และเพิ่มสไตล์คลาสสิกแบบ Fender
กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Fender CD-140SCE 12 สาย: ระบบไฟฟ้า Fishman CD-1
ปรีแอมป์ Fishman CD‑1 ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริงทั้งบนเวทีและในสตูดิโอ ปรับ Volume, Bass และ Treble ได้จากตัวกีต้าร์โดยตรง มีจูนเนอร์ในตัวช่วยตั้งสายได้เร็วและแม่นยำ ไม่ต้องพกอุปกรณ์เพิ่ม เมื่อต่อเข้ามิกเซอร์หรือ audio interface โทนเสียงยังคงคมชัดและรักษาความเป็นเสียงไม้ตามธรรมชาติ ไม่แข็งหรือบางเกินไป
สเปกสำคัญที่ควรรู้ (อธิบายเป็นภาษาคนเล่น)
- คอและฟิงเกอร์บอร์ด (Neck & Fingerboard): คอไม้มะฮอกกานี ทรง Easy‑to‑Play จับถนัด ไม่ล้า ขอบฟิงเกอร์บอร์ดโค้งมน เลื่อนนิ้วได้ลื่น ไม่บาดมือ
- สเกล (Scale length) 25.3 นิ้ว: ระยะสายมาตรฐาน จูนง่าย กดสบาย การสั่น (sustain) คงที่ โน้ตชัดตั้งแต่ย่านต่ำถึงย่านสูง
- นัท (Nut) กว้าง 45 มม.: ระยะห่างระหว่างสายกว้างขึ้น กดคู่สายพร้อมกันได้ถนัด เหมาะกับกีต้าร์ 12 สาย
- เฟรต 20 ตำแหน่งแบบวินเทจ: ความสูงพอดี เลื่อนนิ้ว (slide) และทำ vibrato (สั่นเสียง) ได้คล่อง ควบคุมได้ง่าย ปลายนิ้วไม่สะดุดขอบเฟรต
- สะพานสาย (Bridge) และฟิงเกอร์บอร์ด (Fingerboard) ไม้วอลนัท: โทนกระชับ เก็บโน้ตชัด ดูแลไม่ยุ่งยาก
- ลูกบิดโครเมียมแบบ Die‑cast: มั่นคง ตั้งสายแล้วอยู่ ไม่หลุดเพี้ยนง่าย
- ฮาร์ดเคส (Hardshell Case): กันชื้น กันร้อน ลดแรงกระแทก เหมาะกับการพกพาและเก็บรักษาที่บ้าน
ประสบการณ์เล่นจริง: โทนหนา รายละเอียดชัด และเต็มเวที
จุดเด่นของ 12 สายคือเสียงคู่ที่ทำให้คอร์ดมีประกายและมิติมากขึ้น เมื่อเกาสายจะได้โน้ตที่ซ้อนกันสองระดับ ให้ความรู้สึกกว้างและลอยอย่างเป็นธรรมชาติ รุ่นนี้บาลานซ์เสียงดี ไม่บาดหู ย่านต่ำแน่น ย่านกลางชัด ย่านแหลมเป็นประกาย ใช้กับโฟล์ก ป็อป ร็อกเบา ๆ หรือบัลลาดก็ได้อารมณ์ครบ เติมรีเวิร์บหรือคอรัสเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มมิติเสียงบนเวทีได้มาก
ฟังคาแรคเตอร์โทนและความกว้างของ 12 สายจากตัวจริง
คลิป YouTube
เครดิต : Beh Ngiep Seng
แนะนำใส่หูฟังเพื่อเก็บรายละเอียดโทนเสียง
การตั้งสาย 12 สายแบบเข้าใจง่าย
กีต้าร์ 12 สายมี 6 คู่สาย คู่ E‑A‑D‑G ตั้งต่างกันหนึ่งช่วงเสียง (octave) ส่วนคู่ B และ e ตั้งเป็นเสียงเดียวกัน (unison) ทำตามขั้นตอนนี้จะตั้งได้เสถียรและไว
- ตั้งสายหลักของแต่ละคู่ให้ตรงด้วยจูนเนอร์ในตัว
- ตั้งสายคู่ที่เหลือให้ตรง ดึงยืดสายเบา ๆ แล้วตั้งซ้ำ 2–3 รอบ
- เช็คเสียงที่เฟรต 12 หากเพี้ยนมากให้ปรึกษาช่างเพื่อปรับแซดเดิล (Saddle) หรือคอ
เลือกความหนาของสาย (Gauge) ให้เหมาะกับมือและสไตล์
ความหนาของสาย (Gauge) ที่นิยมมีตั้งแต่ .010–.047 (แรงตึงต่ำ เล่นง่าย) ไปจนถึง .012–.052 (โทนหนา ชัด แต่ต้องออกแรงมากขึ้น) สำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำเริ่มที่ .010–.047 เพื่อถนอมมือ พอคุ้นแล้วค่อยลอง .011–.052 หรือ .012–.052 ตามสไตล์ที่ชอบ ควรเปลี่ยนสายเป็น “ทั้งชุด” ทุกครั้งเพื่อให้แรงตึงสมดุล และเลือกสายเคลือบเพื่อลดสนิมและยืดอายุการใช้งาน
ดูแลรักษาและการเซ็ตอัพที่ควรรู้
- เก็บกีต้าร์ในฮาร์ดเคส (Hardshell Case) เมื่อไม่ใช้งาน และรักษาความชื้นในช่วง 45–55%
- เช็คสายทุกครั้งหลังเล่น เพื่อลดคราบเหงื่อและยืดอายุการใช้งานของสาย
- ทำความสะอาดฟิงเกอร์บอร์ดด้วยน้ำมันสำหรับงานไม้ ปีละ 1–2 ครั้ง
- ปรับ truss rod (แกนเหล็กปรับความโค้งของคอกีต้าร์) ทีละน้อย (ไม่เกิน 1/8 รอบ) แล้วเช็คสภาพคออีกครั้งก่อนปรับต่อ
- ตรวจลูกบิด สายสะพาย และสกรู ให้แน่นอยู่เสมอ เพราะแรงตึงรวมของ 12 สายค่อนข้างสูง
- หากต้องการลดความสูงสาย (action) เพื่อเล่นเร็วหรือกดสบาย ให้ช่างปรับตั้งคอและสะพานสาย (Saddle) อย่างเหมาะสม
เคล็ดลับต่อระบบเสียงให้โทนใสและลด feedback
- เปิดโวลุ่มที่ตัวกีต้าร์ประมาณ 70–80% แล้วคุมระดับที่มิกเซอร์ (gain staging เพื่อเฮดรูม)
- ตั้งค่า EQ เริ่มต้นแบบกลาง ๆ: เบสราว “11 นาฬิกา” และแหลมราว “1 นาฬิกา” แล้วค่อยปรับตามสภาพห้อง
- ใช้สวิตช์ Phase/Polarity และ Notch filter (ถ้ามี) บนปรีแอมป์ Fishman เพื่อลด feedback เมื่อเล่นดัง ๆ
- ยืนห่างจากลำโพงมอนิเตอร์ และหลีกเลี่ยงการหันซาวด์โฮลเข้าหาลำโพง เพื่อลดโอกาสเกิด feedback
เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่อยากได้เสียงกว้างและมีมิติจาก 12 สาย ใช้ได้ทั้งซ้อม อัดเสียง และแสดงสด มือใหม่เล่นได้เพราะคอจับถนัด ระบบไฟฟ้าตั้งค่าง่าย และมีฮาร์ดเคสให้พร้อมพกพา ผู้ที่ชอบซาวด์โฟล์กสมัยใหม่หรือป็อปร็อกจะถูกใจกับโทนหนาและประกายเสียงของรุ่นนี้
เทคนิคการเล่นสำหรับ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Fender CD-140SCE 12 สาย ให้เสียงโปรขึ้น
- ตีคอร์ดด้วยแรงพอดีและคุมจังหวะ ให้เสียงคู่ไม่แตกพร่า เริ่มช้าแล้วค่อยเพิ่มความเร็ว
- ใช้ปิ๊กความหนาบางถึงกลาง (ประมาณ 0.60–0.73 มม.) ควบคุมการดีดคู่สายได้ง่าย ลดเสียงสะบัดเกินจำเป็น
- ฝึก arpeggio พื้นฐาน นิ้วหัวแม่มือดูแลสายเบส สลับกับนิ้วชี้‑กลาง‑นาง เพื่อให้ชั้นเสียงของคู่สายแยกชัด
- ใช้การปิดเสียง (muting) ด้วยฝ่ามือขวาหรือนิ้วซ้ายเมื่อยกคอร์ด เพื่อลดเสียงก้องจากสายคู่
- ทดลองใช้คาโปเพื่อเลื่อนคีย์ให้ร้องสบาย และช่วยลดความตึงมือเล็กน้อย กดให้เสมอเพื่อลดการเพี้ยนของคู่สาย octave
- เลือกตำแหน่งตี: ใกล้สะพานจะใสและคม ใกล้คอจะนุ่มและอุ่น ปรับตามเพลงและสภาพห้อง
- เอียงปิ๊กเล็กน้อยราว 10–15 องศา ช่วยให้ดีดผ่านสายลื่นขึ้น ลดเสียงฝืดจากคู่สาย
อุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Fender CD-140SCE 12 สาย เพื่อการใช้งานสะดวกและยืดอายุเครื่อง
- คาโปสำหรับ 12 สาย ให้แรงกดทั่วแผงสาย ลดการเพี้ยนของสายคู่
- เครื่องพันสาย/ตัดสาย ช่วยเปลี่ยนสายได้เร็ว แน่น และเท่ากันทุกเส้น
- เครื่องวัดความชื้นและตัวเพิ่มความชื้นสำหรับเคส รักษาช่วง 45–55% เพื่อความเสถียรของไม้และเฟรต
- ขาตั้งที่รองคอได้มั่นคง ลดความเสี่ยงจากแรงตึงรวมของ 12 สายเมื่อวางพัก
- ผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับเช็ดสายและตัวกีต้าร์หลังเล่นทุกครั้ง ลดคราบเหงื่อ ยืดอายุสาย
- ปิ๊กหลายความหนาเพื่อเลือกคาแรกเตอร์เสียงที่ต่างกัน และสำรองไว้กรณีตกหล่นบนเวที
- สายสะพายกว้างราว 5 ซม. ช่วยกระจายน้ำหนักเมื่อเล่นนาน ๆ
การตรวจรับและเช็คสภาพก่อนใช้งานครั้งแรก
- ตรวจรอยประกบระหว่างคอกับลำตัว ความแน่นของไบดิง (Binding) และจุดยึดต่าง ๆ
- ลูบนิ้วตลอดแนวเฟรต ตรวจจุดคม/สะดุด แล้วทดสอบเฟรตบัซ (fret buzz) โดยดีดทุกสายตั้งแต่เฟรต 1–12
- ตั้งสายให้ตรง แล้วเทียบเสียงเปิดสายกับเฟรต 12 เพื่อดูอินโทเนชันเบื้องต้น
- ทดสอบระบบไฟฟ้า: ปุ่มปรับ ช่องแบตเตอรี่ และการเสียบ DI/มิกเซอร์ ต้องไม่มีเสียงจี่ผิดปกติ
- ตรวจฮาร์ดเคส: บานพับ คลิปล็อก ซีลยาง และจุดรองคอ ต้องแน่นและใช้งานปกติ
ทางเลือกการอัดเสียงที่บ้าน: DI, ไมค์, หรือผสม
- ต่อแบบ DI ให้เสียงนิ่ง เคลียร์ จัดการง่าย เหมาะกับการทำเดโม่เร็ว ๆ
- ใช้ไมค์คอนเดนเซอร์เล็งบริเวณเฟรต 12 ระยะราว 20–30 ซม. ได้โทนไม้และอากาศธรรมชาติ
- ผสมสัญญาณ 50/50 ระหว่าง DI กับไมค์ ได้ทั้งความนิ่งและมิติห้อง
- เปิดฟิลเตอร์ตัดย่านต่ำ (High‑Pass) ราว 70–100 Hz ลดความบวม โดยเฉพาะเมื่อเล่นตีคอร์ดแรง
- ลองบันทึกสองเทค: เทคตีคอร์ดกับเทคเกาสาย แล้วปรับบาลานซ์ให้โปร่งและมีชั้นเสียง
สรุป
หากต้องการกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า 12 สายที่ให้ทั้งคุณภาพเสียง วัสดุ และความสะดวกในการใช้งาน รุ่นนี้ตอบโจทย์ครบ หน้าไม้สปรูซแท้ผสานโรวังกอล์ ระบบไฟฟ้า Fishman CD‑1 และฮาร์ดเคสที่แถมมาพร้อม ช่วยให้พร้อมใช้งานทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะซ้อม อัดเสียง หรือขึ้นเวที
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น