ถ้าเอ่ยถึงมือกีต้าร์สายอัลเทอร์เนทีฟเมทัลและเฮฟวีเมทัล ชื่อที่หลายคนนึกถึงทันทีคือ Jim Root จากวง Slipknot เขาโดดเด่นด้วยริฟฟ์หนักแน่น แม่นยำ และโทนเสียงคมชัด แนวคิดเรื่องเสียงของเขาถูกถ่ายทอดสู่เครื่องดนตรีซิกเนเจอร์อย่าง กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jim Root Jazzmaster ที่ตั้งใจทำมาให้เล่นได้มั่นใจทั้งบนเวทีและในสตูดิโอ จุดเด่นคือการเลือกวัสดุ ฮาร์ดแวร์ และวงจรไฟฟ้าที่เน้นพลัง ความทนทาน และดูแลง่าย
โครงสร้างและวัสดุที่ออกแบบเพื่อพลังเสียง กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jim Root Jazzmaster
- บอดี้: ไม้ มะฮอกกานี (Mahogany) โทนหนา แน่น กังวาน เหมาะกับริฟฟ์ที่ต้องการน้ำหนักเสียง
- เคลือบผิว: ซาตินยูรีเทน (Satin Urethane) ผิวด้าน ลดแสงสะท้อน จับถนัด เล่นนาน ๆ ไม่ลื่นมือ
- โครงสร้างบอดี้: เอวคอเว้า (Contoured Neck Heel) เอื้อมถึงเฟร็ตบนได้ง่ายขึ้น
- คอ: ไม้ เมเปิล (Maple) ทรง Modern “C” จับสบาย สมดุลน้ำหนักดี
- ฟิงเกอร์บอร์ด: อีโบนี (Ebony) ตอบสนองไว โทนคม โน้ตชัดเจน
- รัศมีฟิงเกอร์บอร์ด: รัศมีผสม 12″ → 16″ (Compound Radius) เล่นคอร์ดสบาย โซโล่ลื่น
- เฟร็ต: จัมโบ้ 22 เฟร็ต ควบคุมการดันสาย (bending) และไวบราโตได้ง่าย
- สเกลคอ: 25.5″ รักษาความตึงสาย เหมาะกับการตั้งสายแบบดร็อป
- นัท: ซินธิติกโบน (Synthetic Bone) กว้าง 42.8 มม. ช่วยคงเสถียรภาพการจูน
- ระบบร้อยสาย String‑through‑body: เพิ่มการสั่นและซัสเทน
- บริดจ์: ฮาร์ดเทล 6‑Saddle แซดเดิลทรงบล็อก ให้ความนิ่งและแม่นยำ
- ลูกบิด: แบบล็อกสาย (Locking Tuners) จูนง่าย เสียงนิ่ง เปลี่ยนสายรวดเร็ว
- ฮาร์ดแวร์/สี: อะไหล่สีดำ โทนรวมดุดัน เรียบเท่
- ปิกการ์ด: ไม่มี (No Pickguard) เส้นสายตัวบอดี้ดูสะอาดตา
- อินเลย์: ไม่มีบนหน้าฟิงเกอร์บอร์ด มีจุดบอกตำแหน่งด้านข้าง (Side‑dots) มองเห็นง่ายบนเวทีแสงน้อย
- หัวกีต้าร์: ทรงยุค ’70s มีลายเซ็น Jim Root ที่ด้านหลัง เพิ่มคุณค่าทางการสะสม
- งานพ่นสี: แลคเกอร์ซาติน (Satin Lacquer) ชั้นบาง ช่วยให้เสียงกังวานเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นด้านปิคอัพและระบบอิเล็กทรอนิกส์ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jim Root Jazzmaster
รุ่นนี้ใช้ปิคอัพฮัมบัคกิงแบบแอคทีฟของ EMG วาง EMG 60 ไว้ที่ตำแหน่งคอ และ EMG 81 ไว้ที่ตำแหน่งบริดจ์ ให้เสียงชัด รายละเอียดครบ และแรงขับดี เหมาะกับแนวที่ต้องการความดุดันอย่างอัลเทอร์เนทีฟเมทัลหรือฮาร์ดร็อก ระบบควบคุมตั้งใจให้เรียบง่าย มีปุ่มโวลุ่มหนึ่งปุ่มและสวิตช์ 3 ทาง ปรับอารมณ์เสียงได้รวดเร็วระหว่างเล่นจริง
บริดจ์ฮาร์ดเทลแบบร้อยสายทะลุตัวบอดี้ช่วยให้จูนเสียงนิ่งและได้ซัสเทนมากขึ้น ส่วนลูกบิดล็อกสาย (locking tuners) ช่วยให้เปลี่ยนสายไวและคงความเสถียรของเสียง ภาพระยะใกล้ของปิคอัพและบริดจ์จะเห็นฝาครอบนิกเกิลขัดด้าน (brushed nickel) และแซดเดิลทรงบล็อกที่รับแรงสั่นได้แน่นหนา
โทนเสียงและแนวเพลงที่เหมาะ
EMG 81 ที่บริดจ์ตอบสนองแรงดี ปลายเสียงคม เหมาะกับจังหวะริธึมที่ต้องการความกระชับของย่านต่ำ ส่วน EMG 60 ที่คอให้คาแรคเตอร์หนานุ่ม เหมาะกับคลีนใสหรือโซโล่ที่เน้นย่านกลาง สวิตช์ 3 ทางช่วยสลับอารมณ์ได้รวดเร็วจากเสียงแตกจัดจ้านไปสู่คลีนสะอาด ภาพระยะใกล้ของปุ่มโวลุ่มเพียงปุ่มเดียว แสดงให้เห็นแนวคิดการออกแบบแบบเรียบง่าย เน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้งานจริง จับถนัด และควบคุมการไล่ระดับโวลุ่ม (volume swell) ได้แม่น
ในแง่แนวเพลง รุ่นนี้เหมาะกับอัลเทอร์เนทีฟเมทัล เฮฟวีเมทัล และโพสต์ฮาร์ดคอร์ รวมถึงการตั้งสายแบบดร็อปที่ยังคงความตึงเพราะสเกล 25.5 นิ้ว ไม้บอดี้มะฮอกกานีร่วมกับฟิงเกอร์บอร์ดอีโบนีให้การตอบสนองเร็ว ปาล์มมิวต์แน่น และเมื่อเล่นคอร์ดที่มีหลายเสียงพร้อมกัน ตอนบันทึกเสียงจริงยังได้ยินโน้ตแต่ละตัวชัดเจน
ฟิงเกอร์บอร์ดและความสะดวกในการเล่น กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jim Root Jazzmaster
ฟิงเกอร์บอร์ดรัศมีผสม (compound radius) คือหัวใจของความสบาย ใกล้นัทมีรัศมี 12 นิ้ว จับคอร์ดได้ถนัด มือไม่เกร็ง และเสียงคอร์ดนิ่งไม่เพี้ยนง่าย เมื่อเลื่อนไปยังเฟร็ตบน ความโค้งของฟิงเกอร์บอร์ดจะค่อย ๆ ลดลง จนเป็นรัศมี 16 นิ้วเมื่อขึ้นไปยังเฟร็ตบน จึงดันสายและเล่นโซโล่เร็ว ๆ ได้โดยไม่ชนเฟร็ต ภาพระยะใกล้ของฟิงเกอร์บอร์ดโชว์เฟร็ตจัมโบ้ที่สูงและกว้าง ช่วยให้คุมการสั่นสาย (vibrato) และการดันสาย (bending) ได้แม่น
การไม่มีอินเลย์บนหน้าฟิงเกอร์บอร์ด แต่มีจุดบอกตำแหน่งด้านข้าง (side‑dots) ช่วยให้เห็นตำแหน่งนิ้วบนฟิงเกอร์บอร์ดได้ชัด และไม่บังสายตา โดยเฉพาะตอนเล่นบนเวทีที่แสงน้อย หัวกีต้าร์ด้านหน้าสกรีน Jazzmaster และด้านหลังมีลายเซ็น Jim Root สื่อความเป็นรุ่นซิกเนเจอร์ชัดเจน
ดีไซน์และงานประกอบที่ไม่ธรรมดา
ถึงจะเกิดมาเพื่อการใช้งานหนัก แต่งานประกอบยังพิถีพิถัน ผิวเคลือบแลคเกอร์แบบซาติน (satin lacquer) ให้ภาพลักษณ์เรียบ เท่ และดูแลง่าย การตัดปิกการ์ดออกทำให้เส้นสายของบอดี้ดูสะอาดตาและร่วมสมัย หัวกีต้าร์ทรงยุค ’70s พร้อมลายเซ็นของ Jim Root ที่ด้านหลัง เพิ่มคุณค่าทางการสะสมสำหรับแฟนเพลง
การใช้งานจริงและความคุ้มค่า กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jim Root Jazzmaster
สำหรับการเล่นสดหรืออัดเสียง รุ่นนี้ให้รายละเอียดคม คุมโทนได้ง่าย สลับเสียงระหว่างตำแหน่งคอกับบริดจ์ได้ฉับไว จูนสายเสถียร และทนมือทนงาน เคสแข็งสีดำลายทวีด (Deluxe Black Tweed Hardshell) ที่ให้มาช่วยปกป้องตัวเครื่องได้ดีเมื่อเดินทางบ่อย
เรื่องความคุ้มค่า แม้ไม่มีลูกเล่นหวือหวา แต่สิ่งที่ได้คือคุณภาพเสียง ความไว้วางใจ และการใช้งานที่ตรงจุด ซึ่งเป็นหัวใจของเครื่องดนตรีสำหรับมืออาชีพ ภาพด้านหลังของตัวกีต้าร์โชว์การร้อยสายทะลุตัวบอดี้และเอวคอที่ไล่เอียง เห็นงานประกอบที่เรียบร้อย
การจับคู่แอมป์และเอฟเฟค
เพื่อดึงศักยภาพของปิคอัพแบบแอคทีฟ เริ่มจากแอมป์ที่ให้ Gain สูงและมีไดนามิกดี จะเป็นหัวหลอดสมัยใหม่หรือแอมป์แบบโมเดลลิงก็ให้ผลสม่ำเสมอ จากนั้นบูสต์หน้าแอมป์ด้วย overdrive ที่ตั้ง Gain ต่ำ เพื่อเพิ่มความกระชับของย่านต่ำ ขณะเดียวกันใช้ noise gate เพื่อตัดเสียงจี่เมื่อใช้ Gain สูง ตั้ง EQ ให้ย่านกลาง‑สูงเด่นขึ้นเล็กน้อย จะช่วยให้ริฟฟ์เด่นขึ้น ไม่ถูกกลบโดยเครื่องดนตรีอื่นในมิกซ์ ส่วนโซโล่แนะนำ delay สั้นประมาณ 250–350 มิลลิวินาที และ reverb เล็กน้อยเพื่อเพิ่มมิติ ภาพบริดจ์ฮาร์ดเทลและลูกบิดล็อกสายในส่วนหัวกีต้าร์ สื่อถึงความนิ่งของการจูน เหมาะกับการเล่นยาว ๆ
การเซ็ตอัพและบำรุงรักษาเชิงปฏิบัติ
- ความสูงสาย (Action): วัดที่เฟร็ต 12 — สาย 6 (E) ประมาณ 1.8–2.0 มม., สาย 1 (e) ประมาณ 1.6–1.8 มม. เพื่อให้กดสายได้สบาย เล่นได้นานโดยไม่เมื่อยมือ
- ความโค้งคอ (neck relief): หมุนก้านคอ (truss rod) ทีละ 1/8 รอบ แล้วกดสายที่เฟร็ต 1 และเฟร็ตสุดท้าย ตรวจดูระยะที่เฟร็ต 7–9 โดยสอดใบวัดช่องว่าง (feeler gauge: แผ่นโลหะบางสำหรับวัดช่องว่าง) หรือบัตรพลาสติกบาง ๆ ระหว่างสายกับเฟร็ต ให้เหลือช่องว่างเล็กน้อยพอดี
- อินโทเนชัน (Intonation): ใช้เครื่องตั้งเสียง ปรับสกรูที่แซดเดิลให้เสียงที่เฟร็ต 12 เท่ากับสายเปิด (สายเปล่า) ช่วยลดอาการเพี้ยนเมื่อเล่นทั่วทั้งคอ
- ระยะปิคอัพ: ขณะกดสายที่เฟร็ตสุดท้าย ให้ระยะระหว่างสายกับปิคอัพประมาณ 2–3 มม. เพื่อรักษาไดนามิกและความชัด ไม่ให้สัญญาณแรงเกินไป
- แบตเตอรี่ 9V (ระบบแอคทีฟ): ถอดแจ็คออกทุกครั้งหลังเล่น เพราะวงจรจะกินไฟเมื่อเสียบอยู่ และวางแผนเปลี่ยนแบตทุก 6–12 เดือนตามความถี่การใช้งาน
แนวทางใช้งานบนเวทีและสตูดิโอ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Jim Root Jazzmaster
- ความนิ่งของการจูน: ลูกบิดล็อกสายและบริดจ์ฮาร์ดเทลช่วยลดการคลายตัวระหว่างเพลง เหมาะกับเซ็ตลิสต์ยาว ๆ
- สายสัญญาณและ Wireless: ช่องแจ็คด้านข้างเหมาะกับหัวแจ็คทรง L หรือแพ็ก Wireless ลดแรงงัดและเพิ่มความคล่องตัวบนเวที
- คุมเสียงรบกวน: วาง noise gate ไว้หลัง overdrive / boost เพื่อช่วยตัดเสียงจี่ตอนหยุดเล่น หากตั้ง Gain สูง ให้ใช้ noise gate สองจุด (ก่อนและหลังเสียงแตก) เพื่อรักษาเสียงยาว (sustain) ให้เป็นธรรมชาติ
- บันทึกเสียง: เริ่มจาก DI แล้วใช้ไฟล์จำลองตู้ (IR) เทียบกับการไมค์หน้าตู้จริง เช่น SM57/906 เลือกโทนที่เข้ากับเพลงที่สุด
- เคล็ดลับมิกซ์: ทำไฮพาส (high‑pass) ราว 70–80 Hz ไม่ให้ชนย่านเบส/กลอง แล้วแพนเสียงกีตาร์ไปทางซ้ายและขวาประมาณ 70–80% ของสเตอริโอ เพื่อให้มิกซ์ฟังดูกว้างและหนาขึ้น
สรุปภาพรวม
Jim Root Jazzmaster ไม่ได้มีดีแค่ลุคดุดัน แต่รวมจุดเด่นด้านวัสดุ การออกแบบ และฮาร์ดแวร์ที่ตอบโจทย์สายร็อก/เมทัลไว้ครบ ตั้งแต่บอดี้ไม้ มะฮอกกานี ปิคอัพ EMG แบบแอคทีฟ ฟิงเกอร์บอร์ด อีโบนี พร้อมเฟร็ตจัมโบ้ ไปจนถึงลูกบิดล็อกสายและบริดจ์ฮาร์ดเทล ผลลัพธ์คือเสียงแน่น ชัด เสถียร และใช้งานง่าย เหมาะทั้งมือใหม่ที่อยากได้กีต้าร์ที่จับแล้วมั่นใจ และมืออาชีพที่ต้องการความนิ่งในการทำงานจริง
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
รีวิวโดย gooddymusic
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น